พล่าน!บิ๊กตู่ลงพื้นที่ นายกฯลั่นไม่เกี่ยวเลือกตั้ง ผู้สมัครผู้ว่าฯแห่ลุยขายฝัน

“บิ๊กตู่” ปัดลงพื้นที่ถี่ช่วยผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. “อนุพงษ์” ป้องแค่ไปรับฟังปัญหาประชาชน “ชัยวุฒิ” เย้ยฝ่ายโจมตี อย่าขี้กลัวนัก หาเสียงผู้ว่าฯ กทม.-ส.ก.คึกคัก “เด็กอัศวิน” โวยมีผู้สมัครบางคนเตี๊ยมกันจับเบอร์ ข้องใจไม่อิสระจริง จี้กกต.สอบ

เมื่อวันที่ 1 เม.ย. นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร แจ้งผลการรับสมัครเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) วันที่ 2 ของการรับสมัคร โดยในช่วงบ่ายปรากฏว่ามีผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เพิ่มเติม จำนวน 5 คน ได้แก่ หมายเลข 21 นายนิพัทธ์พนธ์ สุวรรณชนะ, หมายเลข 22 นายวรัญชัย โชคชนะ, หมายเลข 23 นายเฉลิมพล อุตรัตน์, หมายเลข 24 นายโฆสิต สุวินิจจิต และหมายเลข 25 นายประพัฒน์ บรรจงศิริเจริญ รวมผู้สมัครทั้งสิ้น 25 คน ส่วนของการรับสมัครเลือกตั้ง ส.ก. ทั้ง 50 เขต มีผู้สมัครเพิ่มเติม 9 เขต รวม 13 คน

สำหรับบรรยากาศการหาเสียงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นไปอย่างคึกคักเมื่อวันศุกร์ บรรดาผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. และผู้สมัคร ส.ก. ต่างลงพื้นที่หาเสียงกันตลอดทั้งวัน โดยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามอิสระ เบอร์​ 8 ได้ลงพื้นที่หาเสียงที่ซอยจริญสนิทวงศ์ 57 ตลาดและชุมชนรอบวัดรวกบางบำหรุ เขตบางพลัด พร้อมกับระบุว่า จากการพูดคุยกับชุมชน ยังเจอปัญหาด้านการเดินทางเข้า-ออกซอยย่อย เนื่องจากซอยมีขนาดแคบ รถยนต์ขับสวนทางกันยากลำบาก กทม.ต้องเข้ามาบริหารจัดการ เพื่อสร้างความเท่าเทียมด้านการเดินทาง

ขณะที่นายสุชัชวีร์​ สุวรรณ​สวัสดิ์​ ผู้สมัคร​ผู้​ว่าฯ กทม. เบอร์ 4 ​พรรคประชา​ธิ​ปัตย์​ พร้อมคณะ ลงพื้นที่หาเสียงบริเวณตลาดเคหะสุขสวัสดิ์ 38 ซอยสุขสวัสดิ์ แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ โดยนายสุชัชวีร์กล่าวว่า ตั้งใจจะลงพื้นที่เยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่อยู่บริเวณรอบนอกของ กทม. เนื่องจากในอดีตได้รับความสำคัญค่อนข้างน้อย

นายสุชัชวีร์ยังให้สัมภาษณ์ถึงหาปราศรัยของพรรค โดยเชื่อว่ายังพอมีเวลาเตรียมตัวอีกนาน อย่างไรก็ดี ทางทีมงานได้มีการหาวันที่จะปราศรัยใหญ่อยู่ แต่ยังไม่ระบุชัดเจน ส่วนตัวมีความพร้อมที่จะปราศรัยใหญ่ เพราะลงพื้นที่มา 50 เขต โดยมีทีม ส.ก.ทั้ง 50 เขตคอยให้การช่วยเหลือ ตนจึงเห็นปัญหาแทบทุกอย่าง ดังนั้น มีพลังในการทำงานแน่นอน

เมื่อถามถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ไปเดินตลาดแล้วมีการใช้คำพูดคล้ายกับว่าจะเชียร์และให้กำลังใจบุคคลที่ทำงาน โดยหลายคนมองว่าเป็น พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าฯ กทม. และผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 6 ในนามอิสระนั้น นายสุชัชวีร์ตอบว่า ไม่ทราบเรื่องนี้ และไม่ขอออกความคิดเห็นใดๆ

ส่วน น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่า กทม. เบอร์ 11 พรรคไทยสร้างไทย ได้ลงพื้นที่หาเสียงที่ตลาดใหม่ดอนเมือง และชุมชนริมคลองเปรมประชากร พร้อมกับเปิดเผยว่า จะเป็นผู้ว่าฯ คนแรก ที่จะคืนอำนาจให้ชาวกรุงเทพฯ ทุกคน ได้ร่วมตัดสินใจในการใช้งบประมาณ กทม. ไปแก้ไขปัญหาให้ตรงจุดตามความต้องการของประชาชน รวมถึงการตรวจสอบงบประมาณของ กทม.ด้วยสภาประชาชน

เมื่อช่วงสายวันศุกร์ พล.ต.อ.อัศวิน พร้อมคณะ ได้เดินทางไปมูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย ซอยรามคำแหง 2 ทั้งนี้ พล.ต.อ.อัศวินให้สัมภาษณ์ว่า การเดินหน้าหาเสียง ไม่จำเป็นต้องมีนโยบายใหม่ เพราะตนจะสานต่อนโยบายเดิมในโครงการต่างๆ และนโยบายเดิมได้ให้ความสำคัญกับประชาชนกับทุกศาสนาอยู่แล้ว

นายกิตติพัฒน์ มีสุวรรณ ผู้สมัคร ส.ก. หมายเลข 8 จากกลุ่มรักษ์กรุงเทพ ออกมาตั้งข้อสังเกตถึงกรณีการจับฉลากหมายเลขผู้สมัคร ส.ก. เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ว่า มีความพยายามของผู้สมัครหลายคนจากพรรคการเมืองหนึ่งที่จะจับฉลากให้ได้หมายเลขตรงกับผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ที่ลงสมัครในนามอิสระหรือไม่ เช่น ในเขตวังทองหลาง ที่ตนเองลงเป็นผู้สมัคร พบว่าผู้สมัครจากพรรคการเมืองหนึ่ง อยากได้หมายเลข 8 โดยผู้สมัครคนดังกล่าวได้เดินออกมาด้านนอก เพื่อรอให้มีการสมัครครบ 7 คนแล้ว จึงจะเดินกลับเข้ามายื่นใบสมัครอีกครั้ง เพื่อให้ได้หมายเลข 8

“เข้าใจได้ว่าเป็นความตั้งใจอย่างชัดเจน ดังนั้นผมจึงเฝ้าติดตามพฤติกรรมดังกล่าว และเมื่อเห็นว่าเมื่อมีผู้สมัครอิสระอีกหนึ่งท่านเดินเข้ามายื่นเอกสารขอสมัครเป็นลำดับที่ 7 ผมจึงรีบยื่นเอกสารต่อทันที ทำให้หมายเลข 8 ตกเป็นของผมและผู้สมัครจากพรรคการเมืองนั้น ซึ่งหวังจะได้หมายเลข 8 จึงได้รับหมายเลข 9 แทน”

นายกิตติพัฒน์ยังเผยอีกว่า ยังมีผู้สมัครของพรรคการเมืองดังกล่าวอีกหลายคนพยายามใช้วิธีการแบบเดียวกัน เพื่อให้ได้หมายเลข 8 ตรงกับผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ที่ลงในนามอิสระ จึงขอตั้งข้อสังเกตว่าพฤติกรรมดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และวิธีการเช่นนี้สะท้อนว่าผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.บางคนอาจไม่อิสระจริงหรือไม่ จึงอยากให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ช่วยตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าว โดยเฉพาะในแง่ของความเป็นอิสระ และเพื่อให้เป็นบรรทัดฐานในอนาคต

สำหรับความเคลื่อนไหวการหาเสียงของผู้สมัคร ส.ก.ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดยในช่วงเช้า นายอภิชัย เตชะอุบล ผอ.การเลือกตั้ง ส.ก. พรรค พปชร. นำผู้สมัคร ส.ก.พรรคทั้ง 50 เขต สักการะไหว้ศาลหลักเมืองและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในศาลหลักเมือง เพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมตะโกนเอาฤกษ์ “ชนะทุกเขต”

นายอภิชัยกล่าวถึงความมั่นใจในการเลือกตั้ง ส.ก.ว่า มั่นใจว่าจะได้ ส.ก.ทั้งหมด ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะเราเตรียมทีมของเราพร้อมอยู่แล้ว และผู้สมัคร ส.ก.ทุกคนลงพื้นที่มาโดยตลอด และมองว่าการไม่ได้ส่งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ไม่ใช่จุดด้อยของพรรค เพราะประสานงานกับผู้ว่าฯ กทม.ได้ทุกคน  อย่างไรก็ตาม พปชร.ยังมีชื่อเสียงดีอยู่ ไม่มีชื่อเสียงที่ไม่ดี ประชาชนยังชื่นชอบผู้บริหารอยู่ 

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวว่า คิดว่าผู้สมัคร ส.ก.ของ พปชร.จะได้รับเลือกตั้งเข้ามาพอสมควร เพราะว่าเรามีการทำพื้นที่อย่างต่อเนื่อง มีฐานเสียงใน กทม.ที่ชัดเจน คะแนนนิยมของ พปชร.ว่ายังดีอยู่ เพราะรัฐบาลมีผลงาน อีกทั้งเชื่อมั่นว่า ชาว กทม.ยังคงไว้วางใจ พปชร. โดยเฉพาะผู้ที่สนับสนุนพรรค

วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่คลองโอ่งอ่าง เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา ว่านึกอยู่แล้วว่าสื่อมวลชนจะต้องถามเรื่องนี้ นายกฯ คิดว่าวันไหนว่างก็จะไป นึกออกว่าวันนี้อยากจะไปไหนก็จะไป ส่วนจะไปไหนบ้างมันเรื่องของตน

ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่การลงพื้นที่เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น ถูกมองว่าตรงกับวันรับสมัครผู้ว่าฯ กทม. พล.อ.ประยุทธ์ชี้แจงว่า แล้วเกี่ยวอะไรกับตน ตนไปเกี่ยวอะไรกับเขา พวกคุณวิเคราะห์กันไปเอง วิเคราะห์แบบนี้ทั้งนั้น ถ้าแบบนี้คงไม่ต้องไปไหนเลย นั่งอยู่แต่ทำเนียบฯ แล้วกัน ความเดือดร้อนมันเกิดขึ้นเฉพาะช่วงนี้เสียที่ไหน มันเกิดขึ้นทุกวัน อยากจะไปดูทุกวัน แต่ทีนี้มีติดราชการบ้างอะไรบ้าง บางทีไม่สะดวก ไปแล้วเกิดปัญหาวุ่นวายการจราจรติดขัด เลยไปเล็กๆ

นายกฯ กล่าวว่า ที่ตนเดินทางไปคลองโอ่งอ่าง เพราะนึกขึ้นมาได้ว่าเป็นคนสนับสนุนโครงการนี้ขึ้นมา คลองสวยน้ำใส และคูคลองใน กทม.จะต้องได้รับการพัฒนา เป็นนโยบายของรัฐบาล และเป็นหน่วยงานแรกๆ ที่ทำในเรื่องที่เกี่ยวกับคูคลอง และตอนนี้ทำอีกหลายโครงการด้วยกัน กทม.มีทั้งหมดกว่า 120 คลอง ต้องดูว่าทำอย่างไรน้ำจะไม่ดำ ได้ปรึกษา พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ที่เราทำได้เรื่องน้ำไม่ดำคือปิดรูระบายน้ำที่จะลงคลองนี้ให้หมด และหาทางชักน้ำไปเข้าโรงบำบัดน้ำเสียทางอื่น นั่นแหละคือสิ่งที่ตนจะทำให้ได้มากที่สุด ดีที่สุด ทุกๆ คนที่พูดมาขอให้ทำสำเร็จก็แล้วกัน

ซักว่า การลงพบปะชาวบ้านได้สะท้อนปัญหาอะไรโดยตรงบ้าง นายกฯ ตอบว่า สะท้อนว่าเข้าใจรัฐบาล เข้าใจถึงภาระความจำเป็น และเข้าใจสถานการณ์โรคโควิด-19 เข้าใจสถานการณ์โลก อย่างไรก็ตาม ตนไม่อยากให้ กทม.กลับไปที่เดิม ไร้ระเบียบรกรุงรัง ซึ่งมันดีขึ้นมาตั้งเยอะแล้วไม่ใช่หรือ ทำกันต่อไป ใครจะทำก็ทำเถอะ ทำให้ได้จริงแล้วกัน

พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า หากมองด้วยความเป็นธรรม ไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรีคนไหน การลงพื้นที่น่าจะเป็นผลดีต่อการทำงาน อย่างน้อยได้พบปะประชาชนรับฟังปัญหา ตนมองว่าการลงพื้นที่ไม่ว่าจะได้รับคำชม คำบ่น หรือข้อเสนอแนะ ถือเป็นเรื่องดีทั้งนั้น ไม่ได้คิดเป็นเรื่องอื่น ส่วนจะลงพื้นที่อื่นเพิ่มเติมอีกหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่นายกฯ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีกำหนดการลงพื้นที่ต่างจังหวัด แต่หากจะลงพื้นที่จังหวัดใด จะประสานกระทรวงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่ด้วย

ถามว่า การเริ่มลงพื้นที่ถี่ในช่วงนี้เป็นสัญญาณว่าจะใกล้ถึงการเลือกตั้งใหญ่ใช่หรือไม่ รมว.มหาดไทยเผยว่า เท่าที่ได้ยินในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พรรรคร่วมรัฐบาลยืนยันว่าจะตั้งใจทำงานและอยู่ปฏิบัติหน้าที่ไปจนครบวาระ ตนทราบเพียงเท่านั้น ส่วนจะยุบสภาหรือไม่เป็นอำนาจนายกฯ

ด้านนายชัยวุฒิกล่าวว่า นายกฯ มีความเป็นห่วงพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้า ซึ่งขณะนี้มีปัญหาเศรษฐกิจ บางรายค้าขายไม่ดี มีปัญหาต่างๆ จึงต้องการลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาต่างๆ ส่วนที่มีบางฝ่ายพยายามโจมตีการลงพื้นที่ของนายกฯ นั้น มองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ อย่าไปกลัว ไม่ควรตีตนไปก่อนไข้ การที่นายกฯ ลงพื้นที่ถือเป็นเรื่องที่ดี จะได้ใกล้ชิดประชาชน ไปรับฟังเสียงพี่น้องประชาชน ไม่ได้ไปหาเสียงให้กับใคร

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า พอมีการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. พล.อ.ประยุทธ์กลับขยันผิดวิสัย ถ้าไม่มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ไม่รู้ว่าประชาชนจะได้เห็นหน้า พล.อ.ประยุทธ์หรือไม่

มีท่าทีที่น่าสนใจจากพรรคเพื่อไทย หลังคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่…) พ.ศ.… ลงมติให้ใช้บัตรเลือกตั้งสองใบคนละเบอร์ โดยนายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษก กมธ.ชุดดังกล่าว ออกมาระบุว่า จะมีการสงวนความเห็นเมื่อมีการนำเข้าที่ประชุมร่วมรัฐสภา ในวาระ 2 เพื่อขอเสียงสนับสนุนให้เห็นด้วยกับ กมธ.เสียงข้างน้อย เพราะ กมธ.เสียงข้างมากไม่เห็นด้วยกับการใช้บัตรเลือกตั้งเบอร์เดียวกันทั้งประเทศ หากถามว่าโอกาสที่จะใช้บัตรเลือกตั้งเบอร์เดียวกันทั้งประเทศมีความเป็นไปได้หรือไม่นั้น ก็มีโอกาสเป็นไปได้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง