ชัชชาติฟิตเพิ่ม300นโยบาย!

กกต.มอบประกาศรับรองให้ผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่กับ-45 ส.ก.แล้ว  "ชัชชาติ" เข้าศาลาว่าการ กทม.วันแรก ประกาศลั่นต่อหน้าข้าราชการ จะไม่ทนต่อการทุจริตคอร์รัปชัน หากมีใครแอบอ้างขอให้รู้ไว้ว่านั่นไม่ใช่ผม แนะอ่านนโยบาย 214 ข้อ อาจเพิ่มเป็น 300 ข้อ  เปิดรองผู้ว่าฯ-ที่ปรึกษา นักวิชาการพรึ่บ!  "นิพัทธ์ ทองเล็ก" ติดโผมาด้วย

เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2565 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำกรุงเทพมหานคร ได้จัดพิธีมอบประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่องผลการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานครและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ส.ถ./ผ.ถ.6/1) โดยนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. เป็นตัวแทนมอบ

เลขาธิการ กกต.กล่าวตอนหนึ่งว่า ขอแสดงความยินดีกับท่านที่ได้รับเลือกเป็นผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. ที่ได้รับเสียงมหาชน โดยขอให้ได้ทำหน้าที่สำเร็จตามที่เสนอไว้ และตามที่ประชาชนคาดหวังไว้ และขอขอบคุณท่านและผู้สมัครทุกคน ที่ได้ร่วมกับสำนักงาน กกต.และ กทม. ในการทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตั้งแต่การเริ่มสมัคร การหาเสียง จนถึงการประกาศผล ซึ่งการหาเสียงในการเลือกตั้งครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นไปด้วยความสร้างสรรค์ มีรูปแบบที่แตกต่างออกไปจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านๆ มา ทำให้การเลือกตั้งเป็นที่สนใจ และจนถึงวันนี้ก็ถือว่าการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

 “ขอพูดในนามสำนักงาน กกต. ว่า กกต.ตั้งขึ้นมาให้ทำหน้าที่ตามกฎหมาย ไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อทำตามความต้องการของผู้ใด สิ่งที่เราทำทุกอย่าง ต้องเป็นเรื่องที่ถูกต้องตามกฎหมาย เราทราบความรู้สึก หรือกระแสของสังคมทุกการเลือกตั้ง แต่ความรู้สึกหรือกระแสที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำให้เราต้องละเลยความถูกต้องตามกฎหมาย เพราะความถูกต้องไม่ว่าเมื่อวาน วันนี้ หรืออนาคต ก็ยังจะเป็นความถูกต้อง ไม่ว่าผู้แพ้หรือผู้ชนะก็ต้องการความถูกต้อง เราทำงานโดยไม่ได้หวั่นไหวหรือน้อยใจกับการทำงานแต่อย่างใด ก็อยากให้ทราบว่า กกต.ทำงานทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย” เลขาธิการ กกต.กล่าว

จากนั้นจึงเข้าสู่พิธีการมอบประกาศรับรอง โดยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. ขึ้นรับประกาศรับรองเป็นลำดับแรก  จากนั้นจึงตามด้วยบรรดา ส.ก. ที่ได้รับการประกาศรับรองจาก กกต. 45 รายทยอยเข้าร่วมงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งกลุ่ม ส.ก.จากพรรคเพื่อไทย 18 ราย นำโดย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ผู้อำนวยการเลือกตั้ง ส.ก. พรรคเพื่อไทย และนายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาคกรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย รวมทั้ง ส.ก.จากพรรคอื่นๆ ทยอยเข้ารับประกาศ ขณะที่กลุ่ม ส.ก.พรรคก้าวไกล นำโดยนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เดินทางมารับประกาศจาก กกต.ทีหลังจาก ส.ก.กลุ่มอื่น ขณะที่นายชัชชาติได้ลุกขึ้นทักทายและแสดงความยินดีกับ ส.ก.ทุกคนหลังรับใบประกาศจาก กกต.

โดยนายชัชชาติกล่าวว่า ไม่ตื่นเต้น และพร้อมที่เปิดตัวทีมงานบริหาร กทม.ในช่วงบ่ายวันนี้ หลังจากเข้ามอบนโยบายให้กับข้าราชการกรุงเทพมหานครที่ศาลาว่าการ กทม.เสาชิงช้า ส่วนกรณีงบประมาณของ กทม.เหลือเพียง 90 ล้านบาท ให้รองผู้ว่าฯ กทม.ไปดู แต่ไม่เป็นไรเพราะนโยบายตัวเองไม่ได้ใช้เงินเยอะ

นอกจากนั้น เลขาธิการ กกต.ยังให้สัมภาษณ์ภายหลังถึงกรณีผู้สมัคร ส.ก.ที่ยังไม่ได้รับการรับรองอีก 5 รายนั้น เนื่องจากมีคำร้องเรียนเกี่ยวกับการเลือกตั้งอยู่ระหว่างการตรวจสอบของสำนักงาน ซึ่งสำนักงานจะเร่งรัดดำเนินการโดยเร็ว เพราะประชาชนรอ ส.ก.ของเขาอยู่ เหมือนกับการประกาศผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.และ ส.ก. 45 เขต ซึ่งเป็นครั้งแรกที่สำนักงานได้มีการเร่งรัดเรื่องการพิจารณาเรื่องร้องเรียน ซึ่งเป็นการพัฒนาการทำงานของสำนักงานตามนโยบายของ กกต. ที่อยากให้เรื่องการประกาศผล การเร่งรัดสำนวน ทำให้เร็วขึ้น ซึ่งเราก็สามารถประกาศผลได้ภายใน 8-9 วัน ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับการถูกกระแสกดดันจากสังคม

ส่วนกรณีป้ายหาเสียงที่สามารถทำไปทำเป็นกระเป๋าได้นั้น กกต.จะมีการศึกษาเพื่อวางกรอบในการเลือกตั้งในอนาคตหรือไม่ เลขาธิการ กกต.กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องใหม่ เรื่องแบบนี้เคยมีแนวมาแล้ว ถ้าจำได้สมัยก่อนมีซีดี ถามว่าเป็นการให้ทรัพย์สินหรือไม่ ซึ่งในข้อเท็จจริงสิ่งเหล่านี้เป็นสื่อที่จะใช้ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์กับประชาชน เหมือนเสื้อสกรีนตัวหนังสือก็ถือว่าเป็นสื่อชนิดหนึ่งในการโฆษณาหาเสียงของผู้สมัคร กรณีป้ายหาเสียงของนายชัชชาติจึงไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหม่

"สังคมอาจจะลืมไปว่าหลักการมันเหมือนกัน แต่รูปแบบมันต่างกัน อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่ากฎหมายที่มีอยู่ก็ชัดเพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นที่จะต้องมีการไปแก้ไขกฎหมาย ขอแค่คนใช้กฎหมายตรงไปตรงมา"

เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่ขณะนี้มีการลงชื่อถอดถอน กกต.นั้น นายแสวงตอบว่า ทราบว่ามีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นในสังคม แต่ก็ไม่เฉพาะ กกต. ก่อนหน้านี้ก็มีเกิดขึ้นกับหน่วยงานอื่นๆ เป็นอารมณ์ของสังคม ส่วนที่มีคนบอกว่าหลังจากการเลือกตั้งเสร็จ กกต.น่าจะประกาสผลได้เลย แต่ในข้อเท็จจริงมีคนอีกครึ่งหนึ่งที่มอง กกต.อยู่ว่าถ้าไม่ทำตามกฎหมาย เราก็อาจจะถูกข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ อย่างกรณีผู้ว่าฯ กทม. มาตรา 17 พ.ร.บ.การเลือกตั้งท้องถิ่นระบุว่า จะต้องมีการตรวจสอบเบื้องต้น ซึ่ง 3 วันหลังการเลือกตั้ง กกต.รายงานผลคะแนน จากนั้นผู้ตรวจการเลือกตั้งรายงานผลภายใน 4-5 วัน สำนักงาน กกต.ก็ต้องมาประมวลผลก่อนบรรจุวาระการประชุม กกต. ซึ่งตนก็คิดว่าเร็วสุดๆ แล้ว

ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) (เสาชิงช้า) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าพนักงาน กทม.และข้าราชการ พนักงานได้มีการเตรียมความพร้อมสถานที่บริเวณสนามหญ้าหน้าพระพุทธนวราชบพิตร ได้มีการเตรียมเวทีไม้ประดับด้วยดอกดาวเรือง ดอกสร้อยไก่ ดอกแพงพวย และดอกแวววิเชียร บริเวณรอบเวที เพื่อให้นายชัชชาติได้ขึ้นเพื่อทำการแถลงข่าวต่อหน้าสื่อมวลชน

ต่อมาเมื่อเวลา 12.41 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัชชาติได้เดินทางมาถึงศาลาว่าการ กทม. ด้วยชุดสูทสีดำและผูกเนกไทสีเขียวเข้ม ซึ่งมีประชาชนส่วนหนึ่งมารอมอบดอกไม้ให้กำลังใจนายชัชชาติ โดยมีชายคนหนึ่งพาเป็ดชื่อ มีสุข และนกชื่อ การะเกด มาด้วย ทั้งนี้ ประชาชนที่เข้าต้อนรับได้กล่าวว่า "รอมานาน ผู้ว่าฯ ในดวงใจ"

จากนายชัชชาติได้เดินขึ้นบนบันไดหน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานครเป็นก้าวแรกด้วยเท้าข้างขวา โดยมีนายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร และคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับที่ห้องพักรับรอง ห้องอมรพิมาน

ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ภายในศาลาว่าการ กทม. นายชัชชาติได้มอบประกาศ กกต.เรื่องผลการเลือกต้ังผู้ว่าฯ กทม.แก่นายขจิต จากนั้นปลัด กทม.ลงนามในหนังสือมอบหมายงานให้ผู้ว่าฯ กทม. ทั้งนี้ ปลัด กทม.ในนามข้าราชการและบุคลากรกรุงเทพมหานครกล่าวต้อนรับ และมอบกระเช้าดอกไม้แสดงความยินดี

โดยนายขจิตกล่าวว่า ขอขอบคุณนายชัชชาติที่เสียสละเวลาตัวเองเป็นเวลา 2 ปีกว่า เพื่อทำการบ้านใน กทม.ด้วยความตั้งใจแน่วแน่ ว่าจะทำให้คน กทม.มีความสุข และโชคดีที่ประสบความสำเร็จ โดยหวังว่าจะสามารถนำพวกเราไปข้างหน้าได้ เพื่อความเป็นอยู่ของประชาชนและขอให้นายชัชชาติเชื่อมั่นว่าพวกเราจะทำงานตามที่ได้รับมอบหมายได้อย่างดี

ด้านนายชัชชาติกล่าวว่า เราเดินมานานกว่า 2 ปี และวันนี้ก็ได้เดินต่อ ตอนนี้ดีใจที่มีเพื่อนร่วมเดินทางกับเราคือข้าราชการ ลูกจ้าง กทม.ทั้งหมด ซึ่งตนไม่ใช่นาย ขอให้เรียกว่าอาจารย์ ตนอยากจะให้เราเดินไปด้วยกัน มีอะไรคุยกันได้ และตนก็เป็นคนใหม่ของ กทม. หลักการคือถ้าตนทำอะไรไม่เหมาะก็ขอให้พูดกัน ยกตัวอย่างเช่นนโยบาย 214 ข้อ อยากให้ทุกคนอ่าน เพราะเราอยากได้ความเห็นของท่าน หากท่านมองว่านโยบายของเราทั้งหมดดีหรือไม่ดีอย่างไร ไม่ได้บอกว่าให้ท่านปฏิบัติตาม แต่อยากได้ความเห็นว่าควรจะปรับปรุงอย่างไร ตนคิดว่าหลายๆท่านรู้มากกว่า และเราอาจจะเพิ่มเป็น 300 ข้อ หากพวกเรามีพลัง

 “เรื่องความโปร่งใส สุจริต ผมจะไม่ทนต่อการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งตอนนี้มีคนมาแอบอ้างชื่อผมแล้ว หากมีคนแอบอ้างว่าเป็นทีมงานอาจารย์ชัชชาติให้ทำอะไร ขอให้รู้ไว้ว่านั่นไม่ใช่ผม ทีมงานของเราก็จะเป็นคนของเรา หากมีคนแอบอ้างขอให้แจ้งทีมงานทันที เพราะเรามาด้วยความโปร่งใส สุจริตจริงๆ เพราะอยากทำให้กทม.มีชื่อเสียงว่าเป็นหน่วยงานที่สุจริต และผมเชื่อว่าทุกคนอยากทำงานให้โปร่งใส และความยุติธรรมในการแต่งตั้งที่เป็นธรรม คนเก่งและคนที่ทำงานมีโอกาสจะเติบโตในหน้าที่ได้ ผมสัญญาว่าจะทำให้เป็นอย่างนั้น” นายชัชชาติกล่าว

ต่อจากนั้น เวลา 13.51 น. นายชัชชาติและทีมงานเดินทางมายังเวทีที่แถลงบริเวณหน้าลานพระบรมรูปพระพุทธนวราชบพิตรและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจํา ภายในศาลาว่าการ กทม.  โดยนายชัชชาติกล่าวว่า ขอบพระคุณประชาชนและสื่อมวลชน ก่อนอื่นคือต้องทำภารกิจแรกก่อนคือการประกาศทีมงาน โดยมีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนที่ 17 สำหรับทีมงานมีดังนี้ 1.นายจักกพันธุ์ ผิวงาม อดีตรองปลัดฯ และรองผู้ว่าฯ 2.นายวิศณุ ทรัพย์สมพล ดูแลเรื่องผังเมืองและการโยธาฯ และโครงสร้างต่างๆ 3.น.ส.ทวิดา กมลเวชช ดูแลเรื่องภัยพิบัติ กลยุทธ์ต่างๆ และ 4.นายศานนท์ หวังสร้างบุญ ดูแลเรื่องชุมชน NGO และสิ่งแวดล้อม

ส่วนที่ปรึกษามี 9 คน มีดังนี้ 1.นายต่อศักดิ์ โชติมงคล ประธานที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม. 2.นางเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ 3. พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก 4.พล.อ.ท.นพ.อนุตตร จิตตินันทน์ 5.พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี 6.นางวิลาวัลย์ ธรรมชาติ 7.นายอรรถเศรษฐ์ เพชรมีศรี 8.นายภาณุมาศ สุขอัมพร และ 9.นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ส่วนเลขานุการผู้ว่าฯ กทม. คือนายภิมุข สิมะโรจน์ และผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าฯ กทม. ประกอบด้วย 1.นายเอกวรัญญู อัมระปาล 2.นางสาวศนิ จิวจินดา 3.นายจิรัฏฐ์ ม้าไว 4.นายสิทธิชัย อรัณยกานนท์

ที่รัฐสภา นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายชัชชาติจะต้องมาเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เพื่อหารือถึงการทำงานหรือไม่ว่า กทม. คือท้องถิ่น ต้องทำงานร่วมมือกับส่วนกลาง โดยอันดับแรกคือกระทรวงมหาดไทย ซึ่งโดยอำนาจตามกฎหมาย รมว.มหาดไทยยังสามารถปลดผู้ว่าฯ กทม.ได้ด้วย ที่มีความสำคัญรองลงมาคือ นายกรัฐมนตรี ที่ถือว่าไกลหน่อย แต่ก็จำเป็น เพราะบางอย่างจะต้องร่วมมือกันประสานกันได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่กลัวที่สุดคือผู้ว่าฯ กทม.กับ รมว.มหาดไทยที่มาจากคนละพรรคกัน และถ้าต่างคนต่างเล่นการเมืองจะทำอย่างไร และเหตุนี้ทำให้การเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดเกิดได้ยาก ดังนั้นการจะไปเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดจึงลำบาก เพราะจะเหมือนเป็นเบี้ยหัวแตกหลายพรรค

เมื่อถามว่า ผู้ว่าฯ กทม.อยู่ในโครงสร้างของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แบบนี้ มีโอกาสที่ผู้ว่าฯ กทม.จะเข้าร่วมประชุม ศบค.กับนายกฯ ใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า สื่อไม่ต้องกลัวเรื่องที่จะมาเจอกันหรอก เขาเจอกันได้บ่อยอยู่แล้ว ส่วนที่คนอยากรู้ว่าผู้ว่าฯ กทม.กับนายกฯ จะสามารถทำงานร่วมกันได้หรือไม่นั้น ตนเคยทำงานร่วมกับนายชัชชาติ ซึ่งนายชัชชาติไม่ใช่คนที่มีบุคลิกแข็งกร้าว จึงไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร และต่อให้บุคลิกแข็งกร้าว งานคืองาน ไม่คิดว่าเป็นปัญหา. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชงไทยบี้เมียนมา งดขายน้ำมันให้ เจรจาสันติภาพ

"โรม" เสนอให้ไทยงดขายน้ำมันให้ "เมียนมา" ปูดใช้ไทยฟอกเงินเครือข่ายซื้ออาวุธที่ใช้ปฏิบัติการ เตือนถูกดึงไปเอี่ยวร่วมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์