กทม.ชี้4.3ล้านเคาะผู้ว่าฯ ผู้สมัครพาเหรดขายฝันอื้อ

กทม.เปิดข้อมูลล่าสุด มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 4,374,131 คน สมัครชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.แล้ว 31 คน "ชัชชาติ" ขายฝันผุดนโยบายผู้ว่าฯ เที่ยงคืน น้ำไหล ไฟสว่างแน่ ขณะที่ "ดร.เอ้" ให้หลักวิศวกรรมแก้ปัญหาน้ำเน่า กทม.

เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2565 นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมหัวหน้าหน่วยงานกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 4/2565 โดยมีผู้บริหาร กทม. และหัวหน้าหน่วยงาน กทม. ร่วมประชุม ณ ศาลาว่าการ กทม. (เสาชิงช้า) และผ่านระบบทางไกลว่า ในที่ประชุมสำนักงานปกครองและทะเบียนได้รายงานการเตรียมความพร้อมจัดการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) จากจำนวนประชากรผู้อาศัยในกรุงเทพมหานครทั้งหมด 5,519,907 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565) แบ่งเป็น เพศชาย 2,588,027 คน เพศหญิง 2,931,880 คน มีจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 4,374,131 คน (ข้อมูลคำนวณถึงวันที่ 22 พฤษภาคม 2565) แบ่งเป็นเพศชายจำนวน 1,996,104 คน เพศหญิงจำนวน 2,378,027 คน จำนวนหน่วยเลือกตั้ง 6,817 หน่วย บุคลากรที่ใช้ในการสนับสนุนการเลือกตั้ง 167,298 คน

นายขจิตกล่าวว่า ในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้ มีผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม. รวม 31 คน ส่วนผลการรับสมัครรับเลือกตั้ง ส.ก. มีผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ก. 50 เขต รวมจำนวน 382 คน โดยสำนักงานเขตที่มีผู้สมัคร ส.ก.มากที่สุด ได้แก่ เขตดุสิต และเขตสวนหลวง จำนวน 10 คน สำนักงานเขตที่มีผู้สมัคร ส.ก. น้อยที่สุด จำนวน 8 เขต ได้แก่ เขตสัมพันธวงศ์ เขตตลิ่งชัน เขตภาษีเจริญ เขตหนองแขม เขตบางพลัด เขตดินแดง เขตบางซื่อ และเขตคันนายาว โดยมีผู้สมัคร จำนวน 6 คน

ขอเชิญชวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกมาใช้สิทธิในวันที่ 22 พฤษภาคม 2565 เวลา 08.00-17.00 น. และหากไม่ไปใช้สิทธิ ต้องแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ก่อนและหลังวันเลือกตั้ง 7 วันคือ ก่อนวันเลือกตั้งระหว่างวันที่ 15-21 พฤษภาคม 2565 และหลังวันเลือกตั้ง ระหว่างวันที่ 23-29 พฤษภาคม 2565

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กลุ่มอิสระ เดินหน้าหาเสียงเขตบางกอกน้อย เปิดเผยว่า มีตลาดหลายแห่งเปิดให้บริการตั้งแต่ก่อนเช้ามืด เช่น ตลาดศาลาน้ำร้อน เปิดตั้งแต่เที่ยงคืน เป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีผู้ซื้อผู้ขายจำนวนมาก เป็นหนึ่งในกิจกรรมทางเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ ที่เกิดขึ้นในยามค่ำคืน เช่นเดียวกับสตรีทฟู้ดและธุรกิจบันเทิง ดังนั้นผู้ว่าฯ กทม.ต้องมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ชีวิตช่วงกลางคืน จึงประกาศนโยบายผู้ว่าฯ เที่ยงคืน เพื่อให้ผู้คนใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย

 “หลายคนสะท้อนว่าไม่เคยเห็นผู้ว่าฯ ในเวลากลางคืนเลย เคยเห็นแต่ช่วงกลางวัน ดังนั้นต้องมีนโยบายผู้ว่าฯ เที่ยงคืน เพื่อดูแลความปลอดภัยของคนที่เลิกงานกลางคืน ครอบคลุมปัญหาไฟส่องสว่าง การเดินทางด้วยรถเมล์รอบดึก คนเลิกงานดึกต้องมีห้องน้ำสาธารณะ น้ำสะอาด ไฟสว่าง หรือแม้กระทั่งในย่านท่องเที่ยวค่ำคืน เป็นไปได้หรือไม่ที่จะตกแต่งให้สวยงาม เพื่อให้เห็นความสวยงามของกรุงเทพฯ ในอีกมิติ” นายชัชชาติกล่าว 

ด้านนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 4 พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมแสดงวิสัยทัศน์งานเสวนาผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.กับการบริหารจัดการขยะ น้ำ อากาศ และเมืองยั่งยืน หัวข้อ “การจัดการน้ำเสีย และขยะในกรุงเทพมหานคร” จัดโดยเครือข่ายคณาจารย์นิสิตนักศึกษาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมประเทศไทย และภาควิชาวิศกรรมสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.)

หลังจากผู้ดำเนินการได้ให้ข้อเสนอ และได้ฟังความคิดเห็นจากนักวิชาการ เรื่องการบำบัดน้ำเสียและสาเหตุของน้ำเน่าแล้ว นายสุชัชวีร์กล่าวว่า สาเหตุหลักของน้ำเน่า ไม่ใช่ขยะเป็นหลัก แต่เกิดจากการจัดการน้ำเสียส่วนหนึ่ง และการไหลเวียนของน้ำอีกส่วนหนึ่ง จากการลงพื้นที่มาครบทั้ง 50 เขต พบว่าหลายคลองใน กทม. ปล่อยให้น้ำนิ่ง เมื่อน้ำนิ่งไม่เคลื่อนไหวเป็นเวลานาน ประกอบกับมีการปล่อยน้ำเสียที่มีคราบน้ำมันเคลือบผิวน้ำ ทำให้น้ำไม่สามารถผันออกซิเจนได้ ทำให้น้ำเน่า และยิ่งปล่อยให้เน่าเสียเป็นเวลานานก็จะเกิดแก๊สและสารพิษ เป็นอันตรายต่อชีวิตของผู้อยู่อาศัยรอบ ๆ คลอง

 “สิ่งสำคัญที่สุดคือขณะนี้ไม่มีการสำรวจข้อมูลที่เป็นปัจจุบันของแม่น้ำ ลำคลอง และผมพบว่ามีคลองบางแห่งสูญหายไปแล้วจากการลักลอบถมที่ และคลองบางแห่งไม่มีชื่อ หรือแม้กระทั่งปริมาตรความจุของคลอง ทั้งลักษณะความกว้าง ความยาว ความลึก เมื่อเราไม่รู้สิ่งเหล่านี้ การจัดการน้ำในอนาคตจะทำได้ยาก ซึ่งการแก้ปัญหาดังกล่าวด้วยหลักวิศวกรรม จำเป็นต้องมีข้อมูล ไม่ใช่คิดเอาเองว่าควรจะเป็นอย่างไร เพราะการทำแบบนั้นทำให้แก้ปัญหาไม่ได้” นายสุชัชวีร์กล่าว

น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคไทยสร้างไทย ร่วมเวที Bangkok Active ฟังเสียงกรุงเทพฯ ครั้งที่ 1 เมืองน่าอยู่ กล่าวว่า ถ้าได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. สิ่งแรกที่จะดำเนินการในเรื่องนี้คือ ทดสอบระบบระบายน้ำทั้งระบบ เมื่อทดสอบการระบายน้ำทั้งระบบแล้วก็เข้าใจว่าสิ่งที่ต้องการคืออะไร ที่บอกว่าไปขุดลอกคูคลองใช้งบประมาณประมาณ 100 ล้านบาทหรือมากกว่านั้นต่อปี จะเห็นว่าได้มีการขุดลอกจริงหรือไม่ เมื่อมีการทดสอบระบบทั้งระบบ โดยเชื่อว่าสามารถที่จะทำให้สถานการณ์น้ำในกรุงเทพฯ ดีขึ้นได้ทันที 50 เปอร์เซ็นต์ หากมีการบริหารจัดการที่ดี

เขากล่าวว่า จะสร้างกลไกให้ทุกคนมีส่วนร่วม สร้างบล็อกเชน Decentralized Autonomous Organization (D.A.O) สะท้อนและรับรู้ปัญหาได้โดยตรง และหาแนวทางหรือแก้ไขได้ทันที มีระบบบล็อกเชน (Blockchain) เพื่อตรวจสอบความถูกต้องและรับประกันความปลอดภัยของข้อมูล โดยใช้วิทยาการเข้ารหัสลับส่วนบุคคล ประชาชนจะใช้แอปมือถือตรวจสอบติดตามและประเมินการทำงานเจ้าหน้าที่ กทม.ได้ การให้คะแนนจะมีผลต่อการเลื่อน-ลด-ปลด-ย้าย ข้าราชการ กทม.ด้วย

น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ไม่เห็นด้วยกับนโยบายจัดพื้นที่ชุมนุมของนายชัชชาติ การให้ชุมนุมได้เฉพาะในที่ที่รัฐกำหนด เป็นวิธีที่ประเทศเผด็จการเขาใช้กันเพื่ออ้างว่าเป็นประชาธิปไตย เปิดรูให้ประชาชนชุมนุมได้ในบางที่ แต่เป็นการชุมนุมที่จะไม่มีพลังไม่มีอิมแพ็กต์อะไรพอที่จะสะเทือนผู้มีอำนาจได้

"หากคุณชัชชาติจะจัดโซนนิ่งให้ชุมนุม อยากทราบว่าหน้าทำเนียบรัฐบาล กระทรวงต่างๆ สนามหลวง และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จะเป็นโซนที่สามารถชุมนุมได้หรือไม่?"

นายวันชัย สอนศิริ ส.ว. โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า เมื่อดาวราหูและดาวมฤตยูเล่นสงกรานต์ เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. 22 พฤษภาคม ล็อกถล่มคะแนนทลาย ไม่เป็นดังที่หมาย จะมีแรงกระแทกไปยังผู้นำและรัฐบาลเหมือนคลื่นแห่งราหูสาดซัดเข้ามายังประเทศ มีผลกระทบเป็นระลอกๆ อย่างแน่นอน ผลของการเลือกตั้งทั้งผู้ว่าฯ และ ส.ก. จะมีผลต่อการเมืองใหญ่ไปสู่สภาที่กำลังจะเปิดสนามปะทะกันในหลายเรื่องหลายดอก การเลือกตั้งใหญ่ก็จะมีขึ้นอีกใน 6-7 เดือนข้างหน้า อะไรก็พร้อมจะเกิดขึ้นได้ เพราะมฤตยูเป็นตัวเร่งเครื่องที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง ที่บอกว่า 7 กรกฎาคม มฤตยูย้าย จุดเปลี่ยนประเทศไทยเป็นหมุดหมายที่สำคัญอยู่ตรงนั้น ผู้นำที่ว่าแข็งๆ โดนมฤตยูทับดวงเมืองทั้งเข้าและออกมาแล้วหลายคน ทั้งหมดอำนาจ หมดยศหมดตำแหน่ง ระหกระเหินไปต่างประเทศก็หลายคน ถึงอยู่ก็เหมือนไม่อยู่ สงกรานต์ปีนี้ดูทีท่าว่าจะสนุกอยู่บ้างแม้ว่าจะไม่เต็มที่ แต่รัฐนาวาที่กำลังโลดแล่นฝ่าคลื่นลมปะทะราหูและมฤตยู ความพิศวงแห่งกงเกวียนกำเกวียนพร้อมที่จะอุบัติขึ้นได้

"กระแสแห่งน้ำกระแสแห่งกรรม กระแสแห่งการกระทำ กำลังสาดซัดถาโถมเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่ชนิดที่เราต้องตั้งคำถามว่าเป็นไปได้อย่างนี้เชียวหรือ…มฤตยูกับราหูมันแรงจริงๆ" นายวันชัยระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง