
ปีนี้นับเป็นมหามงคลกาลที่ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ต้นที่ 4 ณ พุทธคยา สาธารณรัฐอินเดีย ซึ่งพระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ มีอายุล่วงเข้า 146 ปี เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาตามรอยพระบาทพระศาสดานำมาสู่การจัดทำโครงการบรรพชาอุปสมบทถวายเป็นพุทธบูชาในโอกาสครบ 146 ปี มงคลกาลต้นพระศรีมหาโพธิ์ และน้อมเกล้าอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ที่วัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี จ.สมุทรปราการ เมื่อวานนี้ โดยมีพระพรหมวชิรโพธิวงศ์ หัวหน้าพระธรรมทูติ สายประเทศอินเดีย-เนปาล เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา สาธารณรัฐอินเดีย เป็นประธานฝ่ายบรรพชิต นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฝ่ายคฤหัสถ์

นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา ร่วมกับวัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี พระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย – เนปาล และวัดไทยพุทธคยา จัดทำโครงการบรรพชาอุปสมบท “มหาวชิราโพธิ รุ่น 3″ จำนวน 73 รูป ระหว่าง วันที่ 4 – 16 มี.ค.พ.ศ. 2568 ณ วัดไทยพุทธคยา อินเดีย เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาในโอกาสครบ 146 ปี มงคลกาลต้นพระศรีมหาโพธิ์ และน้อมเกล้าอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทร รามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ โครงการบรรพชาอุปสมบทถวายเป็นพระราชกุศลครั้งนี้ พระพรหมวชิรโพธิวงศ์ หัวหน้าพระธรรมทูติ สายประเทศอินเดีย-เนปาล เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา อินเดีย เชิญชวนพุทธศาสนิกชนสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบท
“ โครงการนี้จัดทำขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และผู้เข้าร่วมโครงการจะได้ปฏิบัติธรรมถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา เฉลิมฉลองในโอกาสมหามงคลกาลที่ต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นที่ 4 มีอายุล่วงเข้า 146 ปี ผู้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาได้เข้ารับการบรรพชาอุปสมบทศึกษา และปฏิบัติธรรม บำเพ็ญคุณความดีถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา มีโอกาสได้ละเว้นภารกิจทางโลกเข้าศึกษาและปฏิบัติธรรม เจริญจิตภาวนา ณ ดินแดนต้นกำเนิดแห่งพระพุทธศาสนา เจริญตามรอยเนกขัมมบารมีที่พระบรมศาสดาได้ทรงวางไว้ให้กุลบุตรกุลธิดาทั้งปวง ได้น้อมนาหลักธรรมที่ได้รับมาไปใช้ให้เกิดผลจริง ในชีวิตประจำวัน เกิดความร่มเย็น เป็นสุขในการดารงชีวิต เสริมสร้างประสิทธิภาพในการประกอบภารกิจหน้าที่ ทั้งต่อตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ เป็นการสืบทอดวิถีธรรมและหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาให้คงอยู่และเจริญรุ่งเรืองด้วยความร่วมมือร่วมใจกันของพุทธศาสนิกชน ได้ทำหน้าที่พุทธบริษัทเชื่อมศาสนสัมพันธ์ 2 แผ่นดิน คือแผ่นดินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย และแผ่นดินพุทธภูมิ สาธารณรัฐอินเดีย ให้เป็นหนึ่งเดียว “ นายชัยพล กล่าว

นายชัยพล กล่าวต่อว่า การบรรพชาอุปสมบทศึกษาและปฏิบัติธรรมครั้งนี้ ตนร่วมบรรพชาอุปสมบทโครงการ “มหาวชิราโพธิ รุ่น 3” เป็นโอกาสเรียนรู้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาในฐานะผู้นำองค์กรทางศาสนา นอกจากนำคณะสงฆ์ไปประกอบศาสนกิจสังเวชนียสถาน 4 ตำบล เมื่อบวชแล้วจะได้ปฏิบัติธรรมอย่างแท้จริง ศึกษาพระธรรมคำสอนและปฏิบัติตนให้ถึงพร้อมซึ่งไตรสิกขา คือ ศีลสิกขา สมาธิสิกขา ปัญญาสิกขา ที่พระพุทธเจ้าทรงวางไว้จัดเป็นความดีที่ยิ่งใหญ่ เป็นบุญอันประเสริฐ อีกทั้งช่วยขัดเกลากิเลสให้ลดลง ได้ซาบซึ้งในพระพุทธศาสนามากยิ่งขึ้น เป็นการบวชถวายเป็นพุทธบูชาแด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า อุทิศถวายเป็นพระราชกุศล และบวชทดแทนบุญคุณบิดามารดา ครูบาอาจารย์ และถวายบุญการบวชแก่ตนเองและวงศ์ตระกูล ทั้งยังช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพในการประกอบภารกิจหน้าที่ ของตนเอง สังคม และประเทศชาติ นำไปสู่การสืบทอดวิถีธรรมและหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาให้คงอยู่และเจริญรุ่งเรืองด้วยความร่วมมือร่วมใจกันของพุทธศาสนิกชนสืบไป


สำหรับสถานที่ดำเนินการโครงการมหาวชิราโพธิ รุ่น 3 ประกอบด้วยวัดไทยพุทธคยา อินเดีย วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ อินเดีย วัดไทยลุมพินี เนปาล วัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี จ.สมุทรปราการ โดยในวันที่ 5 มี.ค. คณะเดินทางสู่สอินเดียเตรียมความพร้อมก่อนเข้ารับการบรรพชาอุปสมบท วันที่ 6 มี.ค. พิธีบรรพชาใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ อุปสมบทในพระอุโบสถวัดไทยพุทธคยา วันที่ 7 มี.ค. – 14 มี.ค. ภาคศึกษาและปฏิบัติธรรม ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย วันที่ 15 มี.ค. ผู้เข้าโครงการตักบาตร สวดมนต์ถวายเป็นพระราชกุศล พิธีลาสิกขา และพิธีปิดโครงการที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ประเทศไทย



ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'พล.อ.ประยุทธ์' เป็นผู้แทนพระองค์ เชิญสัญญาบัตร พัดยศ ถวายพระธรรมทูตสายอินเดีย-เนปาล
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ เชิญหิรัญบัฏ พัดยศ เครื่องประกอบสมณศักดิ์ พระราชาคณะเจ้าคณะรอง ถวายแด่