เพย์โหลดแรกของคนไทย ทะยานสู่อวกาศ (2  )                       

โครงการ Thailand Liquid Crystals in Space (TLC) ที่ขึ้นสู่อวกาศในวันที่ 15 กันยายน 2568 นี้  เป็นการศึกษาผลึกเหลว (Liquid Crystals) ภายใต้สภาวะไร้แรงโน้มถ่วงบนสถานีอวกาศนานาชาติ  (International Space Station, ISS) ซึ่งโครงการนี้ได้รับทุนสนับสนุนหลักในการสร้างเพย์โหลดเพื่อส่งขึ้นไปทดลองในอวกาศจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคน และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.) ตั้งแต่ปี 2566 – 2568  และมีการประสานความร่วมมือด้านงานวิจัยในอวกาศระหว่างคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ ในสังกัดคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) และผู้เชี่ยวชาญจากองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (องค์การนาซา, NASA) ประเทศสหรัฐอเมริกา และห้องปฏิบัติการแห่งชาติสหรัฐอเมริกาบนสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS U.S. National Laboratory)

ภายในเพย์โหลดของโครงการ Thailand Liquid Crystals in Space (TLC) มีลักษณะอย่างไร และทำงานอย่างไรนั้น สำหรับ TLC ทำการทดลองผลึกเหลวในสภาวะไร้แรงโน้มถ่วงบนสถานีอวกาศนานาชาตินั้นประกอบไปด้วย 2 ส่วนใหญ่ๆด้วยกัน คือ Control module และ Image module โดย Control module เป็นโมดูลสำหรับการควบคุมคือการจ่ายกระแสไฟฟ้า น้ำ และอากาศให้กับ Image module ซึ่ง control module นั้นมีน้ำหนักประมาณ 15.7 กิโลกรัม Control module นั้นมีรูปทรงลักษณะของกล่องสี่เหลี่ยมที่มีขนาดความกว้าง 330 มิลลิเมตร ความยาว 417 มิลลิเมตร และความสูง 190 มิลลิเมตร ซึ่งในขณะทำการทดลองจะถูกติดตั้งอยู่บนผนังประตูของกล้องจุลทรรศน์ KERMIT (Keyence Research Microscope Testbed) rack

ในส่วนของ Image module นั้นจะมีหน้าที่ในการจ่ายสารผลึกเหลว (liquid crystal) ให้กับเพลทที่ถูกเจาะรูสำหรับสร้างฟิล์มผลึกเหลว ทำหน้าที่สร้างฟิล์มของผลึกเหลวและลำเลียงไอน้ำและอากาศสำหรับการทำการทดลอง เพลทฐานของ Image Module ถูกออกแบบมาให้สามารถยึดติดกับฐานภายในกล้องจุลทรรศน์ KERMIT ใช้ตัวยึดโลหะ นอกจากนี้ ด้านฐานมีการติดตั้งฝาครอบโพลีคาร์บอเนตแบบใสไว้ภายนอกของเพลทฐานนี้ในระหว่างขนส่งเพื่อป้องกันความเสียหายแก่เพลทฐานของ Image module น้ำหนักของ Image Module จะอยู่ที่ประมาณ 4.0 กิโลกรัม และมีขนาดความกว้าง 165 มิลลิเมตร ความยาว 182.5 มิลลิเมตรและความสูง 48 มิลลิเมตร

ระบบเพย์โหลดทั้งสองชิ้นส่วนนั้นถูกออกแบบมาให้ใช้ระบบไฟฟ้าจากแหล่งกำเนิดไฟฟ้ากระแสตรงของสถานีอวกาศที่ความดันไฟฟ้า 28 โวลต์ โดยทั้งสองชิ้นส่วนได้รับการอนุญาตจาก NASA ให้ใช้กำลังไฟฟ้าจากสถานีอวกาศนานาชาติได้สูงสุด 120 Watts โดยมีจำนวนเซสชั่นของการทดลองอย่างน้อย 48 เซสชั่นซึ่งมีระยะเวลาการทดลอง 3 ชั่วโมงในแต่ละเซสชั่น รวมเป็น 144 ชั่วโมงสำหรับการทดลอง ในระหว่างทำการทดลองนั้นสามารถบันทึกผลการทดลองและออกคำสั่งต่างๆสำหรับทำการทดลองจากสถานีควบคุมภาคพื้นดินไปยังบนสถานีอวกาศนานาชาติผ่านระบบเครือข่าย uplink และติดตามผลการทดลองบนสถานีอวกาศนานาชาติผ่านระบบ downlink ได้ตลอดเวลาการทำการทดลองในแต่ละเซสชั่น โดยข้อมูลผลการทดลองซึ่งแป็น high resolution video จะถูกส่งลงมากับ Hard Disk Drive SSD 6 TB

รศ.ดร.ณัฐพร ฉัตรแถม หัวหน้าโครงการ TLC และผู้ร่วมวิจัยหลัก ผศ.ดร.อภิชาติ พัฒนโภครัตนา กำกับการเขียนโปรแกรมควบคุม Raspberry Pi ซึ่งเป็นชิปประมวลผลกลางที่ควบคุมระบบเพย์โหลด และดูแลการประกอบวงจรอิเล็กทรอนิกส์ในเพย์โหลด

โดยเพย์โหลด TLC จะถูกส่งกลับมายังพื้นโลกโดยเที่ยวบิน SpaceX-33 ในเดือนมกราคม 2569 นี้ พร้อมกับข้อมูลการทดลองใน Hard Disk Drive SSD 6 TB และจะถูกนำส่งมายังประเทศไทยเพื่อให้ทีมวิจัยและนิสิตนักศึกษาได้วิเคราะห์ข้อมูลการทดลองต่อไป

รศ.ดร.ณัฐพร ฉัตรแถม  หัวหน้าโครงการ TLC เปิดเผยว่า  การทำเพย์โหลดสำเร็จและพร้อมขึ้นสูอวกาศในครั้งนี้ ทางทีมงานรู้สึกดีใจมาก หลังจากการทำงานอย่างหนักตลอดระยะเวลากว่า 2 ปี ทีมงานได้สร้างเพย์โหลดจนเสร็จสมบูรณ์อย่างภาคภูมิใจ  ตอนนี้ทุกอย่างพร้อมเต็มที่สำหรับการเดินหน้าไปสู่ภารกิจครั้งสำคัญในการทะยานขึ้นสู่อวกาศพร้อมสัญลักษณ์ธงชาติไทยอย่างสง่างาม

“ โครงการ Thailand Liquid Crystals in Space จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่ได้รับการสนับสนุนจากท่านผู้บริหารหลายท่านที่ร่วมช่วยผลักดันโครงการจนบรรลุเป้าหมาย ทีมงานขอขอบพระคุณ ดร.จงรัก วัชรินทร์รัตน์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ผู้เห็นความตั้งใจของพวกเราและสนับสนุนพวกเราในทุก ๆ ทางอย่างเต็มกำลัง  ขอขอบพระคุณท่านอดีตรองอธิการบดีฝ่ายวิชาการและการเรียนรู้ตลอดชีวิต รศ.ดร.อภิสิฏฐ์ ศงสะเสน ท่านเป็นอดีตคณบดีคณะวิทยาศาสตร์ผู้ล้มลุกคลุกคลานมากับพวกเราตั้งแต่วันแรกที่ริเริ่มคิดทำโครงการกับ NASA เมื่อปี 2561 ท่านช่วยเหลือทีมงานฝ่าฟันปัญหาและอุปสรรคมาโดยตลอดจนพวกเราสร้างเพย์โหลดสำเร็จเมื่อเดือนมิถุนายน 2568 ทีมงานขอขอบพระคุณ ศ.ดร. สมปอง คล้ายหนองสรวง ท่านเป็นผู้อำนวยการบพค. ในช่วงปี 2565-2568 และปัจจุบันท่านดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ท่านให้โอกาสและสนับสนุนงบประมาณให้พวกเราได้ทำโครงการกับ NASA ด้วยความเชื่อมั่นว่าพวกเราจะทำสำเร็จ และขอขอบพระคุณทีมบพค.และสกสว.ทุกท่านที่ทำงานอย่างหนักร่วมผลักดันพวกเราจนโครงการบรรลุเป้าหมายและพร้อมขึ้นสู่อวกาศในเดือนกันยายน 2568 นี้”

หัวหน้าโครงการและทีมวิจัย พร้อมกับนิสิตทดสอบเพย์โหลดการทดลองสร้างจุดพร่องในฟิล์มบาง liquid crystal บนกล้องจุลทรรศน์ Keyence microscope ซึ่งเป็นกล้องจุลทรรศน์ที่ใช้บนสถานีอวกาศนานาชาติ

สำหรับความคาดหวังในภารกิจอวกาศนี้  รศ.ดร.ณัฐพร ฉัตรแถม  กล่าวว่า  ประการแรกคือองค์ความรู้ใหม่ในการพยายามลดจุดพร่องในผลึกเหลวในอวกาศเพื่อเทคโนโลยีหน้าจอแอลซีดีที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และยังมีเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่ใช้ผลึกเหลวในอีกหลายรูปแบบที่จะได้ประโยชน์จากโครงการนี้ ประการที่สองคือการพัฒนาบุคลากรในประเทศตั้งแต่นิสิตนักศึกษาไปจนถึงอาจารย์ นักวิจัย ให้มีความสามารถทัดเทียมกับองค์กรอวกาศระดับโลก เพราะพวกเขาได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้การสร้างเพย์โหลดโดยตรงจากวิศวกรจากนาซา และยังได้ทำงานร่วมกับนักบินอวกาศนาซาในภารกิจนี้ต่ออีกเป็นเวลากว่า 3 เดือนในช่วงปฏิบัติการตั้งแต่เดือนกันยายน 2568 จนถึงเดือนธันวาคม 2568  โดยในอนาคตเรามีความหวังว่าเด็ก และเยาวชนรุ่น            ต่อ ๆ ไปจะสามารถสร้างเทคโนโลยีอวกาศและดีพเทคโนโลยีอื่น ๆ ได้เองภายในประเทศ  จรวดที่จะทะยานขึ้นสู่อวกาศโดยวิศวกรชาวไทยไม่น่าจะไกลเกินเอื้อม”

“ สิ่งที่อยากจะฝากถึงประชาชน น้อง ๆ เยาวชน สำหรับการส่งเพย์โหลดของประเทศไทยขึ้นสู่อวกาศร่วมกับองค์การนาซาในครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญที่ยิ่งใหญ่ แสดงให้เห็นว่าความฝันและความพยายามสามารถพาเราไปไกลเกินกว่าขอบฟ้า  อวกาศไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่เป็นอนาคตที่ทุกคน โดยเฉพาะเยาวชนไทย สามารถมีส่วนร่วมและสร้างสรรค์ได้ การศึกษาเกี่ยวกับอวกาศจึงไม่ใช่เพียงแค่การมองดูดาว แต่คือการเปิดประตูสู่โอกาส ความรู้ และแรงบันดาลใจ ที่จะพาประเทศไทยก้าวไปสู่โลกอนาคตอย่างมั่นคง”

ทีมวิจัยของโครงการ Thailand Liquid Crystals in Space จากซ้ายไปขวานายจาตุรงค์ จันเรีย นักวิจัย นายธีรทัศน์ ชมโชค นิสิตปริญญาเอก ผศ.ดร.อภิชาติ พัฒนโภครัตนา ผู้ร่วมวิจัยหลัก รศ.ดร.ณัฐพร ฉัตรแถม หัวหน้าโครงการ TLC น.ส.จุฑารัตน์ แก้วทอง นักวิจัย นายนพดล เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา นิสิตปริญญาโท และ นายวุฒิพันธ์ เสถียรไพศาล นิสิตปริญญาโท ที่ห้องปฏิบัติการผลึกเหลว ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ยึด 'จรวด - ระบบ' อาวุธต่อต้านรถถังนำวิถี GAM-102LR สัญชาติจีน เนิน 500  

พบ“จรวด-ระบบ”อาวุธต่อต้านรถถังนำวิถี GAM-102LR สัญชาติจีน ทันสมัยสุด รุ่นใหม่เปิดตัวต้นปี 68 หลังทหารไทยยึดเนิน 500 ช่องอานม้า แล้วยึดได้

กัมพูชาเตรียมรบขั้นสูงสุด! เคลื่อนย้าย 'จรวด' ประชิดชายแดนไทย

'กองทัพภาค 2' เผยกัมพูชาเตรียมรบขั้นสูงสุด เคลื่อนย้ายจรวดหลายลำกล้อง ประชิดชายแดนไทย เล็งเป้าห่างจากสนามบินบุรีรัมย์ 13 กม.

'นักวิชาการ' ชี้นายกฯป้องอธิปไตย ไม่ทำไทยเสี่ยง 'รัฐบริวาร'

รศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล อาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ไทยไม่ใช่ “รัฐบริวาร”!

นักวิชาการดีดปากตัวตึงพรรคส้มบอก 'แม่ทัพกุ้ง' ปฏิบัติตามอำนาจและหน้าที่ใน รธน.

นักวิชาการสอนมวย 'วิโรจน์' พรรคส้ม ยัน 'พล.ท.บุญสิน' ปฏิบัติตามอำนาจและหน้าที่ตาม รธน. เพื่อปกป้องอธิปไตย

นักวิชาการสุดทน ไล่ส.ส.พรรคส้มทำการบ้านหาความรู้ก่อนวิจารณ์กองทัพรับบริจาค

นักวิชาการสุดทน ไล่ส.ส.พรรคส้ม ทำการบ้าน หาความรู้ก่อนวิจารณ์กองทัพรับบริจาคจากประชาชนฯ ข้องใจตรวจสอบแต่งบทหาร กระทรวงอื่นไม่แตะ