ทีมวิจัยจากภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำโดย รศ.ดร.ปรวีร์ พรหมโชติ และ รศ.ดร.วิเชฏฐ์ คนซื่อ ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ร่วมกับนักวิจัยจากภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ Graduate School of Human and Environmental Studies มหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น นักวิจัยจากสถาบันอื่น และหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่ตื่น จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมกันศึกษาและตั้งชื่อกะท่างน้ำจากดอยสอยมาลัย ซึ่งเป็นกระท่างน้ำชนิดใหม่ของโลกในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่ตื่น จังหวัดตาก ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศไทย การค้นพบกะท่างชนิดใหม่ของโลกนี้ได้รับการเผยแพร่ในวารสารนานาชาติระดับ Q1 (ZooKeys 1215: 185–208) https://doi.org/10.3897/zookeys.1215.116624
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2558 มีการเผยแพร่ข่าวการพบกะท่างน้ำบริเวณยอดดอยสอยมาลัย ทำให้ทีมวิจัยนำโดย รศ.ดร.ปรวีร์ พรหมโชติ และ รศ.ดร.วิเชฏฐ์ คนซื่อ จากภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ติดตามข่าวดังกล่าวเพื่อค้นหากะท่างน้ำชนิดนี้เป็นเวลาหลายปี จนกระทั่งในวันที่ 31 สิงหาคม 2565 ทีมวิจัยได้ทำการสำรวจเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนยอดดอยสอยมาลัย ที่ระดับความสูง 1,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล และค้นพบกะท่างน้ำตัวเต็มวัยและตัวอ่อนอยู่ในแอ่งน้ำบนถนนหลังจากการค้นหามานานหลายปี
กะท่างน้ำชนิดใหม่นี้ถูกตั้งชื่อตามสถานที่ค้นพบว่า “กะท่างน้ำดอยสอยมาลัย” มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Tylototriton soimalai เพื่อเป็นเกียรติแก่ดอยสอยมาลัย กะท่างน้ำดอยสอยมาลัยมีลักษณะสัณฐานที่แตกต่างจากกะท่างน้ำชนิดอื่น ๆ ในสกุลเดียวกัน โดยมีลักษณะเฉพาะคือ หัวมีความยาวมากกว่าความกว้าง ปลายจมูกทู่หรือเป็นปลายตัด สันกระดูกกลางหัวแคบ สั้น และชัดเจน แนวสันกระดูกข้างหัวเด่นชัดและขรุขระ มีต่อมพิษหลังตาที่เห็นได้ชัดเจน สันกระดูกสันหลังเด่นชัด กว้าง และไม่แบ่งเป็นท่อน มีต่อมพิษข้างลำตัว 14–16 ตุ่มซึ่งมีลักษณะกลมและแยกออกจากกัน
ยกเว้นส่วนหลังที่เชื่อมต่อกัน สีพื้นลำตัวเป็นสีดำและส่วนอื่น ๆ มีสีส้ม การวิเคราะห์ระดับโมเลกุลในยีน NADH dehydrogenase subunit 2 (ND2) ในไมโทคอนเดรีย พบว่ากะท่างน้ำดอยสอยมาลัยเป็นชนิดที่แยกต่างหาก โดยมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกะท่างน้ำเหนือ (T. uyenoi) มากที่สุด โดยมีความแตกต่างของลำดับพันธุกรรม 4.1%
ปัจจุบันการค้นพบกะท่างน้ำดอยสอยมาลัยนี้ยังอยู่ในวงแคบเฉพาะบริเวณยอดดอยสอยมาลัยเท่านั้น ยังไม่มีการค้นพบในพื้นที่อื่น ๆ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอนุรักษ์และดูแลพื้นที่ดังกล่าวให้ปราศจากการรบกวนจากกิจกรรมของมนุษย์โดยเฉพาะในฤดูผสมพันธุ์ ซึ่งกะท่างน้ำดอยสอยมาลัยจะอาศัยอยู่ในบริเวณแอ่งน้ำบนถนนเพื่อสืบพันธุ์และการเติบโตของตัวอ่อนจนกว่าจะถึงระยะโตเต็มวัย
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกะท่างน้ำ กะท่างน้ำหรือที่เรียกในภาษาอังกฤษว่า “crocodile newt” เป็นสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกกลุ่มหนึ่งที่มีความใกล้เคียงกับกบ เขียด และคางคก โดยมีรูปร่างลำตัวยาวขามีทั้งขาหน้าและขาหลัง หางยาว หัวกลมมน มีผิวหนังค่อนข้างแห้งและขรุขระ มีตุ่มเรียงเป็นแถวอยู่ด้านข้างตัวออกลูกเป็นไข่ที่มีเปลือกเป็นวุ้น ตัวอ่อนเติบโตในน้ำและมีพู่เหงือกทั้งสองข้างของส่วนหัวซึ่งจะหายไปหรือลดรูปเมื่อเข้าสู่ระยะตัวเด็กและตัวเต็มวัยที่จะอาศัยอยู่บนบก.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แม่สอด ‘ฉก.ราชมนู’ สกัดจับกลางดึก แอบลักลอบนำเข้าโคเพศผู้ผิด กม. 18 ตัว
ผู้บังคับการทหารหน่วยเฉพาะกิจราชมนู ( ฉก.ราชมนู) สั่งการให้ ทหาร ฉก.ราชมนู โดย ร้อย.ร.433 ออกลาดตระเวนและเฝ้าตรวจแนวชายแดนไทย-เมียนมา
“Night Museum at Chula” สัมผัสเสน่ห์แห่งพิพิธภัณฑ์จุฬาฯ ยามค่ำคืน
จุฬาฯ เปิดพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ให้ชมยามค่ำคืนเป็นพิเศษในงาน “Night Museum at Chula” 13 – 15 ธ.ค.นี้ 16.00 – 22.00
จุฬาฯ ปักธงยุทธศาสตร์ปี 68 ดันสยาม-บรรทัดทอง สู่พื้นที่สร้างโอกาสให้คนไทยทุกคน
ถ้าใครมีโอกาสแวะมาเดิน Siam Square ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ อาจจะแปลกใจ ที่สยามสแควร์ไม่ใช่เป็นเพียงพื้นที่สำหรับนักช็อป หรือวัยรุ่นที่มาเปิดหมวกร้องเพลงเท่านั้น
จุฬาฯ จับมือกรม Climate Change และเครือข่ายพันธมิตรภาคเอกชน เปิดตัวหลักสูตร “TOP Green” หลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้าน Sustainability
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม หอการค้าไทย และสภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ UN Global Compact Network Thailand
จุฬาฯ “เปิดแพลตฟอร์ม ฝ่าพิบัติ: Digital War Room” นวัตกรรมเตือนพื้นที่น้ำท่วมและแนวดินถล่มจากอุทกภัย
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจัดงานเสวนาวิชาการ Chula the Impact ครั้งที่ 25 เรื่อง “แพลตฟอร์มจุฬาฯ ฝ่าพิบัติ: Digital War Room” เพื่อนำเสนอนวัตกรรมจากคณาจารย์นักวิจัยจุฬาฯ