จัดยิ่งใหญ่!งานฉลอง243ปี กรุงรัตนโกสินทร์

ใกล้เริ่มแล้วสำหรับ“งานใต้ร่มพระบารมี 243 ปี กรุงรัตนโกสินทร์” จัดอย่างยิ่งใหญ่ 5 วันเต็ม โดยกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ร่วมกับหน่วยงานรัฐ เอกชนและเครือข่ายทางศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม จัดระหว่างวันที่ 23 – 27 เมษายน 2568 ณ อุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร และวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ฝั่งธนบุรี  ร่วมเฉลิมฉลอง เนื่องในวาระครบรอบวันคล้ายวันสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ 243 ปี และเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งพระบรมราชวงศ์จักรีและพระมหากษัตริย์ไทยในพระบรมราชจักรีวงศ์ทุกพระองค์

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งพระบรมราชวงศ์จักรี ทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานีของไทย เมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2325 นับถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 243 ปี และพระมหากษัตริย์ไทยในพระบรมราชจักรีวงศ์ทุกพระองค์ทรงเปี่ยมด้วยทศพิธราชธรรม ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อสร้างประเทศชาติให้มีความเป็นปึกแผ่นมั่นคงด้วยพระปรีชาสามารถและพระราชวิสัยทัศน์อันกว้างไกล ทรงทำนุบำรุงศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมของชาติให้เจริญรุ่งเรืองสืบมาถึงปัจจุบัน เพื่อเทิดพระเกียรติพระมหากษัตริย์ไทยและเพื่อให้ประชาชน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์การสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์   วธ.จัดงานใต้ร่มพระบารมี 243 ปี กรุงรัตนโกสินทร์ ชวนชาวไทยและชาวต่างประเทศเที่ยวชมงาน กิจกรรมภายในงานมากมาย อาทิ เที่ยวพิพิธภัณฑ์ยามค่ำ นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ การแสดงทางศิลปวัฒนธรรมสุดอลังการ ลิ้มรสอาหารไทยต้นตำรับ และเลือกซื้อสินค้าผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย

 “งานใต้ร่มพระบารมี 243 ปี กรุงรัตนโกสินทร์” จะมีพิธีทางศาสนา ได้แก่ วันที่ 20 เมษายน 2568 เวลา 09.09 น. พิธีบวงสรวงเทพยดา ณ ลานหญ้าระหว่างอาคารมหาจุฬาลงกรณ์กับอาคารมหาวชิราวุธ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลังจากนั้น วันที่ 21 เมษายน 2568 เวลา 07.00 น. พิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชและพิธีตักบาตรพระสงฆ์ 99 รูป ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม  ต่อมาเวลา 09.30 น. พิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ศาลหลักเมือง ณ ศาลหลักเมือง กรุงเทพฯ

งานฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ปีนี้กำหนดจัดกิจกรรมใน 3 พื้นที่ พิกัดแรก อุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทุกวันพบนิทรรศการ Immersive Art “แสงแห่งพระบารมี” (Light of Royal Wisdom) เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชในพระบรมราชจักรีวงศ์ ซุ้มเฉลิมพระเกียรติ กิจกรรมเสวนาทางวิชาการ ช่วงบ่ายจัดกิจกรรมเวิร์คชอปไทยร่วมสมัย ตลาดอาหารไทย อาหารถิ่น ตลาดผลิตภัณฑ์วัฒนธรรม ยกทัพสินค้าวัฒนธรรมหลากหลาย ทั้งงานผ้า งานคราฟต์  จักสาน  ตลอดจนตลาดนัดศิลปินโชว์ไอเดียและฝืมือของศิลปินไทย  ตื่นตากับการสาธิตมรดกวัฒนธรรมกรุงรัตนโกสินทร์หาชมได้ยาก ได้แก่ มรดกภูมิปัญญาวัฒนธรรมอาหารและขนมไทย

ภายในอุทยาน 100 ปี จุฬาฯ แต่ละวันรายการแสดงมากมาย วันเปิดงานชมการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ ตอนวายุบุตรวุฒิไกร  โดยสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ การแสดงละครนอกเรื่องสังข์ทอง ตอนหาปลา แการแสดงดนตรีวงดนตรีสากล”เรืองรัตนโกสินทร์ถิ่นสยาม”   โดยกรมศิลปากร  การแสดงรำวงพื้นบ้านโดยอ๊อดโฟร์เอส ขณะที่สมาคมศิลปินพื้นบ้านและกรมส่งเสริมวัฒนธรรมจัดรายการการแสดงแสงเหนือล้านนาข่วงศิลป์ ถิ่นดอกเอื้อง สืบศิลป์แผ่นดินทอง นาฏกรรมวิวัฒน์รัตนโกสินทร์ และการแสดงสายสัมพันธุ์ชาติพันธุ์ในล้านนา ทักษิณถิ่นหนังตะลุง โปงลาง

พิกัดต่อมาพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร  สถานที่ที่คนรักวัฒนธรรมคุ้นเคยกันดี จัดเตรียมการแสดงศิลปวัฒนธรรม ชวนชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครในยามค่ำคืน (Night Museum) สร้างประสบการณ์สนุกๆ เที่ยวมิวเซียม  ภายในงานจัดฉายหนังกลางแปลง การจำหน่ายผลิตภัณฑ์และอาหารของดีของเด็ดทั้งคาวหวาน

พิกัดสุดท้ายวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร วัดเก่าแก่คู่กรุงรัตนโกสินทร์ จัดงานใหญ่ร่วมฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ ในชื่อ “เที่ยวงานวัด ย้อนวันวาน ยลวิถีย่านกะดีจีน-คลองสาน” ภายในงานชวนไหว้พระรับพรเสริมสิริมงคล เที่ยวเขามอวัดประยุรฯ   สัมผัสการแสดงศิลปวัฒนธรรมมากมาย พร้อมจัดกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม “ปั่นจักรยานเที่ยววัดยามค่ำคืน” เอาใจสายปั่นสายชิล นอกจากนี้ เปิดเวทีการประกวดร้องเพลงลูกทุ่งและเพลงลูกกรุงสุดไพเราะ นอกจากแข่งขันชิงชัยแล้ว ช่วยสร้างสีสันงานวัดให้ครึกครื้น เป็นที่รู้กันว่า ย่านกะดีจีนเป็นแหล่งพหุวัฒนธรรมนำมาสู่การการประกวดอาหารสามศาสน์ พลาดไม่ได้ชมการสาธิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมและของดีย่านกะดีจีน เที่ยวชมฟรีตลอดงาน


นางสาวสุดาวรรณ  กล่าวว่า ในวาระแห่งการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ 243 ปี เชิญชวนชาวไทยร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ทุกพระองค์ ตลอดจนน้อมนำพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาปฏิบัติ ได้แก่ ความมีจิตอาสา ทำความดีด้วยหัวใจ ความสมัครสมานสามัคคี วิถีพอเพียงและร่วมกันสืบสาน อนุรักษ์และต่อยอดมรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติให้คงอยู่อย่างยั่งยืน  งานครั้งนี้จะทำให้เด็ก เยาวชน และประชาชนได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์การสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ เกิดความภาคภูมิใจในความเป็นคนไทย ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สร้างอาชีพและรายได้สู่ประชาชนและชุมชน ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจชาติ

ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดสายด่วนวัฒนธรรม 1765 หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมกิจกรรมและรายการแสดงตลอด 5 วันได้ที่แฟนเพจเฟซบุ๊กสำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม จะได้ไม่พลาดกิจกรรมดีๆ


เพิ่มเพื่อน