กังสดาล เสียงในพระราชพิธีจากอดีตถึงปัจจุบัน

เดือนพฤศจิกายน 2566 เป็นช่วงเวลาพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ซึ่งพระกฐินหลวงเป็นพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นพุทธมามกะและเอกอัครพุทธศาสนูปถัมภก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐินด้วยพระองค์เอง และทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จพระราชินี พระราชโอรส พระราชธิดา เสด็จฯ ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ รวมทั้งพระกฐินที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระบรมวงศานุวงศ์ ราชสกุล องคมนตรี หรือผู้ที่ทรงพระราชดำริเห็นสมควรให้เสด็จฯ แทนพระองค์นำไปถวายยังพระอารามหลวงสำคัญ 18 พระอารามทั่วไทย

ปีนี้หมายกำหนดการถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ประจำปี 2566 เหลืออีก 2 พระอาราม ได้แก่ วัดพระปฐมเจดีย์ราขวรมหาวิหาร จ.นครปฐม  วันที่ 24 พ.ย. และวัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.พิษณุโลก  วันที่ 26 พ.ย 2566

ดนตรีในพระราชพิธี  เป็นมรดกศิลปวัฒนธรรมรัตนโกสินทร์ที่ต้องรักษาและสืบทอดไว้ให้มั่น นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา (อศน.) กล่าวว่า ในการพระราชพิธีจะมีการประโคมดนตรีปี่พาทย์ประกอบในงานพระราชพิธี ตามโบราณราชประเพณี ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมการศาสนา แต่เดิมเรียกว่า “เจ้าหน้าที่กองสังฆการี” มีหน้าที่ตีกังสดาล เพื่อให้สัญญาณ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ของกรมการศาสนามีหน้าที่ปฏิบัติงานในการพระราชพิธี  ทำหน้าที่ดูแลพระสงฆ์ กังสดาล คือ เครื่องดนตรีประเภทหนึ่ง หล่อด้วยสัมฤทธิ์หรือทองเหลืองมีลักษณะหลายแบบ เช่น ทรงกลม ทรงพัดด้านล่างเป็นวงเดือน มีเสียงแหลมคล้ายเสียงของระฆัง สันนิฐานว่า มีมาแต่ครั้งสมัยสุโขทัย ปรากฏหลักฐานในหนังสือไตรภูมิพระร่วง

สำหรับการตีกังสดาลในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินนั้น เมื่อพระมหากษัตริย์
หรือผู้แทนพระองค์มาถึงยังพระอุโบสถ เสียงแตรสังข์ ของแผนกพระราชพิธีดังขึ้น วงปี่พาทย์พระราชพิธีจะบรรเลงเพลงช้า จนกว่าองค์ประธานในพิธีส่งคืนเทียนชนวนให้แก่เจ้าหน้าที่กองพระราชพิธี เจ้าหน้าที่กรมการศาสนาจะตีกังสดาลให้สัญญาณแก่วงปี่พาทย์ พระราชพิธีหยุดการบรรเลง และจะตีกังสดาลให้สัญญาณอีกครั้งเมื่อเจ้าหน้าที่กรมการศาสนาที่ปฏิบัติหน้าที่ภายในพระอุโบสถ นิมนต์พระสงฆ์องค์ครองผ้าพระกฐินลงไปครองผ้า ณ เวลานั้นวงปี่พาทย์พระราชพิธี จะบรรเลงเพลงสาธุการ และตีกังสดาลให้สัญญาณหยุดอีกครั้ง เมื่อพระสงฆ์องค์ครองผ้าพระกฐินขึ้นนั่งยังอาสนะสงฆ์เรียบร้อยแล้ว องค์ประธานในพิธีจะทรงประเคนเครื่องบริวารกฐินตามลำดับของพระราชพิธี

อธิบดี ศน. กล่าวว่า ในสมัยก่อนปรากฏหลักฐานตามบทความของผู้ช่วยศาสตราจารย์อัศนีย์ เปลี่ยนศรี อาจารย์ประจำ สาขาวิชาการละคร คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เรื่องดนตรีในพระราชพิธีสมัยรัตนโกสินทร์ ได้อธิบายว่า “ สุดท้ายเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ถวายผ้าพระกฐินและอัฐบริขารแก่พระภิกษุสงฆ์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว พระสงฆ์ถวายอดิเรกและถวายพรลา ครั้นจะเสด็จกลับ เจ้าหน้าที่ของสังฆการี จึงตีระฆังอีกครั้งหนึ่ง ปี่พาทย์ก็จะบรรเลงเพลงกราวรำ” ตามบทความข้างต้นจะเห็นได้ว่า ก่อนเสด็จกลับเจ้าหน้าที่กรมการศาสนาจะตีกังสดาลให้สัญญาณอีกครั้งหนึ่ง วงปี่พาทย์พระราชพิธีจะบรรเลงเพลงกราวรำเป็นอันเสร็จสิ้นการพระราชพิธี

“  กรมการศาสนามีหน้าที่สนองงานใต้เบื้องยุคลบาทในฐานะเจ้าพนักงานผู้ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับสงฆ์ (สังฆการี) ในงานพระราชพิธี พระราชกุศล รัฐพิธี และศาสนพิธีต่างๆ จะต้องปฏิบัติสมพระเกียรติและถูกต้องตามโบราณราชประเพณี ซึ่งพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ผู้ให้สัญญาณตีกังสดาล ถือเป็นสิ่งสำคัญในการปฏิบัติงานเพื่อเป็นการสืบสาน รักษา และต่อยอด เพื่อให้ขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมให้ดำรงอยู่สืบไป “ นายชัยพล กล่าว

กังสดาล เครื่องดนตรีโบราณ บ่งบอกถึงร่องรอยจากอดีตสู่ปัจจุบัน มีคุณค่าและความสำคัญเชนเดียวกับวงปี่พาทย์ซึ่งประโคมบทเพลงที่ไพเราะ มีความศักดิ์สิทธิ์ ขลัง และเสียงทรงพลังในพระราชพิธีเพื่อถวายแด่พระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่   พระราชกรณียกิจเสร็จสิ้นสร้างความร่มเย็นเป็นสุขแก่พสกนิกรไทยใต้ร่มพระบารมี

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พิกัด 11 วัด งานอารามอร่ามประดับไฟรับปีใหม่

เพื่อส่งมอบความสุขปลายปีและเสริมสิริมงคลแก่ชีวิต กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) จัดกิจกรรม “อารามอร่าม 11 วัด 1  โบสถ์พราหมณ์1 พิพิธภัณฑ์ ประดับไฟฉลองต้อนรับเทศกาลปีใหม่ 2568 “ ถือเป็นอีกหมุดหมายที่ห้ามพลาดและไม่ได้จัดเป็นประจำ เพราะ