แสงสีเสียง '101 ปี พระราชวังพญาไท' คืนวันสุดท้าย

วันสุดท้ายกับการเปิดประวัติศาสตร์อันงดงามในบรรยากาศแห่งความสุขสุดอลังการกับการจัด NIGHT MUSEUM สุดตระการตาด้วยการแสดงศิลปะแสง สี เสียง บนพื้นที่พระราชวังพญาไทกับการเฉลิมฉลอง “101 ปี พระราชวังพญาไท” THE GLORY OF SIAM โดยมูลนิธิอนุรักษ์พระราชวังพญาไท ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี 

การจัดงานเฉลิมฉลอง “101 ปี พระราชวังพญาไท” THE GLORY OF SIAM ครั้งนี้ รวบรวมทีมงานคุณภาพระดับแถวหน้าของเมืองไทย อาทิ อาม่า สตูดิโอ (AMA STUDIO) ทีมคุณภาพด้านการสร้างภาพลักษณ์ให้กับแหล่งอนุรักษ์โบราณกลับมาเป็นที่ถูกกล่าวถึง อาทิ โครงการ “ล้ง1919” ดีไซนด์ คิท (DecideKit) ทีมงานที่ดูแลออกแบบกราฟิกเคลื่อนไหว ด้วยเทคนิค PROJECTION MAPPING ของงานในครั้งนี้ ณ สัทธา (Na Satta) ทีมงานเชี่ยวชาญด้านออกแบบและติดตั้งไฟประดับ LIGHTING INSTALLATION ผู้ก่อตั้ง ณ สัทธา อุทยานไทย จ.ราชบุรี (อุทยานการเรียนรู้ทางด้านประวัติศาสตร์ พุทธศิลป์และวัฒนธรรมไทย) ฟอส ไลท์ติ้ง ดีไซน์ (FOS Lighting Design) รับหน้าที่ออกแบบและติดตั้งแสงสว่างภายนอกของงานสถาปัตยกรรม ไลท์ซอร์ส (LightSource) บริษัทผู้ให้บริการระบบแสงชั้นนำครบวงจร ที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมบันเทิง อันดับ 1 ของประเทศไทย มีประสบการณ์มากกว่า 37 ปี

เป้าหมายสำคัญการรวมตัวครั้งนี้เพื่อแสดงศักยภาพทางด้านการสร้างสรรค์ผลงานอันทรงคุณค่า และระบบแสงสีเสียงที่ทันสมัยโดยฝีมือคนไทย ให้ทัดเทียมงานระดับโลก อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่ศิลปินผู้ออกแบบงานศิลปะร่วมสมัยบนสถานที่อันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ออกสู่สายตาชาวไทยและชาวต่างชาติ ให้เข้ามาชื่นชมความงดงามของ พระราชวังพญาไท ในรูปแบบพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน (NIGHT MUSEUM)

ย้อนเวลากลับไปหลังพ.ศ. 2465 พระราชวังพญาไทเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวหมู่พระที่นั่งสำคัญที่ปรากฏมาถึงปัจจุบัน ได้แก่ พระที่นั่งไวกูณฐเทพยสถาน พระที่นั่งพิมานจักรี พระที่นั่งศรีสุทธนิวาส พระที่นั่งเทวราชสภารมย์ พระที่นั่งอุดมวนาภรณ์ รวมถึงพระตำหนักเมขลารูจี อาคารเทียบรถพระที่นั่ง ปัจจุบัน คือ ร้านกาแฟนรสิงห์ และ สวนโรมัน โดยรูปแบบในการจัดแสดงนิทรรศการพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน (NIGHT MUSEUM) ท่านจะได้พบกับFREE AREA บริเวณพระที่นั่งพิมานจักรี พระที่นั่งเทวราชสภารมย์

โซนที่ 1 ARCHITECTURE LIGHTING & PROJECTION MAPPING : ต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยการฉายภาพแสง กับงานออกแบบภาพเคลื่อนไหว ร่วมกับการแสดงศิลปะสถาปัตยกรรมเปรียบเสมือนอาคารทรงสูงหน้าพระที่นั่งพิมานจักรี เป็นหนังสือเล่มใหญ่ที่บอกเล่าเรื่องราวพระราชกรณียกิจและพระปรีชาญาณของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 อาทิ กิจการการประปา ไปรษณีย์อากาศ และบทพระราชนิพนธ์ ด้วยเทคนิค PROJECTION MAPPING ณ พระที่นั่งพิมานจักรี ซึ่งโชว์นี้จะเริ่มตั้งแต่เวลา 18.45 – 21.30 น.

โซนที่ 2 ARCHITECTURE LIGHTING & INTERIOR LIGHTING : นิทรรศการจัดแสดงแสงไฟและดนตรี เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมความงดงามสถาปัตยกรรมแบบ Byzantine ณ พระที่นั่งเทวราชสภารมย์ เดิมเป็นท้องพระโรงในสมัยสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งเสด็จมาประทับ ณ วังพญาไท เมื่อ พ.ศ. 2453 โดยยังปรากฏอักษร พระนามาภิไทย สผ (พระนามเดิม สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี)  

ส่วน TICKET AREA ตระการตา LIGHTING INSPIRATIONS พบกับงานสร้างสรรค์ผลงานไฟที่วิจิตรตระการตา บนพื้นที่ประวัติศาสตร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6

โซนที่ 3 PROJECTION MAPPING ต้อนรับบรรยากาศ NIGHT MUSEUM โดยสัมผัสความ ระยิบระยับรับแสงแห่งอุโมงค์ บริเวณโถงทางเข้า ความยาว 20 เมตร ผ่านเส้นทางสว่างไสวของแสงระยิบ บันทึกความทรงจำครั้งหนึ่งที่พระราชวังพญาไท ในวาระ 101 ปี แห่งการสถาปนา กับเทคนิคการแสดงแสงไฟสะท้อนผ่านกระจกเงาให้มีมิติ

ร่วมชมพระอัจฉริยภาพ พระราชนิพนธ์ ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 6 พระปรีชาสามารถด้านวรรณกรรมและกวีนิพนธ์ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ กล่าวได้ว่าทรงเป็น พระมหากษัตริย์นักปราชญ์พระองค์หนึ่งของโลก โดยภายใน ห้องธารกำนัล หรือ ห้องรับแขก ได้นำวรรคทองจากบทพระราชนิพนธ์ อาทิ วิวาหพระสมุท โคลงภาษิตนักรบโบราณ โคลงสยามานุสสติ โรเมโอและจูเลียต เวนิสวานิช มาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบภาพเคลื่อนไหว กับ เทคนิค PROJECTION MAPPING อันสวยงาม

ต่อด้วยสง่างามยามยล ทางเสด็จพระราชดำเนินขึ้นสู่ชั้น 2 พระที่นั่งพิมานจักรี และร่วมรับชม “101 ปี พระราชวังพญาไท จากวันนั้นถึงวันนี้” สารคดีประวัติความเป็นมาของพระราชวังพญาไท ที่มีพัฒนาการกว่า 100 ปี ตลอดระยะเวลา 6 แผ่นดิน บนจอโทรทัศน์

โซนที่ 4 PROJECTION MAPPING & LIGHTING INSTALLATION :

จากนั้นเดินต่อเนื่องมาพบกับพลังแห่งพญามังกร ประติมากรรมพญามังกรชูวชิราวุธ มกร หรือ มังกร คืองูใหญ่ นอกจากจะเป็นสัญลักษณ์ของจอมจักรพรรดิ์แล้ว ยังเป็นตราประจำปีมะโรง นักษัตรซึ่งเป็นปีพระบรมราชสมภพของรัชกาลที่ 6 ด้วย

สวนรื่นรักมัทนา สวนโรมัน เป็นส่วนของพระราชอุทยานประจำพระราชวังมาแต่แรก รัชกาลที่ 6 ทรงวางผังตามแนวคิดการออกแบบพระราชวังในยุโรป กลางสระมีประติมากรรมรูปพระวรุณ หรือ พระพิรุณ เทพเจ้าแห่งน้ำและสายฝน

พร้อมเชิญชวนนักท่องเที่ยวสัมผัสบรรยากาศของพระราชวังพญาไท ผสมผสานจินตนาการในโลกศิลปะการแสดง แสง สี เสียง อันน่าอัศจรรย์ ด้วยการยิง PROJECTION MAPPING เข้าส่วนหลังของพระที่นั่งพิมานจักรี โดยจัดแสดงวิจิตรจินตนาการ “มัทนะพาธา” ตำนานแห่งดอกกุหลาบ ที่วรรณคดีสโมสร ยกย่องให้เป็นยอดของบทละครพูดคำฉันท์มาดำเนินเรื่องในชุด “แสงสิเนหา ณ แรกรัก” เป็นรอบทุกๆ 20 นาที ได้แก่ รอบที่ 1 เวลา 18.45 – 18.50 น. รอบที่ 2 เวลา19.10 – 19.15 น. รอบที่ 3 เวลา 19.35 – 19.40 น. รอบที่ 4 เวลา 20.00 – 20.05 น.รอบที่ 5 เวลา 20.25 – 20.30 น. รอบที่ 6 เวลา 20.50 – 20.55 น. ถือเป็นอีกหนึ่งโซนไฮไลต์ในการจัดแสดงงานไฟสุดตระการตา พร้อมพบสวนกุหลาบจำลอง จำนวน 2,466 ดอก เพื่อระลึกถึงในหลวง รัชกาลที่ 6 ที่ทรงพระราชนิพนธ์เรื่อง “มัทนะพาธา” สำเร็จ ในปี พ.ศ. 2466 ณ สวนโรมันอีกด้วย

โซนที่ 5 LIGHTING INSTALLATION :

พื้นที่ต่อจากสวนโรมันด้านเหนือเคยเป็นส่วนของสวน “ดุสิตธานี” เมืองจำลองที่รัชกาลที่ 6 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น เพื่อให้ข้าราชบริพารทดลองเรียนรู้การปกครองท้องถิ่นและระบอบประชาธิปไตย ปัจจุบันเป็นที่ตั้งอาคารสมิตสโมสร

พบกับพรหมพฤกษ์ตระการตา ณ แดนโกเมศวิเศษพร สัมผัสงานอาร์ตกับการจัดแสดงแสงไฟ อันงดงามมีมิติ กับ Field of Light มี 3 ส่วน ต้นไม้ใหญ่ นำเทคนิค PROJECTION ร่วมกับงาน DYNAMIC LIGHTING มีไฟประดับแอลอีดี สร้างบรรยากาศเหมือนมีหิ่งห้อยบินรอบต้นไม้แฟนตาซีดั่งสรวงสวรรค์  โดยหิ่งห้อยจะร้อยเรื่องราวต่อเนื่องไปที่ทุ่งกุหลาบขาวซึ่งเป็นตัวแทนของสวนมัทนะพาธา โดยนำวรรคทองของบทพระราชนิพนธ์ ใน รัชกาลที่ 6 มาฉาย PROJECTION MAPPING บน SMART GLASS และดอกบัวนับพันดอก แสดงถึงการรำลึกถึงพระคุณูปการอันใหญ่หลวงของในหลวง รัชกาลที่ 6 ที่ทรงมีต่อประเทศไทยและคนรุ่นหลัง

โซนที่ 6 LIGHTING INSTALLATION ในโซนนี้ใช้เทคนิคย้อมไฟใส่ต้นไม้บริเวณสวนหย่อม ตามเส้นทาง ไปสักการะพระนาคปรกนำโชคคุ้มครอง และ พลังเมตตาจากท้าวหิรัญพนาสูร พื้นที่ทางทิศเหนือของหมู่พระที่นั่ง ยาวไปจรดคลองสามเสน ซ้ายมือมีหอพระพุทธรูปนาคปรก “พระมหานาคชินะวร วรานุสรณ์มงกุฎราช” เป็นพระพุทธรูปประจำพระราชวัง

ถัดมาเป็นศาล “ท้าวหิรัญพนาสูร” รัชกาลที่ 6 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2465 เชื่อกันว่าท้าวหิรัญเป็นอสูรชาวป่าใจภักดี คอยติดตามป้องกันมิให้เกิดภยันตรายแก่รัชกาลที่ 6 ในยามเสด็จพระราชดำเนินในพื้นที่ดงดอน

ร่วมภาคภูมิใจ กับ งานเฉลิมฉลอง “101 ปี พระราชวังพญาไท” THE GLORY OF SIAM ผ่านกาลเวลาอันทรงคุณค่า สู่เรื่องเล่าของประวัติศาสตร์บทใหม่ที่มีชีวิตในบรรยากาศ NIGHT MUSEUM ได้ ตั้งแต่วันนี้ จนถึง วันเสาร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2567 เวลา 18.00 – 21.30 น. ณ พระราชวังพญาไท          

เปิดจำหน่ายบัตรเพื่อเข้าชมงานเฉลิมฉลอง “101 ปี พระราชวังพญาไท” THE GLORY OF SIAM ในรูปแบบพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน (NIGHT MUSEUM)   สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย แบ่งเป็นเด็ก (อายุ 6 – 12 ปี) ราคา 100 บาท ผู้ใหญ่ ราคา 200 บาท  สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ แบ่งเป็นเด็ก (อายุ 6 – 12 ปี) ราคา 250 บาท ผู้ใหญ่ ราคา 400 บาท

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พัฒนาเมืองเพชร ดัน'พระนครคีรี'มรดกโลก

ครม.สัญจรแรกหลังรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ลงพื้นที่แข็งขันตรวจเยี่ยมการพัฒนาศักยภาพแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม 3 แห่ง ของ จ.เพชรบุรี ได้แก่ ศูนย์วัฒนธรรมไทยทรงดำ อ.เขาย้อย

อุทยานแห่งชาติฯพีพี เร่งปิดจุดดำน้ำตื้น-ดำน้ำลึกบางจุด หลังพบปะการังฟอกขาว

นายยุทธพงค์ ดำศรีสุข หน.อช.หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เปิดเผยว่า ตามข้อสั่งการ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนา