ทุบโต๊ะอยู่ครบเทอม ‘ป้อม’ลั่นกลางครม.งบ-ซักฟอกผ่านฉลุย/สั่งห้ามขาดประชุม

“ประยุทธ์” กำชับรัฐมนตรีและ ส.ส.รัฐบาลร่วมประชุมถกงบประมาณปี 2566 วงเงิน 3.18 ล้านล้านบาท “บิ๊กป้อม” ลั่นกลางวงประชุม ครม.บอกผ่านฉลุยแน่ ให้มั่นใจทั้งเรื่องนี้และศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทุบโต๊ะอยู่จนครบอายุ “บิ๊กตู่” รับขอให้สมพรปาก “วิษณุ” เตือนระวังช่วงเย็นวันพุธฝ่ายค้านเล่นเกมนับองค์ประชุม เพราะนายกฯ ติดภารกิจ “ภท.-ปชป.-ชทพ.” ประสานเสียงหนุนแน่ “ธรรมนัส” ยันยึดผลประโยชน์โหวตผ่าน ส่วนฝ่ายค้านย้ำคำเดิมโหวตคว่ำไม่ใช่งดออกเสียง แต่ขอเป็น กมธ.เหมือนเดิม

วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 25 ปีที่ 4 ครั้งที่ 4 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ จะมีระเบียบวาระพิจารณาเรื่องด่วนร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ  พ.ศ.2566 วงเงิน 3,185,000,000,000 บาท ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอ ทำให้เมื่อวันจันทร์มีความเคลื่อนไหวเรื่องดังกล่าวอย่างคึกคัก

โดยนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม.​ว่า พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีคำปรารภในการประชุม ครม.ถึงการประชุมสภาเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี  2566 โดยฝากถึงรัฐมนตรีทุกคนขอให้อยู่ร่วมรับฟังการอภิปรายที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 31 พ.ค.-2 มิ.ย. เพราะมีความสำคัญต่อการใช้จ่ายภาครัฐและการส่งเสริมการลงทุน  พร้อมกำชับขอให้ทุกคนช่วยกันชี้แจงข้อสงสัยต่างๆ ตอบคำถามด้วยหลักการข้อเท็จจริง ขอให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร  (ส.ส.) ถกเถียงกันอย่างมีคุณภาพ

 “นายกฯ ยังได้ขอบคุณพรรคร่วมรัฐบาลที่ช่วยกันทำงานเพื่อประเทศและเพื่อประชาชนมาโดยตลอด โดยขอยืนยันว่าจะปฏิบัติหน้าที่อย่างทุ่มเทเต็มความสามารถในขณะที่ยังดำรงตำแหน่ง ซึ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ  ยังกล่าวเสริมว่ารัฐบาลยังมีความมั่นคง และจะสามารถผ่านพ้นทั้งการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี  2566 และการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้น ซึ่งรัฐบาลชุดนี้จะทำหน้าที่จนครบวาระแน่นอน” นายธนกรกล่าว

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ในการประชุม ครม.ครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์แจ้งต่อที่ประชุมถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ขอให้มีนายกฯ และรองนายกฯ นั่งบนบัลลังก์ตลอดเพื่อฟังการอภิปรายงบประมาณ จึงขอให้รองนายกฯ ไปแบ่งเวลาและจัดเวรกันดูว่าจะอย่างไร และยืนยันให้ตอบฝ่ายค้านตามข้อเท็จจริง มีข้อมูลในการตอบ ต้องคำนึงถึงเรื่องกระจายอำนาจ แต่ถึงอย่างไรการตั้งงบประมาณสูงไปก็ถูกด่าเหมือนเดิม แต่ขอฝากทุกคนให้ช่วยกันตอบ ไม่เช่นนั้นงบประมาณจะมีปัญหา

ขณะที่นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ในฐานะคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล  (วิปรัฐบาล) ได้ชี้แจงรายละเอียดให้ที่ประชุมทราบถึงเวลาการอภิปราย ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ระบุให้ทุกคนบริหารเวลาให้ดี ให้ทุกคนได้มีโอกาสชี้แจง ทำให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุขกล่าวเสริมว่า การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณครั้งนี้อาจเป็นโอกาสครั้งสุดท้ายของรัฐบาลนี้ เพราะปีหน้าอาจไม่ได้ทำ ฝ่ายค้านจะทำทุกอย่างเพื่อให้เกิดผลกระทบต่อรัฐบาล ดังนั้นเราไม่ใช่ทำแค่ให้ผ่าน แต่ควรทำให้เห็นว่ารัฐบาลมีเสียงเข้มแข็งเพียงพอ  เพื่อให้มีความเชื่อมั่นจะได้ง่ายต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

นายกฯ กล่าวเสริมว่า “ตรงนี้เห็นด้วย เพราะเราไม่ได้ทำเพื่อผมคนเดียว ผมอย่างไรก็ได้ พร้อมทำพร้อมไม่ทำ แต่เราทำเพื่อทุกคนในรัฐบาล ทำเพื่อประเทศ ขอให้อยู่กันในห้องประชุมให้ครบด้วย”

ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ลุกขึ้นชี้แจงว่า  การอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณมีเวลา 3 วัน โดยวันพุธที่ 1 มิ.ย. เวลาประมาณ 17.00 น. ขอให้ทุกพรรคกำชับ ส.ส.ให้อยู่ในสภาอย่าขาด เพราะนายกฯ มีภารกิจต้อนรับ นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ดังนั้นช่วงเวลาดังกล่าวอาจเกิดอุบัติเหตุโดยฝ่ายค้านอาจชิงนับองค์ประชุมขึ้นได้ ถึงตรงนี้  พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวขึ้นว่าขอความร่วมมือด้วยนะ ทำให้ พล.อ.ประวิตรกล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นใจว่า “ขอให้มั่นใจว่าเราต้องอยู่ มั่นใจครับว่างบต้องผ่าน ครม.ต้องอยู่ต่อไป ผมมั่นใจว่าเราเป็น ครม.ต่อไป จนถึงอภิปรายไม่ไว้วางใจ และจะผ่านไปได้ และเป้าหมายคือทำงานหลักให้ประเทศจนครบอายุรัฐบาล”

บิ๊กตู่ขอให้สมพรปาก

เมื่อ พล.อ.ประวิตรกล่าวจบ ทั้งห้องประชุมต่างปรบมือเสียงดังลั่น และ พล.อ.ประยุทธ์จึงได้กล่าวว่า “สมพรปากก็แล้วกัน”

ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ได้อ่านเอกสารของพรรคก้าวไกลที่ชื่อ “งบประมาณ ฉบับก้าวไกล” โดยหนึ่งในข้อวิจารณ์ที่หยิบยกขึ้นมาอ่านคือของ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล โดยนายกฯ กำชับว่า เมื่อรู้โจทย์อย่างนี้แล้วว่าโจทย์คืออะไรก็ให้ไปทำการบ้านแล้วกัน

ทั้งนี้ ก่อนการประชุม ครม. พล.อ.ประวิตรตอบคำถามสื่อมวลชนสั้นๆ อย่างหนักแน่นถึงร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ว่าได้คุยกับพรรคเล็กและพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) แล้วหรือยังว่าจะลงมติให้ผ่านหรือไม่ว่า  "ผ่าน" แต่เมื่อถามเคลียร์ใจกับ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หรือยัง พล.อ.ประวิตรไม่ตอบคำถามดังกล่าว และขึ้นรถออกไปประชุม ครม.ทันที

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวเรื่องนี้ว่า ที่ประชุม ครม.มั่นใจว่าร่าง พ.ร.บ.งบประมาณจะผ่าน โดย พล.อ.ประวิตรได้พูดในที่ประชุม โดยให้ความมั่นใจว่าร่าง พ.ร.บ.งบประมาณผ่านแน่นอน ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ได้สั่งให้ทุกกระทรวงเตรียมชี้แจง เรื่องการนำงบประมาณไปใช้ประโยชน์กับประชาชนอย่างไร  โดยเฉพาะการตอบคำถามฝ่ายค้าน และขอให้ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลช่วยอภิปรายสนับสนุนการทำงานของรัฐบาล และให้การสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.งบประมาณด้วย

 “นายกฯ ย้ำว่า ขอให้ช่วยกันชี้แจงและอยู่กันเป็นองค์ประชุมในสภา ช่วยกันลงมติให้ผ่านไปให้ได้ ทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ และให้รัฐมนตรีอธิบายให้ประชาชนเข้าใจถึงรายละเอียดของงบที่จะนำไปใช้ ให้ประชาชนเชื่อมั่นในรัฐบาล  ซึ่งในภาพรวมมั่นใจว่าร่าง พ.ร.บ.งบประมาณทำมาอย่างดี ที่จะแก้ปัญหาบ้านเมืองในภาวะวิกฤตให้เกิดประโยชน์ เชื่อว่าน่าจะผ่านความเห็นชอบ” นายชัยวุฒิกล่าว

เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านมั่นใจว่าจะคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณได้ รัฐบาลเตรียมรับมืออย่างไร นายชัยวุฒิกล่าวว่า  เป็นสิทธิ์ของฝ่ายค้านที่จะมีความเห็นทางการเมืองต่างจากรัฐบาล ก็ให้ลองทำดูไม่เป็นไร แต่เรามั่นใจว่าเราสามารถรวมเสียงได้ และยืนยันว่างบปีนี้ทำมาอย่างดี โดยรับฟังความเห็นจากทุกคนที่เกี่ยวข้องที่มุ่งหวังจะทำประโยชน์เพื่อประเทศ

นายอนุทินกล่าวถึงการคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณว่า  เป็นกระบวนการประชาธิปไตย แต่เสียงของพรรคภูมิใจไทย  65 เสียงไม่มีการคว่ำ เพราะการจัดทำงบประมาณไม่ใช่ที่เรื่องรัฐบาลหรือ ครม.จัดทำ แต่ทุกอย่างเริ่มจากความต้องการของประชาชน ผ่านการกลั่นกรองจากข้าราชการประจำ  ส่วน ครม.มีหน้าที่พิจารณาและส่งต่อไปยังสภา

 “ถ้าฝ่ายค้านเห็นว่ารัฐมนตรีคนไหนปฏิบัติหน้าที่ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่เหมาะสมหรือมีการทุจริต ควรไปใช้วาระในการอภิปรายไม่ไว้วางใจอภิปรายที่ตัวรัฐมนตรีโดยตรง แต่เรื่องงบประมาณ ถ้าร่าง พ.ร.บ.งบประมาณมีปัญหา จะมีผลต่อการนำงบประมาณมาใช้” นายอนุทินกล่าว

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เท่าที่ตรวจสอบเสียงสนับสนุนรัฐบาลยังมีอยู่ ส่วนที่มีติงกันว่าการจัดทำงบประมาณปี 2566 ครั้งนี้ทำให้ไม่สามารถกู้เพิ่มได้อีกนั้น คิดว่าการจัดทำงบประมาณไม่ว่ารัฐบาลไหน ก็ต้องจัดตามสถานการณ์และสภาพเศรษฐกิจ และแต่ละช่วงสถานการณ์ของประเทศมีความแตกต่างกัน เชื่อว่ารัฐบาลพยายามทำอย่างดีที่สุดในการจัดทำงบประมาณ ทุกคนอยากเข้าไปแก้ปัญหาได้มากกว่านี้ แต่ภาวะข้อจำกัดทางเศรษฐกิจทำให้ทำได้ตามข้อจำกัดที่มีอยู่

ศท.พร้อมหนุนงบประมาณ

 “เป็นหน้าที่แต่ละฝ่าย และฝ่ายค้านมีหน้าที่ตรวจสอบถือว่าปกติ รัฐบาลก็ชี้แจง เชื่อว่านายกฯ และรัฐมนตรีทุกคนพร้อมชี้แจง” นายจุรินทร์กล่าวตอบข้อถามเรื่องการคว่ำงบประมาณของฝ่ายค้าน

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวเช่นกันว่า เป็นสิทธิ์ของฝ่ายค้านที่เมื่อพิจารณาแล้วจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย  แต่ในฐานะทำงานอยู่ในรัฐบาลขณะนี้ เห็นว่ายังมีหลายอย่างที่เราอยากทำ แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 การเก็บภาษีพลาดเป้าเพราะสถานการณ์เศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวยนั้น ก็เข้าใจถึงข้อจำกัดในหลายๆ อย่าง ดังนั้นพรรค ชทพ.สนับสนุนการทำงานของรัฐบาลอย่างเต็มที่

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรค ศท. กล่าวว่ายังยืนยันแนวความคิดเดิม ว่างบส่วนใดทำให้เกิดประโยชน์กับประชาชนและเป็นประโยชน์กับบ้านเมือง เรายินดีสนับสนุน แต่ถ้างบส่วนใดเมื่อนำมาพิจารณาในชั้นของคณะกรรมาธิการแล้ว ไม่เกิดประโยชน์กับประชาชนและบ้านเมือง เราจำเป็นต้องมานั่งคุยกัน

เมื่อถามว่า การมองไปถึงชั้นตั้ง กมธ.แล้ว แสดงว่าพรรคเศรษฐกิจไทยจะให้ความเห็นชอบในชั้นวาระรับหลักการใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ในวันที่ 31 พ.ค. เวลา  09.00 น.พรรคจะประชุมกัน แต่ในการอภิปรายนั้นจะไม่เป็นผู้อภิปราย โดยจะให้สมาชิกพรรคเป็นผู้อภิปราย ส่วนการเข้าไปทำหน้าที่ใน กมธ.นั้น ขอพิจารณาดูก่อนว่าจะไปทำหน้าที่เองหรือไม่

นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทรักธรรม และสมาชิกกลุ่ม16 เผยว่า ร.อ.ธรรมนัสได้หารือกลับกลุ่ม 16 เมื่อช่วงเช้า และบอกว่าไปขวางการจัดสรรงบประมาณไม่ได้ เพราะเป็นผลประโยชน์ของประชาชน  แต่หากมีประเด็นอะไรที่ไม่ชอบมาพากล ระหว่างการพิจารณาก่อนลงมติก็จะมีการส่งสัญญาณกันอีกครั้งหนึ่ง แต่ก็คาดว่าน่าจะผ่านวาระรับหลักการได้ ส่วนเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจก็หารือกันว่า หากไม่สามารถพุ่งเป้าการอภิปรายไปที่นายกฯ ก็ขอเน้นที่รัฐมนตรีเป็นรายบุคคล 

 “ขอยืนยันถึงความสัมพันธ์ระหว่างพรรคเศรษฐกิจไทยและกลุ่มพรรคเล็กกลุ่ม 16 หากรวมกันแล้วมีมากกว่า 40  ส.ส.ในมือของ ร.อ.ธรรมนัส เพราะมี ส.ส.ใน พปชร.วันนี้และพรรคร่วมรัฐบาลอีก 3-4 คน เตรียมเปิดเผยรายชื่อร่วมมือทางการเมืองหลังจากนี้” นายพีระวิทย์กล่าว

มีรายงานว่า ในช่วงค่ำ พล.อ.ประวิตรนัดพบกลุ่ม 16  เพื่อหารือที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯ ด้วย

ส่วน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) และผู้นำฝ่ายค้านในสภา ยืนยันว่า สิ่งที่พบเจอในการจัดงบประมาณปีนี้ค่อนข้างสุ่มเสี่ยงมาก โดยเฉพาะปีนี้เป็นปีที่เกิดวิกฤตทั้งโควิด สงคราม เศรษฐกิจ และความขัดแย้งต่างๆ แต่วิธีการจัดงบประมาณไม่ตอบสนองการแก้ปัญหาให้ประเทศ และสิ่งที่เราเจอเสมือนเป็นทางตัน สุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น พ.ร.บ.ว่าด้วยวินัยการเงินการคลัง และ พ.ร.บ.หนี้สาธารณะ

นพ.ชลน่านกล่าวต่อว่า ตัวเลขงบประมาณที่ตั้งไว้เหมือนตัวเลขที่อุปโลกน์ เช่นการจัดเก็บรายได้ที่ตั้งไว้  2.49 ล้านล้านบาท ถามว่าความสามารถที่เก็บได้ทำไมต้องเพิ่มมาอีก 0.9  ล้านล้านบาท เพราะ 2.4 ล้านล้านบาทยังเป็นไปไม่ได้แล้ว ซึ่งฝ่ายค้านกำลังจะไปดูว่ามีผลต่อการวางกรอบของเงินกู้หรือไม่ เพราะถ้าตั้งรายได้ไม่ถึง การจะกู้ชดเชยงบประมาณขาดดุลตัวเลขก็จะต่ำ เพดานกู้จะแคบ ตรงนี้เราจะเห็นว่าเหมือนเป็นทางตัน แต่ที่สำคัญนำไปใช้ไม่ได้ก่อประโยชน์ ผิดที่ผิดทาง ผิดวัตถุประสงค์ สุ่มเสี่ยงส่อไปในทางเอื้อประโยชน์และแสวงหาประโยชน์ทางการเมืองเนื่องจากใกล้ช่วงเลือกตั้ง จึงเห็นว่าการจัดทำงบฯ นี้มีลักษณะกระจุกตัวมากกว่า

ย้ำโหวตคว่ำ พ.ร.บ.งบประมาณ

 “พรรคฝ่ายค้านยังไม่มีมติว่าจะโหวตอย่างไร แต่ทุกฝ่ายหารือร่วมกันแล้ว และแต่ละพรรคเห็นตรงกันว่าไม่สามารถรับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฉบับนี้ได้ การไม่รับคือต้องโหวตลงมติไม่รับ เพราะการงดออกเสียงเป็นวิธีการลงคะแนนในภาวะงบประมาณปกติ ประเทศปกติ ซึ่งการงดออกเสียงคือการแสดงมารยาท แต่งบปี 66 เราดูแล้ว แม้จะปรับแก้ก็แก้อะไรไม่ได้ ดังนั้นจึงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปงดออกเสียง  จึงต้องบอกกันตรงๆ ว่าเราโหวตไม่รับร่าง พ.ร.บ.งบฉบับนี้” นพ.ชลน่านกล่าว

เมื่อถามว่า เมื่อมีมติไม่รับร่างแล้วแต่เสียงข้างมากโหวตผ่าน ฝ่ายค้านจะเข้าร่วมเป็น กมธ.หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ฝ่ายค้านไม่เคยตั้งเงื่อนไขว่าจะไม่ส่งคนเข้าไปเป็น กมธ. เพราะกระบวนการพิจารณาในสภาเมื่อเสียงข้างมากเห็นชอบ เราก็ต้องยอมรับ เราไม่ดื้อดึงถึงขั้นไม่ร่วมพิจารณาเลย เพราะจะยิ่งทำให้เกิดผลเสีย ซึ่งตามกลไกฝ่ายค้านก็ต้องส่งคนเข้าไปเป็น กมธ. แม้จะเห็นว่าปรับแก้อะไรไม่ได้  แต่ฝ่ายค้านก็ยังมีสิทธิ์เข้าไปตรวจสอบและทักท้วงในสิ่งที่เห็นว่าไม่ชอบมาพากลได้ แล้วนำข้อมูลมาเปิดเผยในการพิจารณาวาระสอง ถ้าไม่ชอบมาพากลก็มีโอกาสพิจารณาว่าจะให้ความเห็นชอบหรือไม่

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรค พท.กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านได้หารือกันผ่านระบบซูมเมื่อวันที่ 30 พ.ค.ถึงความพร้อมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ โดยมีมติจะไม่รับหลักการ ขณะนี้ฝ่ายค้านมี ส.ส.อยู่ 206 เสียง ส่วนฝ่ายรัฐบาลมีอยู่กว่า  230 เสียง แต่ไม่เกิน 240 เสียง แม้จะมีเสียงต่างกันกว่า  30 เสียง แต่สถานการณ์เช่นนี้รัฐบาลจะประมาทไม่ได้ ต้องจับตากลุ่มสวิงโหวตคือ พรรคเศรษฐกิจไทยและพรรคเล็กต่างๆ จะลงมติไปทางใด ส่วนงูเห่าในฝ่ายค้านนั้นมั่นใจว่าไม่มีแน่นอน

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า งบมีจุดอ่อน ซึ่งฝ่ายค้านจะชี้ให้เห็นว่างบส่วนไหนที่ได้จัดไปแล้ว แล้วไม่ควรทำในสถานการณ์แบบนี้ และงบประจำที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี  เมื่อสุดท้ายจัดทำงบไปเรื่อยๆ การจัดทำงบก็จะมีแต่งบประจำ ทั้งที่จริงๆ ควรควบคุมงบประจำให้ลดลง นอกจากนี้ยังมีเรื่องไม่ชอบมาพากลและส่อทุจริต

เมื่อถามถึงกรณีที่เคยระบุว่า ร่างงบประมาณฉบับนี้เหมือนขอทานจัดงานเลี้ยงวันเกิด เพราะมีการจัดงบลงพื้นที่ให้พรรคร่วมรัฐบาล นายสุทินกล่าวว่า เรามีข้อมูลนี้อย่างชัดเจน ที่มีการแบ่งงบให้พรรคร่วมไปลงพื้นที่ของตนเอง  ส่วนคำว่าขอทานจัดงานเลี้ยงวันเกิดนั้น มีคนไปบิดเบือนว่า เราไปว่าประชาชนเป็นขอทาน แต่เราหมายความว่า ครม.ที่เป็นผู้จัดงบเป็นขอทาน ปัจจุบันงบประมาณที่เราใช้เป็นส่วนของเงินกู้ ซึ่งควรถูกนำมาใช้เพื่อสร้างรายได้และให้หลุดหนี้  แต่กลับนำเงินส่วนนี้มาแจกให้พรรคร่วมรัฐบาล ทำให้เรามองว่าต่อให้กู้เงินมาก็จะไม่มีการหลุดพ้นจากการเป็นขอทาน เพราะว่ามาแจกกันใช้มาแจกกันกิน

  นายประเสริฐยังกล่าวถึงการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีว่า ได้ข้อสรุปแล้วจะยื่นในวันที่ 15 มิ.ย.นี้ ก่อนที่จะพิจารณาร่างกฎหมายลูก หลังจากยื่นแล้วจะมีผลทำให้รัฐบาลไม่สามารถชิงยุบสภาหลังจากนี้ได้

เมื่อเวลา 15.00 น. ที่พรรคพลังประชารัฐ ถ.รัชดาภิเษก  มีการประชุม ส.ส.ประจำสัปดาห์เตรียมพร้อมการประชุมสภา  เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 66 โดยมีการเชิญตัวแทนสำนักงบประมาณมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ โดย ส.ส.ที่จะทำหน้าที่อภิปรายต่างสอบถามข้อมูล ในที่ประชุมได้กำชับให้ ส.ส.ช่วยกันดูแลการประชุมตลอดทั้ง 3 วัน รวมทั้งต้องคอยช่วยกันชี้แจงให้ประชาชนรับทราบข้อเท็จจริง ที่บางครั้งพรรคฝ่ายค้านก็จะบิดเบือน แต่ก็ยังมั่นใจว่าการลงมติคงผ่านไปได้ ไม่มีปัญหา  มั่นใจในเสียงรัฐบาล แต่เน้นย้ำว่าทุกคนต้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง โดยเฉพาะช่วงสำคัญอย่างการโหวต 

ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรค พปชร.ไม่ได้เข้าร่วมประชุมกับ ส.ส. แต่ได้เดินทางเข้าพรรคในเวลา 15.10 น. ซึ่งหลังจาก ส.ส.ประชุมเสร็จก็ต่างทยอยกันขึ้นไปพบ พล.อ.ประวิตรที่ห้องทำงานชั้น 5  ต่อทันที โดยมีรายงานว่า พล.อ.ประวิตรได้ขอให้ช่วยอภิปรายในส่วนของกระทรวงที่ พปชร.ดูแล โดยได้มีการประสานขอข้อมูลจากกระทรวงต่างๆ มาให้ ส.ส.ไว้ใช้เป็นข้อมูลในการอภิปรายแล้ว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เศรษฐา' อวดคนอีสาน 10 เดือน ผลงานเพียบ ไตรมาส 4 ได้เงินหมื่นแน่

นายกฯ พบชาวหนองพอก อวดผลงาน 10 เดือน ราคาพืชผลการเกษตรดี ยันเร่งแก้ปัญหาน้ำประปา ปราบหนี้นอกระบบให้หมด ย้ำ 'ดิจิทัล วอลเล็ต' ไตรมาส 4 ได้แน่

นายกฯ ปลื้ม! คนร้อยเอ็ดเชียร์นั่ง 2 สมัย 'พระอาจารย์ต้อม' มอบของขลัง

'เศรษฐา' ลุยต่อร้อยเอ็ด กราบนมัสการ 'พระอาจารย์ต้อม' ให้พรประสบความสำเร็จ มอบพระเครื่อง 'เสาร์ 5 ร้ายกลับดี' รับปากเร่งแก้ปัญหาน้ำท่วม - ยาเสพติด ขณะชาวบ้านเชียร์นั่งนายกฯ 2 สมัย