
เดือนรอมฎอนเดือนสำคัญทางศาสนาของชาวมุสลิมตามปฏิทินของอิสลาม มีความเชื่อพระองค์อัลลอฮ์ทรงกำหนดให้เดือนดังกล่าวเป็นเดือนแห่งการประกอบอิบาดะห์ ทรงกำหนดให้ผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามต้องทำการ “ถือศีลอด” เพื่อควบคุมตัวเองในการรับประทานอาหารให้อยู่ในความพอดี ให้ร่างกายได้รู้จักและลิ้มรสความหิวโหย และเพื่อให้ได้ทำความเข้าใจสภาพของคนยากจนและคนยากไร้ที่ไม่มีอะไรจะกิน
ตลอดระยะเวลา 1 เดือนของการถือศีลอดนั้น เพื่อทำให้ชาวมุสลิมมีจิดใจที่เมตตา เข้าอกเข้าใจผู้อื่น และเป็นช่วงเวลาสะสมความดีด้วยการละหมาดตะรอเวียห์ ทำการซิกรุลลอฮ์ อ่านอัลกุรอาน และทำจิตใจให้ใสสะอาดมุ่งสู่อัลลอฮ์
ผู้ที่ต้องถือศีลอดในเดือนรอมฎอน คือชาวมุสลิมผู้ศรัทธาที่บรรลุนิติภาวะและศาสนภาวะ มีสติสัมปชัญญะครบถ้วนสมบูรณ์ มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีความสามารถ ไม่อยู่ในภาวะของผู้เดินทาง และเป็นผู้ที่ปราศจากข้อห้ามของการถือศีลอด สำหรับผู้ที่ได้รับการยกเว้นถือศีลอดในเดือนรอมฎอน คือชาวมุสลิมที่เป็นผู้ป่วยรุนแรง ป่วยเรื้อรัง หญิงที่มีรอบเดือน เป็นคนชรา และหญิงตั้งครรภ์

รอมฎอนเดือนอันประเสริฐนี้สร้างความตระหนักรับรู้ถึงความยากลำบากของเพื่อนมนุษย์ที่ทุกข์ยาก ผู้ที่ด้อยโอกาสกว่า ชาวมุสลิมมักจะทำการบริจาคซะกาตในเดือนรอมฎอนอีกด้วย โดยทุกคนสามารถร่วมเป็นผู้ให้ช่วยเหลือมุสลิมผู้ยากไร้จากภัยสงคราม และภัยธรรมชาติในเดือนรอมฎอน สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ประเทศไทย สานต่อโครงการ “รอมฎอนนี้เพื่อพี่น้องและทานประจำปีซะกาต” ปีที่ 8 เพื่อช่วยเหลือผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นทั่วโลก ส่วนใหญ่ คือ ชาวมุสลิม เป้าหมายช่วยเหลือผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นจากสงครามทั่วโลกในช่วงวิกฤตที่ยากลำบากอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

ปีนี้ UNHCR ผนึกกำลังจากหลากหลายภาคส่วนเพื่อช่วยเหลือผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นทั่วโลกผ่านการระดมทุนและสร้างความตระหนักรู้ในวงกว้าง นาวีน อัลเบิร์ต รองผู้แทนข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า การสนับสนุนจากทุกภาคส่วนเป็นสิ่งสำคัญในการช่วยให้ผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นได้รับความช่วยเหลือในช่วงเวลาที่ลำบากนี้ ความสามัคคีในช่วงรอมฎอนมีความสำคัญมาก และการร่วมมือกันจะช่วยให้ผู้ลี้ภัยสามารถผ่านวิกฤตไปได้
อาจารย์อรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี กล่าวว่า เดือนรอมฎอนอันประเสริฐเป็นเดือนที่เราจะได้กระทำ ความดีงามที่ยิ่งใหญ่ ดังนั้นความเมตตา ความเห็นอกเห็นใจ ด้วยการช่วยเหลือและการแบ่งปัน จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องเกิดขึ้นจากผู้ถือศีลอดทุกคน สำนักจุฬาราชมนตรีขอเชิญชวนพี่น้องทุกท่านร่วมกันใช้โอกาสอันประเสริฐนี้ในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่เดือดร้อน ทั้งนี้การสนับสนุน UNHCR ต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะช่วยแสดงให้ผู้ลี้ภัยได้เห็นว่า ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม เราจะยืนอยู่เคียงข้างเพื่อนมนุษย์ในช่วงเวลาที่ลำบาก และในเดือนแห่งการแบ่งปันนี้ ทานของทุกท่านจะถูกนำไปช่วยบรรเทาความทุกข์ยากให้แก่ครอบครัวผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นชาวมุสลิมทั่วโลก
ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยพันธมิตรสนับสนุนและดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่องด้วยการทำทานซะกาตช่วงเดือนรอมฎอนผ่านบัญชี UNHCR ของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ดร.ทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการและผู้จัดการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยกล่าวว่า ธนาคารสนับสนุนการทำความดีตามหลักศาสนาอิสลาม โดยเฉพาะในเดือนรอมฎอน เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการร่วมกันทำทานและช่วยเหลือผู้ที่ทุกข์ยาก ปีนี้ธนาคารร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมระดมทุนในทุกสาขาของธนาคาร และขยายการรับรู้กิจกรรมระดมทุนในโครงการจากผู้มีชื่อเสียงผ่านช่องทางออนไลน์ของธนาคาร อีกทั้งยังเพิ่มความสะดวกในการบริจาคซะกาตผ่าน ibank Application โมบายแบงก์กิ้งไอแบงก์ที่ให้บริการตามหลัก ชะรีอะฮ์บนแอปพลิเคชันเป๋าตังอีกด้วย ทั้งยังสนับสนุนการจัดโต๊ะรอมฎอนนี้ เพื่อพี่น้อง กับ UNHCR เพิ่มโอกาสการได้ทำความดีร่วมกับลูกค้าของธนาคาร ซึ่งจะเกิดขึ้นทุกปีส่งมอบช่วยเหลือให้กับครอบครัวผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นทั่วโลกได้มากยิ่งขึ้น
ปีนี้โปรเจ็ค “รอมฎอนนี้เพื่อพี่น้องและทานประจำปีซะกาต” มีบุคคลที่มีชื่อเสียงหลากหลายวงการ อาทิ ดำรง พุฒตาล ,ฐาปนีย์ เอียดศรีไชย,วรพจน์ ไวยเวทา เลขานุการสถาบันศิลปะอิสลามแห่งประเทศไทย, ซีนัท มะหะหมัด เจ้าของเพจ The Londoners ร่วมภารกิจระดมทุนผ่านช่องทางของตนเองตลอดเดือนรอมฎอนอันประเสริฐสร้างความตระหนักรู้ ขยายการระดมทุนเพื่อส่งต่อความช่วยเหลือถึงผู้ลี้ภัยชงาวมุสลิมทั่วโลก

ดำรง พุฒตาล ที่ปรึกษาประธานรัฐสภา กล่าวว่า เดือนรอมฎอนเป็นเดือนอันประเสริฐ อิสลามบัญญัติให้มุสลิมถือศีลอดเพื่อได้รู้รสชาติของความหิวความกระหาย ความอดอยากยากแค้นที่มีอยู่ในสังคมมนุษย์ และช่วยเหลือ แบ่งปันให้เพื่อนมนุษย์ด้วยความเมตตา ความเห็นอกเห็นใจ รู้สึกยินดีที่ได้มีส่วนร่วมในการสร้างความแตกต่างให้กับชีวิตของพวกเขาในปีนี้ โดยการร่วมสนับสนุนการระดมทุนผ่านช่องทางวิทยุที่ดำเนินรายการ รวมถึงรายการโทรทัศน์ช่อง 5 รายการ “แทนคุณแผ่นดิน เรื่องเล่าจากดำรง พุฒตาล” รวมถึงความร่วมมือกับรายการอื่น ๆ อยากให้ทุกคนติดตามและมีส่วนร่วมสนับสนุนความช่วยเหลือที่สำคัญนี้ เพื่อแบ่งปันความเมตตาและช่วยเหลือผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นที่กำลังเผชิญกับความยากลำบากผ่านการให้ทานในช่วงเวลาที่ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อให้พวกเขาสามารถผ่านพ้นวิกฤตและมีความหวัง

ด้าน วรพจน์ ไวยเวทา เลขาธิการสถาบันศิลปะอิสลามแห่งประเทศไทยกล่าวว่า การบริจาคซะกาตสะท้อนถึงความเมตตาและการแบ่งปันที่เป็นคุณลักษณะสำคัญของศาสนาอิสลาม ซึ่งในเดือนรอมฎอนเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการแสดงความห่วงใยต่อพี่น้องที่ต้องเผชิญกับความทุกข์ยาก ตลอดหนึ่งเดือนรอมฎอนนี้ สถาบันศิลปะอิสลามจะนำการสอนศิลปะมาเป็นหนึ่งในกิจกรรมระดมทุนสนับสนุน นอกจากจะได้ส่งเสริมและเผยแพร่ศิลปะอิสลาม ยังได้เป็นส่วนหนึ่งที่ให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เงินบริจาคทั้งหมดจากกิจกรรมนี้จะร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคมโลกให้ดีขึ้น

ในการรับบริจาคทานประจำปีซะกาต UNHCR ทำงานร่วมกับมูลนิธิทาบาห์ องค์กรชั้นนำทางศาสนา และ ได้ขยายการรับรองระดับโลกจากนักวิชาการศาสนา (นักฟัตวา) มากถึง 17 ท่าน จากสถาบันศาสนาอิสลามมากกว่า 16 แห่งทั่วโลก เช่น อียิปต์ เยเมน โมร็อกโก มอริเตเนีย รวมถึงประเทศไทย เพื่อรับรองหน่วยงานว่ามีคุณสมบัติในการรับทานซะกาตและสามารถมอบความช่วยเหลือนี้โดยตรงแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากสงคราม ได้แก่ ผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นชาวมุสลิม ให้พวกเขาได้มีอาหารที่พอเพียง น้ำสะอาดไว้ใช้และดื่ม ที่พักพิงที่ปลอดภัย และเงินสมทบช่วยเหลือ โดย 7 ปีที่ผ่านมา การระดมทุนผ่านโครงการฯ UNHCR มอบความช่วยเหลือแก่ครอบครัวผู้ลี้ภัยไปแล้วมากกว่า 9 ล้านคน ใน 29 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ ซูดาน ซีเรีย จอร์แดน อัฟกานิสถาน บังกลาเทศ เยเมน เลบานอน อินโดนีเซีย ตูนิเซีย ไนจีเรีย และโซมาเลีย แต่ยังมีผู้พลัดถิ่นจำนวนมากที่ต้องการโอกาสมีที่พักพิงปลอดภัย มีอาหาร น้ำ หลังละศีลอด และเฝ้ารอการช่วยเหลือที่จำเป็นต่อชีวิตอย่างไม่ขาดตอน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จุฬาราชมนตรีรับรอง ‘การฏออะห์’ หนุนสันติสุขชายแดนใต้
จุฬาราชมนตรีลงนามรับรองเอกสาร “การฏออะห์” หลังแม่ทัพภาค 4 นำคณะเข้าคารวะ เตรียมส่งต่อผู้นำศาสนา 5 จังหวัดชายแดนใต้ ขับเคลื่อนสันติสุขด้วยหลักอิสลาม
'ภูมิธรรม' เห็นพ้อง 'จุฬาราชมนตรี' อยากเห็นสันติสุขในชายแดนใต้!
'ภูมิธรรม' พบ 'จุฬาราชมนตรี' เห็นพ้องแนวทางแก้ความไม่สงบใน จ.ชายแดนใต้ ชี้การฆ่าไม่ใช่หลักศาสนาที่ถูกต้อง แนะหาทางออกร่วมกัน ยุติความรุนแรงในพื้นที่ พร้อมพูดคุยกับคนที่แก้ไขปัญหาได้
'บิ๊กอ้วน' เตรียมพบ 'จุฬาราชมนตรี' ถกดับไฟใต้!
'ภูมิธรรม' เตรียมพบจุฬาราชมนตรี คุยดับไฟใต้ สั่งเข้มหน่วยงานความมั่นคง ดำเนินการเชิงรุกมากขึ้น ไม่หย่อนยาน ดูแลกลุ่มเปราะบาง และระวังเรื่องการใช้ความรุนแรง
ชี้10วัน‘รอมฎอน’ระทึก ลอบขนระเบิดเข้าพื้นที่
10 วันสุดท้ายรอมฎอนระทึก การข่าวยะลาพบขนระเบิด


