‘หมอมนูญ’ เตือนโควิดหลังสงกรานต์เปลี่ยนไป ใครมีอาการแบบนี้รีบตรวจ ATK

21 เม.ย.2567-นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าห้องไอซียูเฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ ประจำโรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า เป็นไปตามคาด หลังเดินทางกลับจากการท่องเที่ยวไม่ว่าในประเทศหรือต่างประเทศช่วงเทศกาลสงกรานต์ คนไทยติดเชื้อไวรัสโควิดเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

อาการของโรคโควิดเปลี่ยนไป ส่วนใหญ่เป็นอาการของทางเดินหายใจส่วนบน คอ จมูก มากกว่าทางเดินหายใจส่วนล่าง หลอดลม และปอด คนติดเชื้อไวรัสโควิดจะมีอาการเด่นคือ เจ็บคอมาก ไข้ต่ำๆ  มีน้ำมูก คัดจมูกเล็กน้อย จมูกได้กลิ่น ไม่ค่อยไอ ไม่เหนื่อย คนที่มีอาการเช่นนี้ขอให้แยงจมูกตรวจ ATK เอง ถ้าเห็น 2 ขีด แสดงว่าติดเชื้อไวรัสโควิด

สำหรับคนที่ร่างกายแข็งแรง เคยฉีดวัคซีนแล้ว และเคยติดเชื้อโควิดมาแล้ว ไม่ต้องตกใจ ให้รักษาตามอาการ ไม่ต้องกินยาต้านไวรัส จะดีขึ้นเองภายในเวลาไม่กี่วัน

ส่วนคนกลุ่ม 608 คนสูงอายุ มีโรคประจำตัว ไม่เคยติดเชื้อโควิดมาก่อน หรือไม่เคยฉีดวัคซีนป้องกันโควิดแม้แต่เข็มเดียว แนะนำให้พบแพทย์ด่วนเพื่อรับการรักษาด้วยยาต้านไวรัส

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'หมอธีระวัฒน์' แจง 5 ข้อ พูดเรื่องผลกระทบการวัคซีนโควิดทำไม ในเมื่อมันผ่านไปแล้ว

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า

‘หมอมนูญ’ เผยผลติดตามสถานการณ์ 5 โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ

ข้อมูลของโรงพยาบาลวิชัยยุทธที่ติดตามโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่เกิดจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ไวรัสไข้หวัดใหญ่  ไรโนไวรัส (Rhinovirus) อาร์เอสวี (RSV) และ ฮิวแมนเมตะนิวโมไวรัส Human metapneumovirus (hMPV)

‘หมอยง’ ย้ำโควิดยังสายพันธุ์โอมิครอน JN.1 ไม่รุนแรง หายไข้-ไอมาก 1 วัน ใส่แมสทำงานได้

โควิด 19 ได้เปลี่ยนแปลงลดความรุนแรงลง จนปัจจุบันความรุนแรงเท่ากับโรคไข้หวัดใหญ่ RSVและเป็นการระบาดตามฤดูกาล

อาจารย์หมอ วิเคราะห์การระบาดโควิด มาจาก โอมิครอน สายพันธุ์ JN.1 เป็นหลัก

แม้ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ไทยจะเป็นขาลง แต่จำนวนคนที่ติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันยังมีจำนวนไม่น้อย จึงควรใช้ชีวิตโดยไม่ประมาท

อาจารย์หมอจุฬาฯ วิเคราะห์การระบาดโควิดไทย อยู่ในช่วง ’ขาลง’

ตัวเลขสัปดาห์ล่าสุด 25 กุมภาพันธ์ - 2 มีนาคม 2024 จำนวนผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาล 462 ราย เสียชีวิต 2 ราย ปอดอักเสบ 263 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 91 ราย