ถกแขนรอ ‘วัคซีน’ ไทยมาแน่ปลายปี

ศบค.เผยมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 อีก 8.4 พันราย เสียชีวิต 58 คน  รัฐบาลเผยความคืบหน้าวัคซีนโควิดสัญชาติไทย “ChulaCov19” ผลิตล็อตแรกในประเทศได้แล้ว คาดขึ้นทะเบียนปลายปีนี้ สอดรับเป้าหมาย Medical Hub

เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2565 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8,450 ราย  ติดเชื้อในประเทศ 8,409 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 8,380 ราย, มาจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 29 ราย, มาจากเรือนจำ 37 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 4 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 12,224 ราย อยู่ระหว่างรักษา 93,840 ราย

เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 58 ราย เป็นชาย 33 ราย หญิง 25 ราย อายุ 60 ปีขึ้นไป 44 ราย มีโรคเรื้อรัง 12 ราย ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 2 ราย ขณะนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 4,316,769 ราย มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 4,193,895 ราย มียอดผู้เสียชีวิต

ส่วนยอดฉีดวัคซีนวันที่ 6 พ.ค. 181,959 โดส ยอดฉีดสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.64 จำนวน 134,400,625 โดส ขณะที่สถานการณ์โลกมีผู้ติดเชื้อสะสม 516,454,443 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 6,274,504 ราย

สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด ได้แก่ กทม. 2,268 ราย, ศรีสะเกษ 299 ราย, บุรีรัมย์ 280 ราย, สุรินทร์ 274 ราย, ขอนแก่น 263 ราย, ชลบุรี 260 ราย,  สมุทรปราการ 255 ราย, มหาสารคาม 185 ราย, อุบลราชธานี 182 ราย และนนทบุรี 168 ราย

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม รับทราบความคืบหน้าการพัฒนาวัคซีนโควิดสัญชาติไทย “ChulaCov19” ชนิด mRNA โดยเมื่อ พ.ย.2564 คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบอนุมัติงบประมาณสนับสนุน 2,316 ล้านบาท ซึ่งทางศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ให้ข้อมูลว่าขณะนี้การผลิตอยู่ในขั้นการออกแบบวัคซีน และให้โรงงานในสหรัฐอเมริกาผลิต ซึ่งผ่านการทดสอบในอาสาสมัครระยะที่ 1 และ 2 เรียบร้อยแล้ว มีความปลอดภัยและสามารถกระตุ้นภูมิได้สูงเป็นที่น่าพอใจ ขนาดที่เลือกเมื่อเทียบกับวัคซีนไฟเซอร์ที่อนุมัติใช้ในไทยได้ภูมิที่สูงกว่าชัดเจน

ส่วนระยะต่อไป จะเป็นการผลิตวัคซีนเองภายในประเทศ โดยบริษัท ไบโอเน็ตเอเชีย จำกัด ซึ่งผลิตวัคซีนล็อตแรกเรียบร้อยและผ่านการประกันคุณภาพแล้ว ทางทีมวิจัยได้ส่งเอกสารและข้อมูลต่าง ๆ เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อขอทดสอบในอาสาสมัครระยะที่ 1 และ 2 อยู่ระหว่างรอการอนุมัติจาก อย. หากผลทดสอบวัคซีนที่ผลิตเองในไทยได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ คาดว่าจะขึ้นทะเบียนวัคซีนได้ภายในปลายปี 2565

“รัฐบาลตั้งเป้าให้ไทยเป็นประเทศสามารถคิดค้น ทดลอง วิจัย พัฒนา และผลิตวัคซีนในประเทศได้เอง ตาม ‘ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) 2560-2569’ ซึ่งจะส่งผลถึงระดับภูมิภาค ทำให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความมั่นคงและปลอดภัยในการป้องกันเชื้อไวรัส ทั้งนี้ เป้าหมายดังกล่าวได้กำหนดไว้ตั้งแต่ก่อนที่จะมีการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งการที่ไทยเป็น ‘ศูนย์กลาง’ การผลิตวัคซีน จะช่วยเพิ่มโอกาสให้คนไทยเข้าถึงวัคซีน และการระดมฉีดวัคซีนทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น สามารถป้องกันการเสียชีวิตของคนไทย ช่วยลดการป่วยหนักและการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ซึ่งหมายความถึงการลดภาระระบบสาธารณสุขได้อีกมหาศาล” น.ส.รัชดากล่าว

ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะ ผอ.ศบค. มอบหมายกระทรวงสาธารณสุขติดตามอาการและให้ความรู้แก่ประชาชนในการดูแลตนเอง หลังพบว่าผู้ที่หายป่วยจากโควิด-19 แล้วจำนวนมาก มีภาวะลองโควิด (Long COVID) หรืออาการที่เกิดขึ้นหลังจากหายป่วย เช่น เหนื่อยล้า หายใจไม่อิ่ม ไอ เจ็บหน้าอก การรับรู้กลิ่นและรสเปลี่ยนไป เป็นต้น ซึ่งหากได้รับการตรวจวินิจฉัยที่เร็ว และได้รับการรักษาที่เหมาะสม สามารถทำให้อาการดังกล่าวหายไปและกลับมาใช้ชีวิตปกติได้เร็วขึ้น

นายธนกรกล่าวว่า ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขจัดตั้ง “คลินิกรักษาผู้ป่วย Long COVID” ขึ้นในโรงพยาบาลทุกระดับ โดยให้บริการแบบผู้ป่วยนอก ผ่านการนัดหมายการรับบริการหรือให้บริการผ่านระบบพบแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ทั้งคลินิก Long COVID และคลินิกเสมือนจริง (Virtual clinic) เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงบริการได้สะดวกรวดเร็ว ขณะเดียวกัน กรุงเทพมหานครเตรียมเปิดคลินิก Long COVID ในโรงพยาบาลทั้ง 9 แห่ง ในวันที่ 9 พ.ค.65 นี้ ได้แก่ 1.โรงพยาบาลตากสิน 2.โรงพยาบาลลาดกระบังกรุงเทพมหานคร 3.โรงพยาบาลสิรินธร 4.โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ 5.โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ 6.โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน 7.โรงพยาบาลกลาง 8.โรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ ชุตินธฺโร อุทิศ และ 9.โรงพยาบาลเวชการุณย์รัศมิ์ ให้บริการแก่ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครผ่านการเบิกจ่ายค่ารักษาตามสิทธิ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง