พ.ค.เลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.

ครม.เคาะเลือกผู้ว่าฯ กทม.-ส.ก.-เมืองพัทยา "วิษณุ" ระบุเป็นหน้าที่ กกต.กำหนดวันหย่อนบัตรไม่เกิน 60 วัน ชี้ผู้ว่าฯ กทม.ต้องลาออกภายใน 3 วันหลัง กกต.กำหนดวันเลือกตั้ง โฆษกรัฐบาลคาดเลือกตั้ง พ.ค.65 นี้  "อัศวิน" ชั่งใจลงรักษาเก้าอี้หรือไม่ รอประกาศวันเลือกตั้งก่อน “ปชป.” โวย กกต.ยังไม่รับรอง ส.ส.ชุมพร ปูดมีธงจากผู้มีอำนาจให้ใบเหลือง ขณะที่ กกต.จ่อรับรอง "อิสรพงษ์" ไปก่อนค่อยสอยที่หลังหากพบหลักฐานทำผิด กม.

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 8 มีนาคม  นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี  ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณี ครม.มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอให้จัดการพิจารณากำหนดวันเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯกทม.) และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ว่า ครม.เห็นชอบตามที่ มท.เสนอ  จากนี้จะแจ้งไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้ กกต.กำหนดวันเลือกตั้ง แล้วแจ้งกลับมาที่ ครม.อีกครั้ง เมื่อกำหนดวันเลือกตั้งแล้ว ผู้ว่าฯ กทม. ต้องลาออกภายใน 3 วัน ณ เวลานี้เป็นเรื่องของ กกต. ที่ใครจะไปออฟไซด์ไม่ได้ ซึ่ง กกต.จะแจ้งกลับมาที่ ครม.เมื่อไหร่ก็ได้ภายใน 60 วันนับจากวันที่ 8 มีนาคม ซึ่งเชื่อว่าจะตอบกลับมาโดยใช้เวลาไม่นานอาจจะ 1-2 สัปดาห์นี้

นายวิษณุกล่าวว่า ส่วนการเลือกตั้งนายกเมืองพัทยานั้น จะดำเนินการไปพร้อมกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.หรือไม่เป็นเรื่องของ กกต. สำหรับนายกเมืองพัทยา เมื่อประกาศวันเลือกตั้งแล้ว นายกเมืองพัทยาต้องพ้นจากตำแหน่งทันทีโดยไม่ต้องลาออก แตกต่างจากผู้ว่าฯ กทม. ที่ต้องพ้นจากตำแหน่งทันที เนื่องจากเป็นกฎหมายคนละฉบับ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ถามในประเด็นนี้เหมือนกัน

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ปัจจุบันสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นของ กทม.และเมืองพัทยา ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่งแล้ว แต่โดยที่สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นของ กทม.และเมืองพัทยา ยังคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปตามประกาศคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) และคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงมหาดไทยมีความพร้อมในการเลือกตั้งและสำนักงาน กกต. ได้จัดทำแผนงานการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นของกรุงเทพฯ และเมืองพัทยาแล้ว ซึ่งคาดว่าจะให้มีการเลือกตั้งในเดือน พ.ค.65 นี้

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ยังไม่มีการประกาศราชกิจจานุเบกษาเพื่อกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจนจาก กกต. จึงยังชั่งใจว่า จะลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.หรือไม่ แม้แต่เปอร์เซ็นต์เดียวยังไม่ได้คิด แต่ถ้าคิดแล้วมันง่ายนิดเดียว ซึ่งกำลังดูอยู่ว่า สื่อยังรักเราอยู่หรือไม่ ถ้าเกิดรัก เราก็จะลง ทั้งนี้ อยากรอให้ชัดเจนก่อน เพราะตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะเลือกวันที่เท่าไร และรับสมัครเมื่อใด

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้ง จะลงสมัครในนามพรรคใด พล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า ตนไม่มีพรรค มีแต่พวก ถ้าสมมติ กกต.ประกาศวัน วันนั้นให้มาถามได้เลย ที่มีการคาดการณ์วันมา ก็เอาให้ชัวร์ๆ ก่อน เกิดฟ้าถล่มดินทลายไม่ได้เลือกตั้ง ส่วนเรื่องจะลงสมัครหรือไม่นั้น ต้องดูว่าพร้อมหรือไม่ ตอนนี้ยังตัดสินใจไม่ได้ กำลังถามตัวเองว่าพร้อมหรือไม่ อายุไม่เกี่ยว ทีมงานไม่ต้อง เพราะว่าเป็นวันแมนโชว์อยู่แล้ว ชอบฉายเดี่ยว ตนเป็นประเภทเอเชีย เล่นเป็นทีมไม่เป็น ชอบเล่นเดี่ยว นอกจากนี้ต้องดูครอบครัวด้วยว่าอยากให้เล่นการเมืองหรือไม่ เพราะไม่ใช่นักการเมืองอาชีพ แต่โตมาจากการเป็นข้าราชการ

เมื่อถามว่า กรณีนายสกลธี ภัททิยกุล อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. ลาออกเพื่อไปเตรียมตัวลงสมัครรับเลือกตั้ง ถือว่าเป็นคู่แข่งและหนักใจหรือไม่ พล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า  ไม่รู้ ต้องไปถามนายสกลธี แต่ตนไม่มีหนักใจ และไม่มีหนักใจเลยสักคนเดียว เพราะเด็กๆ ทั้งนั้น

ที่รัฐสภา นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งซ่อม เขต 1 จ.ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แถลงว่า จากการเลือกตั้งซ่อมเมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งจะครบกำหนด 60 วัน ในวันที่ 16 มี.ค. ที่ กกต.จะต้องประกาศรับรองผลนายอิสรพงษ์ มากอำไพนั้น สิ่งที่พรรคมีความกังวลและมีข้อสังเกตเรื่องความไม่ชอบมาพากลในการดำเนินการของ กกต. ต่อผลการเลือกตั้งที่ จ.ชุมพร คือ 1.การเลือกตั้งเสร็จสิ้นมาเกือบ 60 วันแล้ว แต่ กกต.ยังไม่ประกาศรับรองผลอย่างเป็นทางการ และ 2.เราทราบเป็นการภายในว่าเรื่องร้องเรียนกรณีถ่ายรูปบัตรเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งฟ้องผู้ต้องหาแล้ว และไม่ได้กล่าวหาผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์แต่อย่างใด แต่ในส่วนของ กกต.มีเหตุผิดปกติเกิดขึ้น

 “เท่าที่ทราบ กกต.จังหวัดชุมพรได้มีการสรุปสำนวนส่งมายัง กกต.กลางครั้งหนึ่งแล้ว แต่ไม่มีการชี้ลงไปว่าตัวผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ปชป.กระทำความผิด ไม่พบหลักฐานเชื่อมโยงกับผู้สมัครใดๆ แต่เมื่อมีการส่งมายัง กกต.ส่วนกลาง ปรากฏว่ามีการขอให้ กกต.ประจำ จ.ชุมพรสรุปสำนวนไปใหม่ และให้มีความเห็นด้วย โดยตั้งธงว่าจะต้องให้ใบเหลืองแก่ผู้สมัครของ ปชป. เรากำลังสงสัยว่ามีการตั้งธงจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่มีอำนาจเข้าที่ไปแทรกแซงกระบวนการทำงานของ กกต.หรือไม่ เนื่องจากที่มีข่าวว่าให้สรุปสำนวนอีกครั้งหนึ่งนั้น ส่อถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น เพราะ กกต.เคยเรียกตัวผู้สมัคร ส.ส.ไปสอบแล้วก็ไม่พบความเชื่อมโยงใดๆ กับการกระทำความผิดที่มีการร้องเรียน และขอให้ กกต.ดำเนินการอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายและพยานหลักฐานที่ถูกต้อง” นายสาทิตย์กล่าว

นายสาทิตย์กล่าวอีกว่า 1-2 วันนี้ กกต.กำลังจะมีการประชุมกันเพื่อสรุปสำนวน จึงขอให้ กกต.ดำเนินการอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายและพยานหลักฐาน หากมีผลใดๆ ออกมาในการทำงานของกกต.ที่ผิดปกติ ฝ่ายกฎหมายของผู้สมัครส.ส.เขต 1 จ.ชุมพร และฝ่ายกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ จะติดตามการทำงานของ กกต. หากมีช่องทางที่จะดำเนินการใดๆ ที่ผิดไปจากกรอบของกฎหมาย พรรคอาจจะพิจารณาฟ้องร้อง กกต.ต่อไป

เมื่อถามว่า ที่ระบุว่า กกต.มีการตั้งธงเป็นการเตรียมให้ใบเหลืองกับผู้สมัคร ส.ส.พรรค ปชป. หากเป็นเช่นนั้นพรรคจะดำเนินการอย่างไร นายสาทิตย์กล่าวว่า ถ้าทำจริง ตามกฎหมายเราไม่สามารถอุทธรณ์ได้ ดังนั้นเมื่ออุทธรณ์ไม่ได้ก็ต้องไปตามกระบวนการ แต่เรื่องของการฟ้องกกต.ว่าปฏิบัติหน้าที่โดยชอบหรือไม่ ยังมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการ เพราะกรณีเช่นนี้เคยเกิดตัวอย่างมาแล้ว ในกรณีที่นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรค ปชป. เคยฟ้องไว้ที่ จ.พัทลุง และในที่สุดศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองก็มีการประทับฟ้องไว้ด้วย ทั้งนี้ มั่นใจว่าหาก กกต.ให้ใบเหลืองกับผู้สมัคร ปชป. ก็ถือว่ามีความผิดปกติแน่นอน เพราะในการสอบทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและ กกต.จังหวัดชุมพร ไม่มีหลักฐานเกี่ยวโยงใดๆ เพราะผู้สมัครของพรรคไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลย เพราะในวันที่เกิดเหตุผู้สมัครของพรรคก็ยังได้ไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานว่าไม่ได้เกี่ยวข้อง"

ถามอีกว่า หากจะต้องมีการเลือกตั้งซ่อมอีกครั้ง พรรคจะดำเนินการอย่างไร นายสาทิตย์กล่าวว่า ต้องดูผลออกมาก่อน ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร พรรคก็พร้อมอยู่แล้ว และมั่นใจว่าชาวชุมพรยังให้โอกาสและความเป็นพรรคกับนายชุมพล จุลใส อดีต ส.ส.ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์อยู่ ซึ่งจะเห็นว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมาคะแนนห่างกันมาก ทั้งๆ ที่มีการใช้อำนาจรัฐเต็มรูปแบบ ยิ่งผลการพิจารณาของ กกต.ออกมา และส่อถึงความผิดปกติ ก็ยิ่งไม่มีความเป็นธรรมมากขึ้น แปลกนะ อันนี้พรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันหรือเปล่าก็ไม่ทราบ

วันเดียวกัน คณะกรรมการการเลือกตั้งได้มีการประชุมพิจารณาสำนวนเรื่องร้องเรียนกรณีการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ชุมพร เขต 1 โดยที่ประชุมเห็นว่ายังมีความไม่ชัดเจนในสำนวนการสอบสวนกรณีพบผู้มีสิทธิเลือกตั้งใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพบัตรที่ลงคะแนนเลือกตั้งจำนวน 6 ราย และเมื่อนำโทรศัพท์มือถือไปตรวจสอบพบว่ามีการโอนเงิน โดยอ้างว่าเป็นการจ่ายเงินซื้อเสียง จึงให้สำนักงานไปดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติม ก่อนที่จะมาเสนอต่อ กกต.อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม การสอบสวนดังกล่าวหากไม่แล้วเสร็จภายในสัปดาห์หน้า คาดว่า กกต.จะต้องประกาศรับรองนายอิสรพงษ์ มากอำไพ ไปก่อน เนื่องจากในวันที่ 17 มี.ค. จะครบกรอบระยะเวลา 60 วันนับแต่วันเลือกตั้งที่กฎหมายกำหนดให้ กกต.ประกาศต้องประกาศรับรองผล โดยหลังจากนั้นหาก กกต.สอบสวนแล้วพบว่าการกระทำดังกล่าวมีผลให้การเลือกตั้งไม่สุจริตและเที่ยงธรรม หรือนายอิสรพงษ์​รู้เห็นเกี่ยวข้องสนับสนุนได้รับประโยชน์จากการกระทำดังกล่าว ก็จะมีมติยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาขอให้สั่งเลือกตั้งใหม่ หรือสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครและสิทธิเลือกตั้งนายอิสรพงษ์ได้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง