กกต.ติวเข้มกทม. พ.ท.โวยนายกฯ เดินแฝงหาเสียง

กกต.แนะเจ้าหน้าที่ กทม. ศึกษา กม.เลือกตั้งให้เข้าใจก่อนปฏิบัติงานจริง “บิ๊กตู่” ให้กำลังใจผู้สมัครชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.ทุกคน หวังได้คนดีสานต่องานเมืองกรุง “ผู้สมัคร ส.ก.เพื่อไทย” โวย นายกฯ ลงพื้นที่ถี่ แฝงหาเสียงช่วยผู้สมัครบางคน “อัศวิน-ดร.เอ้-วิโรจน์-รสนา” เร่งหาเสียงขอคะแนน “สุเทพ” ขอ “ว่าที่ผู้ว่าฯ” โชว์วิสัยทัศน์แก้ปัญหาปากท้อง-รถติด-น้ำท่วมให้คนกรุง

เมื่อวันที่ 7 เม.ย. นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนางวันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร และผู้เกี่ยวข้อง ประชุมร่วมกับนายธวัชชัย เทิดเผ่าไทย กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และคณะ ในโอกาสตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมและติดตามภารกิจการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯกทม.) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 22 พ.ค.2565 เวลา 08.00-17.00 น. โดยมีหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ที่ศาลาว่าการ กทม.

นายธวัชชัยได้แนะนำให้ผู้เกี่ยวข้องศึกษาข้อกฎหมายการจัดการเลือกตั้งให้เข้าใจ เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง รวมไปถึงการแจ้งรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งฯ เนื่องจากเป็นการเลือกตั้ง ส.ก.และผู้ว่าฯ กทม.ในคราวเดียวกัน แต่ข้อกฎหมายได้กำหนดระยะเวลาการมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านที่มีสิทธิเลือกตั้ง ส.ก. และผู้ว่าฯ กทม.แตกต่างกัน ดังนั้นบางคนอาจมีสิทธิเลือกตั้ง ส.ก.และผู้ว่าฯ กทม.คนละหน่วยเลือกตั้ง หรือบางคนอาจมีเลือกตั้งผู้ว่าฯ เพียงอย่างเดียวก็ได้ จึงจำเป็นต้องมีการสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจข้อกฎหมายให้ชัดเจน เพื่อป้องกันความผิดพลาด

“ให้ทำการประชาสัมพันธ์ในเรื่องต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ก.และผู้ว่าฯ กทม.ให้ประชาชนรับทราบ และเตรียมความพร้อมของตนเองเพื่อไม่ให้เสียสิทธิในการเลือกตั้งและไม่ปฏิบัติตนเข้าข่ายการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง” กกต.ระบุ

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ว่า เป็นห่วง เพราะที่ผ่านมาเราทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีความสะอาด เป็นเมืองที่มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย วันนี้เราทำมาได้เยอะพอสมควร ฉะนั้นหวังว่าวันหน้าไม่ว่าใครจะเป็นก็แล้วแต่ควรจะต้องทำในเรื่องเหล่านี้ ไม่ว่าจะเรื่องคูคลอง การระบายน้ำ น้ำท่วมอะไรต่างๆ ซึ่งตนให้กำลังใจทุกคนอยู่แล้ว คาดหวังว่าเราจะได้ผู้ว่าฯ กทม.ที่ดี

นางชญาดา วิภัติภูมิประเทศ ผู้สมัครเลือกตั้ง ส.ก.เขตคันนายาว พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ตนและผู้สมัคร ส.ก.ของพรรครู้สึกไม่สบายใจและเห็นว่าการลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ในเขต กทม.น่าจะมีจุดประสงค์แอบแฝงที่จะตั้งใจช่วยหาคะแนนให้กับผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.บางคนและทีม ส.ก.ของเขา จึงอยากให้ กกต.ได้ตักเตือนและตรวจสอบคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ส่อไปในทางช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัครด้วย

วันเดียวกัน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. นำทีมอัศวิน พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ก.เขตห้วยขวาง จากกลุ่มรักษ์กรุงเทพ ลงพื้นที่หาเสียงชุมชนโรงปูน เขตห้วยขวาง โดย พล.ต.อ.อัศวินยืนยัน หากได้กลับไปเป็นผู้ว่าฯ อีกครั้ง จะทำให้ทุกชุมชน 2,016 ทั่วทั้งกรุงเทพฯ เข้มแข็งขึ้นกว่าที่เป็นอยู่

ส่วนนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ก.เขตบางรัก ลงพื้นที่เดินแนะนำตัวพร้อมขอคะแนนเสียงจากประชาชนตั้งแต่แยกศาลาแดงเรื่อยไปตลอดแนวถนนสีลม และเข้าไปในตลาดละลายทรัพย์ ซอยสีลม 5 โดยนายสุชัชวีร์กล่าวว่า ถ้าได้รับเลือกเป็นผู้ว่าฯ กทม. จะเร่งแก้ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจและการค้าขาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการต้องหยุดขายของในบางวัน ตนอยากให้สามารถทำการค้าขายได้ทุกวัน ซึ่ง กทม.ต้องมีแผนงานเรื่องการทำความสะอาดพื้นที่ค้าขายด้วย รวมทั้งเพิ่มไฟส่องสว่างและกล้องวงจรปิดดูแลปลอดภัยพนักงานบริษัทย่านนี้ด้วย

ด้านนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคก้าวไกล พร้อมผู้สมัคร ส.ก.เขตประเวศ เดินทางไปยังหมู่บ้านอิมพีเรียลพาร์ค ถนนเฉลิมพระเกียรติ ซอย 67 พื้นที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างโรงไฟฟ้ากำจัดขยะของ บริษัท กรุงเทพธนาคมฯ โดยเฉพาะเรื่องมลพิษทางกลิ่นที่เหม็นรบกวนความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างรุนแรง และกระจายไปไกลในรัศมีกว่า 5 กิโลเมตร มีหมู่บ้านได้รับผลกระทบกว่า 30 หมู่บ้าน โดยนายวิโรจน์กล่าวว่า การทำให้เทคโนโลยีดีๆกลายเป็นระบบที่ใช้การไม่ได้ อาจเกิดจากความจงใจเอื้อกลุ่มทุนธุรกิจบ่อขยะที่จะเสียประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นค่านำไปฝังกลบที่ กทม.ต้องจ่าย ซึ่งตรงนี้รู้กันว่าเป็นธุรกิจที่มีมาเฟียคุมมาอย่างยาวนาน เมื่อโรงไฟฟ้าขยะเหล่านี้ใช้งานไม่ได้ สุดท้ายจะเหลือสภาพเป็นเพียงจุดพักขยะเพื่อรอนำไปที่บ่อขยะรอการฝังกลบ จากแค่ปัญหากลิ่นก็จะขยายต่อกลายเป็นปัญหาน้ำ เพราะไม่เชื่อว่าจะมีการออกแบบไว้เพื่อรองรับขยะที่หมักหมม และน้ำเสียอาจซึมลงดินไปสู่แหล่งน้ำที่อยู่ใกล้ๆ ได้

น.ส.รสนา โตสิตระกูล ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. เดินทางมาเปิดตัวป้ายหาเสียงบนทางเท้าหน้าพื้นที่ของเอกชนบน ถ.เจริญนคร ระหว่าง ซ.เจริญนคร 19-21 พร้อมลงหาเสียงกับร้านค้าริมทางเท้า และร้านบนพื้นที่ ถ.เจริญนคร เป็นวันแรก หลังจากสมัครลงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. โดย น.ส.รสนากล่าวว่า นโยบายของตนจะไม่ให้มีการไล่จับหาบเร่แผงลอย เพราะเป็นซิกเนเจอร์ของไทย และจะไม่ให้มีการเรียกส่วย จะพยายามทำให้คนได้ทำมาหากินแล้วเสียภาษีให้กับรัฐแทนที่จะจ่ายเป็นส่วยให้กับใครก็ตามที่ไปไล่จับ โดยจะจัดพื้นที่ให้ขายของแบบถูกกฎหมายพร้อมรักษาความสะอาด เราต้องการให้มีอาหารปลอดภัยสำหรับคนเดินถนน มนุษย์เงินเดือน คนจน ในการที่จะอยู่ร่วมกันได้

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวรายการ "คุยกับลุง" EP 24 ตอนหนึ่งระบุว่า ปัญหาการจราจรถือเป็นปัญหาใหญ่ของชาว กทม. รถติดสาหัส เป็นเมืองหนึ่งของโลกที่รถติดมากที่สุด นักการเมือง พรรคการเมือง มักจะเอาเรื่องปัญหาการจราจรใน กทม.มาเป็นประเด็นในการหาเสียง จำได้ว่ามีนักการเมืองคนหนึ่งเคยประกาศว่า ถ้าเขาได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง เขาจะแก้ปัญหาการจราจรในกรุงเทพฯ ให้เสร็จภายใน 6 เดือน โม้มากทำไม่ได้

 นอกจากนี้ เรื่องปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯ วันนี้ไม่ได้ยินใครพูดถึงแนวทางการแก้ปัญหาเรื่องน้ำท่วม กทม.ในอนาคตเลย อาจจะเป็นเพราะว่าหลายคนมองว่าไม่ใช่ปัญหาใหญ่แล้ว ผู้ว่าฯ กทม.คนหนึ่งในอดีต อย่าง พล.ร.อ.เทียม มกรานนท์ เดินลุยน้ำไปดูแลประชาชน คนชอบภาพอย่างนี้ อยากเห็นผู้ว่าฯ กทม.อย่างนี้ มาวันนี้ระบบระบายน้ำของ กทม.อาจจะดีขึ้น เพราะคูคลองต่างๆ ที่รัชกาลที่ 5 ที่ทรงสร้างไว้เพื่อเลี้ยงพื้นที่นารอบๆกรุงเทพฯ และเป็นเส้นทางการจราจรทางน้ำในยุคนั้น ต่อมาคนมากขึ้น มีการรุกพื้นที่คูคลอง ทิ้งขยะทำให้กลายเป็นความไม่สะดวกในการระบายน้ำ มายุครัฐบาลนี้ เขาแก้ปัญหาคูคลองต่างๆ ได้ดี

 “วันนี้ดีขึ้น ทำให้ปัญหาเรื่องการระบายน้ำเบาบางลง แต่ก็ไม่แน่ ใครก็ตามที่จะมาเป็นผู้บริหาร กทม.ต้องคิดถึงปัญหานี้เอาไว้อย่างหนักแล้ว จะต้องมีแผนการ โครงการที่จะแก้ปัญหานี้อย่างต่อเนื่องต่อไป" นายสุเทพกล่าว

ประธาน มปท.กล่าวว่า เมื่อพูดถึงเรื่องเศรษฐกิจแล้ว อยากได้ยินบรรดานักการเมืองที่อาสามาจะเป็นผู้บริหาร กทม.ว่าเขาคิดอย่างไร ไม่ได้หมายถึงเศรษฐกิจในภาพรวมหรือภาพใหญ่ แต่หมายถึงเศรษฐกิจของครอบครัวคน กทม.ที่ได้รับผลจากโควิด และผลจากสงครามในยุโรป คนต้องเดือดร้อนแน่นอน ทำอย่างไรถึงจะให้ครอบครัวชาว กทม.ที่ส่วนใหญ่อยู่ตามชุมชนต่างๆ กระจัดกระจายกันอยู่ ให้มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ มีรายได้ที่จะเลี้ยงครอบครัว เป็นเรื่องใหญ่ เราสมควรจะได้ยินข่าวคราวโครงการ แผนงาน ในเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจครอบครัวจากบรรดาผู้สมัครรับเลือกตั้งทีมต่างๆ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง