‘ครป.-กรีนพีซ’ ร่วมวงต่อต้าน กม.คุมเอ็นจีโอ

กลุ่มต้านกฎหมายเอ็นจีโอจี้รัฐบาลลุงตู่ ห้ามนำร่างกฎหมายควบคุมเข้า ครม. 30 พ.ค.นี้ พร้อมบี้ตำรวจหยุดคุกคาม “ครป.-กรีนพีซ” ออกแถลงการณ์ค้าน กม.คุม ซัดเป็นเผด็จการ ปิดความคิดสร้างสรรค์

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม บริเวณหน้าสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กลุ่มขบวนต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชนยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจคุกคามกลุ่มผู้ชุมนุม พร้อมเรียกร้องให้หยุดการคุกคามและแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยมี พ.ต.อ.สมยศ อุดมรักษาทรัพย์ ผกก.สน.นางเลิ้ง พร้อมตำรวจ สน.นางเลิ้ง รับหนังสือร้องเรียน

นายสมบูรณ์ คำแหง ตัวแทนขบวนต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชน กล่าวว่า ตลอดเวลาชุมนุม 7 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และ สน.นางเลิ้ง มาขอเจรจากับตัวแทนอยู่ตลอดเวลา เป็นการเจรจาด้วยดีและมีข้อตกลงมาโดยตลอด โดยตัวแทนได้ยืนยันเหตุผล ข้อเรียกร้องอย่างชัดเจน คือ การเรียกร้องให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติยกเลิกมติ ครม.ที่เห็นชอบในหลักการต่อร่างพระราชบัญญัติการดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหากำไร พ.ศ. …. ที่ละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์โดยทันที และยุติการเสนอกฎหมายควบคุมเสรีภาพการรวมกลุ่มของประชาชนทุกฉบับ และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประสานงานกับนายกรัฐมนตรีหรือ ครม.ในกรณีการติดตามให้มีประเด็นวาระเรื่องเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติการดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหากำไร พ.ศ. …. เข้าสู่การประชุมของ ครม.ในวันที่ 30 พ.ค.นี้

“ศาลแพ่งมีคำสั่งแล้วว่าผู้เข้าร่วมชุมนุมทำกิจกรรมคัดค้านและเรียกร้องให้ ครม.ถอนร่างกฎหมายดังกล่าวออกจากการพิจารณา เนื่องจากร่างกฎหมายดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็น ซึ่งถือเป็นสิทธิของประชาชนที่จะแสดงความคิดเห็นหรือแสดงออก ชุมนุม หรือจัดกิจกรรมต่างๆ ได้ตามรัฐธรรมนูญ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ข้อตกลงรับรองว่าจะไม่มีการสลายการชุมนุม หรือถ่ายภาพเจาะจงบุคคลที่มาร่วมชุมนุม ทำให้ประชาชนที่มาร่วมชุมนุมรู้สึกไม่ปลอดภัย และถูกเจ้าหน้าที่ละเมิดสวัสดิภาพ ความเป็นส่วนตัวและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ถูกคุกคามและเป็นการถูกเจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงในอีกรูปแบบหนึ่ง เพราะประชาชนไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเจ้าหน้าที่ถ่ายรูปไปทำไม และจะใช้ในการฟ้องร้องคดีเพื่อกลั่นแกล้งคุกคามประชาชนหรือไม่” นายสมบูรณ์กล่าว

พ.ต.อ.สมยศกล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจรับหนังสือร้องเรียนแล้วจะทำการเสนอไปยัง พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. เพื่อจะนำเรื่องร้องเรียนไปยัง พล.ต.อ.สุวัฒน์ต่อไป ส่วนกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ถ่ายภาพของการชุมนุมเพื่อให้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงก็จะได้มีภาพหรือคลิปเก็บไว้เป็นพยานหลักฐานว่าใครทำ ซึ่งอาจเห็นหน้าคนก่อเหตุบ้าง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าจะไม่เอารูปหรือคลิปไปทำอะไรที่ไม่ดี ถ้ากลุ่มผู้ชุมนุมไม่ทำผิดกฎหมาย

วันเดียวกัน คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า ขอเรียกร้องให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ ครม.ยุติและยกเลิกร่าง พ.ร.บ.การดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหากำไร พ.ศ. …. และกฎหมายควบคุมเสรีภาพการรวมกลุ่มของประชาชนทุกฉบับในทันที โดยทำข้อตกลงอย่างเป็นทางการกับประชาชน และขอเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) และทั่วประเทศ ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ยุติการใช้กฎหมายพิเศษดังกล่าวควบคุมและตั้งข้อหาทางการเมืองแก่ประชาชน เนื่องจากกฎหมายดังกล่าวไม่ได้แก้ไขปัญหาโควิดระบาด และเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่กำลังดำเนินการให้โรคโควิด-19 กลายเป็นโรคประจำถิ่นในเดือนมิถุนายน 2565 นี้

 “ขอสนับสนุนการชุมนุมของประชาชนเพื่อต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชน ขอให้ทุกเครือข่ายภาคประชาชนและพี่น้องทุกสาขาอาชีพร่วมกันสามัคคีประชาชน เรียกร้องให้รัฐบาลยุติการผลักดันกฎหมายควบคุมเสรีภาพการรวมกลุ่มของประชาชนทุกฉบับโดยทันที” แถลงการณ์ ครป.ระบุ

ขณะที่กรีนพีซ ประเทศไทย ออกแถลงการณ์เช่นกันว่า ในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยสามัญ ครั้งที่ 70 เมื่อวันที่ 25 ก.ย.2558 ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ ประเทศไทยและประเทศสมาชิกสหประชาชาติรวม 193 ประเทศ ร่วมลงนามรับรองวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นกรอบการพัฒนาของโลกเพื่อร่วมกันบรรลุการพัฒนาทางสังคม เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังภายในปี 2575 ในขณะที่เหลือเวลาอีกเพียง 9 ปีในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนดังกล่าว รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์และคณะกลับทำในสิ่งที่ตรงข้าม คือผลักดันร่าง พ.ร.บ.ดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหากำไร พ.ศ. …. ที่มีความหมายคลุมเครือ มีเนื้อหาที่นำไปสู่การละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และการทำลายสิทธิเสรีภาพในการรวมกลุ่มของประชาชนตามที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้

 “ปัจจุบันประเทศไทยมีกลไกทางกฎหมายเพื่อกำกับดูแลการดำเนินกิจกรรมของกลุ่มเครือข่ายภาคประชาชน องค์กรภาคประชาสังคมและองค์กรไม่แสวงหากำไรต่างๆ อย่างเข้มงวดอย่างยิ่งอยู่แล้ว การผลักดันร่างกฎหมายที่ลิดรอนสิทธิของประชาชนทุกคน โดยการควบคุมด้วยความคลุมเครือดังกล่าวนี้สะท้อนถึงการใช้อำนาจและกลไกรัฐอย่างเผด็จการ เพื่อปิดปาก สร้างบรรยากาศแห่งความหวาดกลัว กดขี่ เลือกปฏิบัติ และปิดกั้นพลังแห่งความสร้างสรรค์” กรีนพีซระบุ และว่า ขอประกาศร่วมขบวนต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชน ที่ยืนยันต่อต้านร่างกฎหมายทุกฉบับที่มีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุม กำกับ และทำลายสิทธิเสรีภาพในการรวมกลุ่มของประชาชนตามที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง