แท็กทีมโค่นประยุทธ์ 18สส.พรรคเล็กผนึก‘ธรรมนัส’ควํ่างบ-ซักฟอก/ขู่เชือดรมต.

"ชัยวุฒิ" ชี้ขาด "ก๊วนธรรมนัส" ไม่กระทบรัฐบาล มั่นใจเสียงพอผ่านฉลุย "ผู้กอง" สวนรัฐมนตรีปากดี สวมหัวโขนนิสัยเปลี่ยน ระวังตกเก้าอี้ ฟุ้งในมือมีมากกว่า 40 เสียง สะพัด 18 ส.ส.จับมือ "ธรรมนัส" จ้องโค่นรัฐบาล "ประชาธิปไตยใหม่" ขยับซักฟอกยกมือตามเนื้อผ้า จี้ "ประวิตร" ลงมารับฟังปัญหาพรรคเล็กบ้าง "ศท." วุ่นอีก "2 พี่น้องพันธุ์วิชาติกุล"  ไขก๊อกตามอาน้อย "บุญสิงห์" แย้มเตรียมประชุมใหญ่ เลือก กก.บห.ชุดใหม่ 10 มิ.ย.นี้ "ชินวรณ์" เชื่องบ 66 รับหลักการผ่านแน่ "สุเทพ" บอก "บิ๊กตู่" อดทนเอาไว้ทุกอย่างจะดีขึ้น

เมื่อวันที่ 26 พ.ค. นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงคะแนนนิยมพรรคภายหลังการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.และ ส.ก.ว่า ผู้บริหารพรรคมีมติให้ปรับปรุงนโยบาย รับฟังเสียงประชาชน ปรับปรุงการทำงานของพรรคหลายด้าน อย่างการประชาสัมพันธ์ ยอมรับที่ผ่านมาบางนโยบายยังไม่ถูกใจประชาชน จากนี้ต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น ต้องมีนโยบายใหม่ๆ มีแนวทางการทำงานใหม่เพื่อให้พรรคเข้มแข็งให้ทันสมัย ตรงกับความต้องการของประชาชน และให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นศรัทธา ในช่วงเวลาที่ยังเหลืออยู่ก่อนการเลือกตั้ง 

นายชัยวุฒิไม่ตอบคำถามกรณีในสนามเลือกตั้งครั้งหน้าชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะยังขายได้หรือไม่ โดยระบุว่า ยังไม่ถึงเวลา หากปรับปรุงการทำงานแล้วมีนโยบายใหม่ๆ ก็ค่อยว่ากันอีกทีว่าจะเดินหน้าอย่างไรสำหรับการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นเรื่องของอนาคต เรื่องหลักตอนนี้คือการทำนโยบายให้ตรงตามความต้องการของประชาชนทำงานให้ดีขึ้น 

ถามว่าพรรค พปชร.ขาด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า มีผลกระทบหรือไม่ รองหัวหน้าพรรค พปชร.กล่าวว่า ร.อ.ธรรมนัสเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ เป็นผู้ใหญ่ที่ทำงานด้วยกันมา ยังคงรักและเคารพนับถือ  มองว่าการที่ออกไปตั้งพรรคเศรษฐกิจไทย ถือเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่เหมาะสมและต้องทำงานร่วมกับรัฐบาล ทำงานเพื่อประชาชน เชื่อว่าไม่มีความขัดแย้งกันถึงขนาดที่ ร.อ.ธรรมนัสจะไปอยู่ฝ่ายตรงข้ามกัน แต่ ร.อ.ธรรรมนัสจะคิดอย่างไรตนไม่ทราบ ขึ้นอยู่ที่การตัดสินใจ

 “พวกเรายังทำงานร่วมกันได้ เข้าใจได้ว่ามีความต้องการที่จะไปทำในสิ่งที่ถนัด มีพรรคการเมืองของตัวเอง มีอิสระในการทำงาน อีกทั้งในพรรค พปชร.ก็ยังไม่มีใครพูดคุยกันว่าอยากให้ ร.อ.ธรรมนัสกลับมา กระแสข่าวก็คือข่าวลือ ต่างคนต่างอยู่ก็แฮปปี้ดีแล้ว” รองหัวหน้าพรรค พปชร.กล่าว

ซักว่า ท่าทีพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.)ยังไม่ชัดเจนว่าจะอยู่ฝั่งไหนจะส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ดูจากจำนวนเสียงที่มีอยู่ของรัฐบาล หากไม่นับพรรคเศรษฐกิจไทยก็ยังผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปได้ มั่นใจว่าเสียงยังพอแน่นอน

ส่วนนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค พปชร. ชี้แจงกรณีการวิจารณ์เรื่องการลบนโยบายในเพจของพรรค พปชร.ว่า ผู้บริหารพรรคมีมติจะปรับปรุงระบบโซเชียลเน็ตเวิร์กครั้งใหญ่ของพรรคให้ทันสมัย และมีประสิทธิภาพสูงสุดสามารถเชื่อมต่อกับผู้สมัคร ส.ส.ทั้งประเทศ เป็นการเตรียมเลือกตั้งใหญ่ในครั้งหน้า

“ควรจะลบนโยบายนั้นออกตั้งนานแล้ว นโยบายที่ผ่านมาบางนโยบายที่เราทำไม่ได้ เพราะทางพรรคไม่ได้ดูแลกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับนโยบายนั้นๆ เช่น มารดาประชารัฐ เพราะพรรคอื่นดูแล ส่วนเรื่องค่าแรง หลังจากที่นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เข้าไปดูแล ตอนนี้ก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้นตามลำดับ สิ่งที่ไม่ได้ระบุแต่เราทำก็มากมาย เช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และโครงการคนละครึ่ง ที่ผลักดันโดยพรรคร่วมรัฐบาล” นายไพบูลย์กล่าว

ถามถึงการเลือกตั้งที่ได้ ส.ก. 2 เขต สะท้อนอะไรหรือไม่ นายไพบูลย์กล่าวว่า  เป็นเรื่องของการเลือกตั้งท้องถิ่น ยังมีความกังวลในข้อกฎหมายที่ห้าม ส.ส.ลงไปช่วยหาเสียง แต่ในต่างจังหวัดยังกินพื้นที่รายใหญ่ได้อยู่ ไม่มีความกังวล

ผู้กองฟุ้งเสียงหนุนเกิน 40

ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวถึงกรณีที่นายชัยวุฒิมั่นใจเสียงรัฐบาลจะเพียงพอในการอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่จำเป็นต้องมีเสียงของพรรค ศท.ว่า ส่วนตัวทุกครั้งที่เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนจะพูดบนพื้นฐานความเป็นจริง แต่นายชัยวุฒิเช้าพูดอย่างหนึ่งบ่ายพูดอีกอย่างหนึ่ง ไม่มีความแน่นอนพูดเอามันอย่างเดียว เสียงของเรามีทั้งหมด 18 เสียง เป็น ส.ส.อยู่ในสภา 16 เสียง เป็นเสียงที่มีความสำคัญและเสียงในมือตนไม่ได้มีเพียงแค่ 16 เสียง หากฟังนายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม 16 ให้สัมภาษณ์ก็จะทราบชัดเจนว่าตนมีเสียงจากที่อื่นอีกเยอะ ดังนั้นรัฐมนตรีแต่ละคน หลายคนก็ทำคุณงามความดีให้กับประเทศชาติบ้านเมืองเยอะ พึงระวังตัวด้วย

คำถามที่ว่ามีเสียง 40 เสียงหมายถึงกลุ่มพรรคเศรษฐกิจไทยและกลุ่ม 16 ใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ผมมีมากกว่า 16 เสียง อย่าลืมว่าผมมีพี่น้องเยอะ ที่นั่งอยู่ฝ่ายรัฐบาล ส่วนฝ่ายค้านนั้นไม่ต้องพูดถึง

ซักว่า พี่น้องหมายถึงในพรรค พปชร. ใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ใช่ ส่วนที่โพสต์ในเพจของตนว่าขอแสดงความยินดีกับครอบครัวของผม ที่ชนะการเลือกตั้ง ส.ก.หลายคน ผมพูดเรื่องจริง ทั้งพรรค พปชร.และกลุ่มรักษ์กรุงเทพฯ รวมถึงยังมีอีกหลายพรรคที่เป็นครอบครัวผม ไม่อยากพูดมาก

ถามว่า แสดงว่าสามารถเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า เราต้องดูที่เหตุและผล ไม่ได้ทำด้วยอารมณ์ รัฐมนตรีหลายคนปากเก่ง แต่ในทางปฏิบัติและการบริหารแผ่นดินล้มเหลว ต้องระวัง อย่าเอาดีแต่พูด โกหกผู้ใหญ่ไปวันๆ อย่าทำ 

“พูดเอามันอยู่เรื่อยเลย ตัวเองคอร์รัปชันระวังเถอะ รัฐมนตรีที่พูดเก่งๆ เดี๋ยวจะตกเก้าอี้โดยไม่รู้ตัว หมดอนาคตการเมือง อวดเก่งเหลือเกิน ผมมีข้อมูลแน่น มีทุกอย่างในการอภิปราย รัฐมนตรีในพรรค พปชร. น้องๆ ผมทั้งหลาย ก่อนเป็นรัฐมนตรีน่ารัก พอเปลี่ยนหัวโขนสวมแล้วก็เปลี่ยนนิสัย ขอให้ระวังเถอะ เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะได้จำนวน ส.ส.ที่เพิ่มขึ้นแน่นอน เพราะ ส.ส.แบบเขตเป็นครอบครัวผมเยอะ ฝากบอกรัฐมนตรีปากดีด้วย” ร.อ.ธรรมนัสกล่าว

เมื่อถามว่า มีแนวโน้มที่จะดึงพรรคเล็กเข้าไปสังกัดพรรคเศรษฐกิจไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้า ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ก็มีหลายคนที่เข้ามา

วันเดียวกัน ในเฟซบุ๊กของนายคมสัน พันธุ์วิชาติกุล โฆษก พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อดีตหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย โพสต์ข้อความระบุ “ขอชี้แจงการลาออกเนื่องจากอาน้อย พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประกาศลาออกจาก หน.พรรค ศท. ผมจะยื่นลาออกจากรองโฆษกพรรคและสมาชิกพรรค ศท. ด้วยครับ” นอกจากนี้ นายอัษฎา พันธุ์วิชาติกุล น้องชายนายคมสัน ก็โพสต์เฟซบุ๊กประกาศขอลาออกจากสมาชิกพรรค ศท.เช่นกัน

นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ศท. แถลงภายหลังประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ศท. ชุดรักษาการว่า แม้ข้อบังคับพรรคจะกำหนดไว้ว่าให้เลือก กก.บห.ชุดใหม่ภายใน 45 วัน แต่การทิ้งช่วงระยะเวลายาวนานนั้นไม่เป็นผลดีกับพรรค และไม่เป็นผลดีกับประชาชน รวมถึงสมาชิกพรรค เพราะช่วงนี้เป็นช่วงการเปิดประชุมสภา จำเป็นที่จะต้องมีการขับเคลื่อนพรรคในการกำหนดบทบาทท่าทีต่างๆ ที่จะมีต่อไปข้างหน้า โดยมติที่ประชุมในวันนี้ได้กำหนดให้มีการประชุม กก.บห.พรรคชุดใหญ่ ในวันที่ 10 มิ.ย.เวลา 13.00 น. ซึ่งจะใช้สถานที่ที่ใกล้กับอาคารรัฐสภา คาดว่าจะใช้เวลาการประชุมในวันดังกล่าวไม่นาน เพราะไม่มีปัญหาและอุปสรรคอะไร สมาชิกทุกคนรู้หน้าที่และบทบาทของตนเองอยู่แล้ว

มีรายงานว่า มีความพยายามในการรวบรวมรายชื่อกลุ่ม ส.ส.จากพรรคการเมืองต่างๆ ที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกับพล.อ.ประยุทธ์ และมีแนวโน้มที่จะลงมติไม่สนับสนุนไปในทิศทางเดียวกับรัฐบาล โดยเฉพาะการลงมติในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 และการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี ล่าสุดมีการเคลื่อนไหวล่ารายชื่อที่รวบรวม ส.ส.ได้ทั้งสิ้น 18 คน ซึ่งประกอบไปด้วย ส.ส.จากพรรคการเมืองขนาดเล็กหลายพรรคในขั้วรัฐบาล กลุ่ม ส.ส.ที่แยกตัวมาจากพรรคการเมืองเดิม ที่ถูกมองว่าเป็นงูเห่า รวมไปถึง ส.ส.กลุ่ม 16 เดิม ที่มีนายพิเชษฐเป็นแกนนำ คาดว่ากลุ่ม 18 ส.ส.ดังกล่าวพร้อมจะผนึกรวมกำลังกับ ส.ส.พรรค ศท.ของกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส 

‘สุเทพ’บอกบิ๊กตู่อดทนไว้

 นายสุรทิน พิจารณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปไตยใหม่ กล่าวว่า พรรคประชาธิปไตยใหม่เมื่อยังอยู่ฝ่ายรัฐบาล เราก็ต้องรักษามารยาท แต่ถ้าถึงช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล หากรัฐมนตรีในรัฐบาลชี้แจงไม่ได้ คงจะต้องว่ากันไปตามเนื้อผ้า

 “8 พรรคเล็กวันนี้ยังอยู่กับรัฐบาล ที่ออกไปมีเพียงพรรคของนายมงคลกิตติ์พรรคเดียว แต่อยากจะแนะนำรัฐบาล เวลาส่งผู้ประสานงานมา อย่าส่งรัฐมนตรีบางคนมา เพราะมาคุยก็ตกลงตัดสินใจอะไรไม่ได้ ขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. ที่เคยบอกเป็นผู้จัดการรัฐบาล ลงมาพูดคุยกับพรรคเล็กด้วยตนเองดีกว่า และไม่ต้องกังวลเรื่องกล้วย ไม่มีความหมาย ที่พูดก็เพียงอยากเรียกร้องให้มาพูดคุยเอง มาพูดคุยกันแบบผู้ใหญ่คุยกัน” นายสุรทินกล่าว 

ด้านายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะประธานคณะกรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีระเบียบวาระการประชุมร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 66 ในวันที่ 31 พ.ค.-2 มิ.ย.ว่า ปีนี้รัฐบาลจัดตั้งงบประมาณไว้ประมาณ 3.18 ล้านล้านบาท ซึ่งจะต้องเสนอเข้าสภาและพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 105 วัน และประกาศใช้ในวันที่ 1 ต.ค. แต่เนื่องจากพรรคฝ่ายค้านมีการแถลงว่าจะคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 66 ในวาระที่ 1 โดยตนในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลและวิปรัฐบาล ได้วิเคราะห์ถึงเรื่องดังกล่าวว่า การที่ฝ่ายค้านจะคว่ำร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ตั้งแต่วาระที่ 1 นั้น ในทางการเมืองก็เป็นสิทธิ์ของฝ่ายค้าน แต่โดยหลักการการพิจารณางบประมาณนั้น ต้องดำเนินการในชั้นรับหลักการ เพราะส่วนใหญ่ฝ่ายค้านในอดีตจะเห็นชอบในชั้นรับหลักการก่อน เมื่อพิจารณาในวาระ 2-3 จึงจะตัดสินใจว่าจะให้ความเห็นชอบหรือไม่

“การที่ฝ่ายค้านออกมาประกาศคว่ำรัฐบาลตั้งแต่วาระที่ 1 นั้น อาจเป็นการเล่นเกมทางการเมืองมากเกินไป ซึ่ง ส.ส.ทุกฝ่ายควรให้ความร่วมมือกันในการขับเคลื่อนร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ และในหลักกฎหมายรัฐธรรมนูญ ถึงแม้ร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 66 จะไม่ผ่านความเห็นชอบและโดนคว่ำไป รัฐบาลก็สามารถที่จะนำ พ.ร.บ.งบประมาณฯ ในปีที่ผ่านมา นำมาใช้ได้อย่างต่อเนื่องต่อไป ดังนั้นตนอยากขอให้ ส.ส.ช่วยกันรับเอกสารรายจ่ายประจำปี เพื่อศึกษาและหาข้อบกพร่องในการใช้จ่ายที่ไม่โปร่งใส”นายชินวรณ์กล่าว

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) โพสต์ข้อความจากรายการ “คุยกับลุง” EP 30 ตอนหนึ่งระบุว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ต้องหายใจลึกๆ เข้าไว้นะ ท่านนายกฯ อีกไม่กี่เดือน ผลงานที่อุตส่าห์อดทนมา ถูกด่า ถูกดิสเครดิตเป็นรายวัน ด้อยค่าทุกวัน  ทุกอย่างจะดีขึ้น คนก็จะได้เห็นว่าสิ่งที่รัฐบาลได้ทำมามันบังเกิดผลขึ้นมาแล้วประคับประคองอยู่ให้ครบเทอมนะครับ ไม่กี่เดือนเท่านั้นเอง ทำมาดีๆ แล้วอย่าให้เกิดการสะดุด

ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้ถามสดเรื่องปัญหาโครงการท่อส่งน้ำในภาคตะวันออก (อีอีซี) ถามนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง ซึ่งนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง มาชี้แจงแทน

ทั้งนี้ นายยุทธพงศ์ถามเหตุใดกรมธนารักษ์ไม่ใช้วิธีการประมูลทั่วไป แต่กลับใช้วิธีการคัดเลือก และเลือกบริษัทขนาดเล็กให้ดำเนินการโครงการ ซึ่งนายสันติชี้แจงว่า ทางกรมได้จ้างให้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ศึกษา เห็นควรจะยกเว้นวิธีเปิดประมูลทั่วไป และให้ใช้วิธีการคัดเลือกแทน โดยทั้งคู่ใช้เวลาตอบโต้กันไปมาพักใหญ่ ก่อนการประชุมจะดำเนินต่อไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง