หวดลูกศิษย์พระ ระวังทำผิดกม. สว.ชงเพิ่มโทษ

“วิษณุ” รับเรื่องเสื่อมวงการสงฆ์มีมานาน เหมือนคอร์รัปชัน ยิ่งตรวจยิ่งเจอ เตือน "ลูกศิษย์-พระ" หาผลประโยชน์พระสูงอายุ อาพาธ ระวังผิด กม. ขอ ปชช.ชี้เบาะแสจริงอย่าปั้นแต่งเรื่อง “กมธ.ศาสนาฯ ส.ว.” เตรียมผลักดันแก้ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ เพิ่มโทษพระ-สีกาเสพเมถุน คุก 1-10 ปี “พระอุปัฏฐาก” ยันหลวงปู่แสงเป็นอัลไซเมอร์ “ทนายดัง”ฉุนพวกทำกับหลวงปู่ ลั่นรับว่าความให้หากจะฟ้อง

เมื่อวันที่ 12 พ.ค. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการตรวจสอบเรื่องไม่เหมาะสมในวงการสงฆ์ว่า   นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)ได้บอกไปหลายเรื่องแล้ว ให้เอาตามนั้น เพราะเป็นผู้ดูแล พศ. ส่วนตนเป็นเพียงผู้กำกับอีกชั้นหนึ่งเท่านั้น หลายเรื่องอาจจะไม่ทราบ

“เคสต่างๆ เยอะขึ้นทุกวัน ไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งเกิด แต่เมื่อมีการตรวจอย่างจริงจังจึงพบ และยังจะพบอีกเยอะ เหมือนกับการทุจริตคอร์รัปชัน ที่พบว่ามีจำนวนมาก ไม่ใช่มากเพราะเพิ่งจะเกิด แต่มีมานานแล้วเพิ่งไปตรวจกัน เพิ่งกล้าตรวจ และเอาจริงเอาจังในการตรวจ เมื่อตรวจแล้วก็พบ”นายวิษณุกล่าว

ถามถึงกรณีลูกศิษย์หาผลประโยชน์จากพระผู้ใหญ่ที่อาพาธและเป็นอัลไซเมอร์ จะป้องกันและแก้ไขอย่างไร รองนายกฯ กล่าวว่า เราไม่ได้ให้ท่านมีตำแหน่งในทางปกครองหรือบังคับบัญชา  หรือที่เรียกว่าพระสังฆาธิการ ดังนั้นการบวชและอยู่นานก็อยู่ไปไม่มีปัญหา พระบางรูปอยู่ไปถึงอายุ 100 ปี ก็ไม่แปลก อย่างสมเด็จพระญาณวชิโรดม หรือหลวงพ่อวิริยังค์ แต่เวลาจะตั้งให้เป็นพระสังฆาธิการปกครองสงฆ์ เขาจะไม่ตั้ง อย่าว่าแต่อายุ 100 ปี บางที 80 ปีก็ไม่ตั้งแล้ว ส่วนกรณีมีลูกศิษย์ลูกหาไปหาผลประโยชน์นั้นก็ต้องจัดการ ถ้าผิดกฎหมายหรือผิดวินัยสงฆ์

 “การเข้าไปตรวจสอบเรื่องพระสงฆ์ให้ยึดหลักโปร่งใส โดยโปร่งใสก็อาจจะมาได้จากคำแนะนำหรือการชี้เบาะแสของใครก็ได้ เหมือนกับเรื่องทุจริตที่รณรงค์ให้ประชาชนชี้เบาะแส แต่ต้องเป็นเบาะแสที่เป็นความจริง หรือไม่จริงแต่สงสัยโดยมีเหตุอันควรสงสัย ไม่ใช่ไปปั้นเติมเสริมแต่ง ถ้าอย่างนี้มีประโยชน์ อย่างนี้ทำได้”รองนายกฯ กล่าว

ที่รัฐสภา นายวันชัย สอนศิริ ส.ว. ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา กล่าวว่า กมธ.การศาสนาฯ เห็นว่าควรมีการแก้กฎหมายพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คณะสงฆ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ให้มีความเข้มแข็งเด็ดขาด และมีโทษรุนแรง ทำให้พระสงฆ์ที่ทำผิดเรื่องนี้จะได้เกรงกลัว เข็ดหลาบ และไม่กล้ากลับมาบวชอีก เพราะมีประวัติอาชญากรรมกระทำชั่วติดตัวเป็นตราบาป

“กมธ.จะผลักดันให้มีการแก้กฎหมายกรณีที่พระสงฆ์องค์ใดอวดอุตริมนุสธรรม ว่าตัวเองเป็นผู้วิเศษ บรรลุธรรมสำเร็จเป็นพระอรหันต์ มีเยี่ยวมีขี้เป็นพระธาตุ ทำให้คนหลงเชื่อก่อให้เกิดความเสียหาย ต้องลงโทษจำคุก 1 ถึง 5 ปี พวกเสพเมถุนและผู้หญิงที่มาร่วมเสพกับพระก็ต้องถูกลงโทษ 1 ถึง 10 ปีด้วย รวมทั้งกรณีที่เมื่อถูกจับสึกออกไปแล้วกลับมาบวชอีก โดยปกปิดข้อมูลหรือให้ข้อมูลเท็จกับพระอุปัชฌาย์ ต้องมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี”โฆษก กมธ.การศาสนาฯ กล่าว

ด้านความคืบหน้ากรณีหมอปลา พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดยโสธร และสื่อมวลชน เข้าตรวจสอบหลวงปู่แสง ญาณวโร พระเกจิชื่อดังอายุ 98 ปี และป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์อาศัยอยู่ในที่พักสงฆ์ พื้นที่บ้านดงสว่าง ต.โคกนาโก อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร โดยกล่าวหาหลวงปู่แสงมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมต้องถูกจับสึก อ้างว่ามีคลิปช่วงเกิดเหตุเป็นหลักฐานเห็นหลวงปู่พร้อมลูกศิษย์ชาย 3 คนนั่งประกบ เมื่อญาติโยมผู้หญิงเข้ามากราบไหว้ จะถูกเรียกเข้าไปใกล้ๆ ก่อนพระชราที่ถูกกล่าวหาจะพยายามลวนลามผู้เสียหาย ทั้งลูบศีรษะ โอบกอด และพยายามดึงเข้าไปหอมแก้มนั้น

นายสิทธา มูลหงส์ ผู้ตรวจราชการ และโฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า นายสิทธิลักษณ์ จิตอาคนารัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ยโสธร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ นักวิชาการ ร่วมกับนายอำเภอป่าติ้ว และปลัดอำเภอป่าติ้ว ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวทางพระอุปัฏฐาก (พระผู้ดูแล) แจ้งว่า หลวงปู่แสงเป็นโรคอัลไซเมอร์ และมีอาการอาพาธ ไม่สามารถเดินได้ จะนั่งด้านหน้าบริเวณกุฏิเท่านั้น ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับพระธรรมวินัย พศจ.ยโสธร จะได้นำกราบนมัสการเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอฝ่ายธรรมยุต เพื่อพิจารณา ส่วนผลการพิจารณาจะเป็นอย่างไ ก็จะมีการรายงานมายังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติต่อไป

นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ "ทำกับหลวงปู่แสงได้อย่างไร???" ตอนหนึ่งระบุว่า หลวงปู่แสงท่านเป็นพระปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เป็นพระป่าสายพระกรรมฐาน ท่านเป็นโรคอัลไซเมอร์ พวก….ทำอะไรกับหลวงปู่  ผมรับไม่ได้จริงๆ หากศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่แสงจะดำเนินคดีกับพวก…นี้ ผมในฐานะเป็นผู้ปฏิบัติธรรมสายกรรมฐาน ผมยินดีเป็นทนายความให้ครับ

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวจังหวัดขอนแก่นรายงานว่า ได้พบนายทวี หนันลา อายุ 74 ปี หรือพระบิดา เจ้าสำนักประหลาด บริเวณไร่อยู่เย็นเป็นสุข ต.ห้วยม่วง อ.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น เขตรอยต่อระหว่าง จ.ขอนแก่น กับ จ.เลย หลังจากได้รับการประกันตัวจากศาล ซึ่งภายในไร่ดังกล่าวมีลูกศิษย์ที่เลื่อมใสศรัทธาคอยดูแลอย่างใกล้ชิด

นายทวีกล่าวว่า ไร่แห่งนี้เป็นของลูกศิษย์ จึงมาพักชั่วคราว เพื่อรอขึ้นศาลจังหวัดภูเขียวในวันที่ 27 มิ.ย.2565 นี้ และที่ไม่ได้กลับไปที่ อ.หนองเรือบ้านเกิดนั้น เนื่องจากออกมาตั้งแต่เป็นเด็ก ไม่ได้มีความผูกพัน ไม่มีบ้านพักอาศัย และกลับไปที่สำนักก็ไม่ได้ เนื่องจากไม่อนุญาตให้เข้าไป จึงมาอยู่ที่นี่เป็นการชั่วคราว แต่หากชาวบ้านในพื้นที่ไม่ต้อนรับก็ยินดีออกจากพื้นที่ไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง