ดีเดย์เปิดประเทศ บิ๊กตู่โอดไปนอก/สธ.เชื่อเอาอยู่

"บิ๊กตู่" เสียดายไม่ได้อยู่ไทยวันเปิดประเทศ วอนทุกฝ่ายปฏิบัติตามมาตรการเคร่งครัด อย่าสนุกเกินเหตุ สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบให้ดีที่สุด "อนุทิน" ยันระบบสาธารณสุขพร้อมรองรับ ปลัด สธ.ย้ำมาตรการบุคคลป้องกันสูงสุดตลอดเวลา ทุกกิจการยึดมาตรการ COVID Free Setting ลดเสี่ยงล็อกดาวน์ซ้ำ

เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวก่อนเดินทางไปร่วมการประชุมระดับผู้นำในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC: COP) สมัยที่ 26 ณ เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 31 ต.ค.-3 พ.ย.64 ว่า เสียดายวันที่ 1 พ.ย. ซึ่งเป็นวันเปิดประเทศตนไม่ได้อยู่ แต่ได้สั่งการกำชับกับทุกหน่วยงานที่รับผิดชอบให้ดีที่สุด สิ่งสำคัญที่สุดคือความร่วมมือของคนไทยทุกคนต้องมีส่วนร่วม เพราะมีการเคลื่อนไหวไปมา มีการประพฤติปฏิบัติตนตามวิถี​

"จึงต้องเตือนกันว่าเวลานี้ไม่ใช่วาระปกติ จะสนุกสนานกันเลยเถิดไม่ได้​ ฉะนั้น​ ต้องมีกติกากันอยู่แล้ว รัฐบาลไม่ได้อยากไปห้ามอะไรต่างๆ เพียงแต่ถ้าไม่ทำจะเดือดร้อนกันอีก จะไปห้ามกันอย่างไรเศรษฐกิจจะเดินไม่ได้​ การท่องเที่ยวก็จะไม่ฟื้นตัวอะไรทำนองนี้ เชื่อว่าทุกคนทราบกันดีอยู่แล้ว ขอให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย​ ผมก็จะติดตามดู ขอให้ประเทศไทยเจริญรุ่งเรืองต่อไปด้วยน้ำมือของคนไทยทุกคน เราต้องช่วยกัน​นะจ๊ะ" พล.อ.ประยุทธ์ระบุ

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันที่ 1 พ.ย. นายกฯ ได้มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ดูความเรียบร้อยของสถานที่​ เส้นทางการเดินทางของนักท่องเที่ยวในภาพรวม รมว.คมนาคมตรวจสอบความพร้อมมาตรการรองรับและติดตามการเข้า-ออกของผู้โดยสารที่เดินทางมายังสนามบินสุวรรณภูมิ ตลอดจนสนามบินอื่นๆ ที่เปิดให้มีการบินเข้าจากต่างประเทศเข้ามา นอกจากนี้​ ยังให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขสอดส่องดูแลทุกภาคส่วนให้ปฏิบัติตามมาตรการผ่อนคลายกิจการ กิจกรรมของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.เท่านั้น ซึ่งขณะนี้ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดยังคงไม่อนุญาตให้มีการดื่ม/จำหน่ายแอลกอฮอล์ในร้านอาหารทั่วไป ในส่วนกรุงเทพมหานคร อนุญาตให้มีการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้เฉพาะร้านที่ผ่านมาตรฐาน SHA ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และไม่เกินเวลา 21.00 น. เท่านั้น

ทั้งนี้ นายกฯ ยังขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด 17 จังหวัดนำร่องท่องเที่ยว จัดทีมงานช่วยตรวจตราสถานประกอบการ ร้านค้า ตลาด ชุมชน ต้องปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting เพราะแม้จะมีการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวจากประเทศความเสี่ยงต่ำแบบไม่กักตัวหรือจำกัดพื้นที่เพิ่มเติม 63 ประเทศและพื้นที่ แต่รัฐบาลยังให้ความสำคัญสูงสุดในการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศ เช่นเดียวกับประชาชนยังยึดหลักอนามัยส่วนบุคคลและดูแลตัวเองแบบครอบจักรวาล Universal Prevention นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้ รมว.ศึกษาธิการติดตามความเรียบร้อยสำหรับโรงเรียนที่มีความพร้อมในการเปิดการเรียนการสอนปกติในวันที่ 1 พ.ย.ด้วย โดยย้ำให้ยกระดับการป้องกันไวรัสโควิด ให้โรงเรียนเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็กนักเรียน ครูและบุคลากรภายในโรงเรียนด้วย

"ท่านนายกฯ ย้ำว่า แม้ว่าทิศทางของการรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศจะอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ขอให้ทุกฝ่ายอย่าประมาท พร้อมทั้งขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามมาตรการของรัฐอย่างเคร่งครัด และขอบคุณประชาชน ภาคเอกชน สถานประกอบการทุกๆ ฝ่ายที่ร่วมใจกันเดินหน้าประเทศไทย ซึ่งในขณะนี้กำลังดำเนินไปได้ด้วยดี" โฆษกประจำสำนักนายกฯ ระบุ

สธ.พร้อมรับเปิดประเทศ

ที่โรงแรมบัดดี้ โอเรียนทอล ริเวอร์ไซด์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงความพร้อมด้านสาธารณสุขรองรับการเปิดประเทศว่า ทุกอย่างต้องทำไปด้วยความจำเป็นของสถานการณ์ ทางกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เองมีความมั่นใจว่า การจัดสรรวัคซีนให้แก่พี่น้องประชาชนนั้น สามารถไปถึงระดับที่มีความปลอดภัยได้ระดับหนึ่งแล้ว และเรื่องยาหรือเวชภัณฑ์ที่จะเอาไว้รองรับสถานการณ์ ได้มีการเตรียมเพื่อรองรับไว้ และเป็นไปตามหลักวิชาการต่างๆ เราพยายามที่จะทำให้ทุกอย่างกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติให้เร็วที่สุด ต้องขอความร่วมมือจากประชาชนว่าการที่จะเปิดประเทศ ต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ชีวิต การสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา การล้างมือ และอย่าไปอยู่ใกล้ชิดกับบุคคล กลุ่มคนจำนวนมาก ก็น่าจะดำเนินไปได้ด้วยดี

ผู้สื่อข่าวถามว่า ศบค.ได้คาดการณ์สถานการณ์เอาไว้ 3 ระดับ หากเกิดวิกฤตของการระบาดขึ้น ทาง สธ.มีมาตรการ หรือแผนรองรับไว้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า มั่นใจว่าวัคซีนกำลังทำงานของมันอยู่ สำหรับคนที่ได้รับวัคซีนแล้วส่วนมากจะไม่ได้มีอาการหนักหรือเสียชีวิต ซึ่งนั่นอาจจะเป็นสถานการณ์ที่แย่แล้ว แต่หากพี่น้องประชาชนพยายามป้องกัน โอกาสติดเชื้อก็จะลดลงไปอีก

"อย่างปีที่แล้ว เราไม่ได้มีวัคซีน เรายังผ่านมาได้ ปีนี้วัคซีนก็ไปถึงเกือบ 100% แล้วในกรุงเทพฯ สำหรับกลุ่มเป้าหมาย เพราะฉะนั้นถ้าเราดำเนินชีวิตไม่ผิดหลักสาธารณสุข โอกาสที่จะเกิดเหตุที่ไม่คาดคิดก็จะน้อยลง ความพร้อมของรัฐบาลน่ะ มีแน่ แต่ว่าถ้าเราได้รับความร่วมมือที่ดีจากพี่น้องประชาชนในการดำเนินการประกอบกิจกรรมต่างๆ ตามปกติด้วยความระมัดระวัง มันก็ไปได้" นายอนุทิน กล่าว

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า วันที่ 1 พ.ย.นี้ จะเป็นวันแรกที่เปิดประเทศรับผู้เดินทางและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่ง ศบค.ได้ปรับระดับสถานการณ์ย่อยแต่ละพื้นที่เพื่อรองรับการเปิดประเทศ โดยในส่วนพื้นที่สีเหลืองและสีฟ้า กิจการกิจกรรมหลายๆ อย่างสามารถกลับมาเปิดให้บริการได้เกือบปกติ แต่พื้นที่สีเหลืองยังไม่ได้เปิดให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร ส่วนพื้นที่สีฟ้าแม้จะดื่มในร้านอาหารได้ แต่ได้มอบให้คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครพิจารณาออกแนวทางการให้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารอย่างปลอดภัย เพื่อลดการแพร่เชื้อโควิด-19 อย่างไรก็ตาม หากงดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้จะดีที่สุด เนื่องจากเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เกิดการถอดหน้ากาก และทำให้ขาดสติ การป้องกันตนเองลดลง ขณะที่สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ อยู่ระหว่างให้ผู้ประกอบการเตรียมความพร้อม และจัดทำมาตรการเพื่อรองรับการผ่อนคลายกิจการในระยะถัดไป

"ขอย้ำว่าแม้จะมีการผ่อนคลายกิจการกิจกรรมต่างๆ มากขึ้นในแต่ละพื้นที่ เพื่อเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว แต่สิ่งสำคัญ คือ ยังต้องปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ อย่างเข้มข้น โดยเฉพาะมาตรการส่วนบุคคล ป้องกันตนเองสูงสุดตลอดเวลา เว้นระยะห่าง ล้างมือ สวมหน้ากาก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดการติดเชื้อและแพร่เชื้อ ส่วนสถานประกอบการต่างๆ ยังต้องเข้มมาตรการ COVID Free Setting เพื่อให้เป็นสถานที่ปลอดโควิด ขอให้ทุกคนร่วมมือกัน เพื่อลดการแพร่ระบาด เปิดประเทศอย่างปลอดภัย เพราะหากหย่อนยานมาตรการ เมื่อมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอาจต้องปิดสถานที่หรือกิจการ ซึ่งจะทำให้เกิดผลกระทบและไม่เป็นผลดีต่อทุกฝ่าย ส่วนมาตรการทางด้านสาธารณสุขยังมีความพร้อม ทั้งการสอบสวนควบคุมโรค การตรวจหาเชื้อ และการรักษาพยาบาล" ปลัด สธ.ระบุ

ตร.-ทหารเข้มมาตรการ

พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของ ตร. เชิญผู้ประกอบการและผู้เกี่ยวข้องมาหารือทำความเข้าใจถึงข้อกำหนดตามประกาศคำสั่งต่างๆ ให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไว้รัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อย่างเคร่งครัด และให้ผู้บังคับบัญชาคอยสอดส่องการปฏิบัติของตำรวจให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย

ส่วนกรณีพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีข้อกำหนดเปิดให้บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ถึงเวลา 21.00 น. แต่สามารถรับประทานอาหารต่อได้นั้น ให้ตำรวจไปประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือผู้ประกอบการในพื้นที่ ให้ปฏิบัติตามมาตรการของที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร โดยให้ยึดหลักรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ควบคู่กันไป แต่สำหรับการมั่วสุมปาร์ตี้ หรือกิจกรรมใดๆ ที่ฝ่าฝืนข้อกำหนดฯ เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดเชื้อโรค ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดทุกกรณี ทั้งนี้หากประชาชนพบเบาะแสการมั่วสุมอันเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สามารถแจ้งไปยังสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลข 191 หรือ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง

พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม​ เปิดเผยว่า ยืนยันว่าฝ่ายความมั่นคงพร้อมสนับสนุนรัฐบาลรับการเปิดประเทศใน 1 พ.ย.นี้ โดย พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ได้ย้ำนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ กับทุกเหล่าทัพ ให้กองกำลังป้องกันชายแดนทั้งทางบกและทางน้ำ ยังคงตรึงกำลังเข้มเฝ้าระวังชายแดน สกัดกั้นการลักลอบเข้าเมือง บริเวณพื้นที่ชายแดนรอบประเทศต่อเนื่องกันไป โดยเฉพาะชายแดนเมียนมาและกัมพูชา โดยให้ประสานทำงานร่วมกับฝ่ายปกครอง ตำรวจและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งการสกัดกั้นปราบปรามขบวนการลักลอบนำพาคนต่างด้าวเข้าเมืองในพื้นที่ชายแดนและพื้นที่ชั้นใน พร้อมทั้งให้การสนับสนุน แนะนำและช่วยกำกับการปฏิบัติของประชาชนให้เป็นไปตามมาตรการควบคุมโรคที่กำหนด ทั้งนี้ ขอให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ ไม่ประมาท และเตรียมให้การสนับสนุนมาตรการจำกัดควบคุมโรคเร่งด่วนเป็นพื้นที่ หากมีปัญหาการแพร่ระบาดเป็นกลุ่ม นอกจากนี้ต้องขอความร่วมมือผู้ประกอบการ หยุดจ้างแรงงานผิดกฎหมายเข้าทำงาน เนื่องจากไม่ผ่านการคัดกรองควบคุมโรค ซึ่งจะสร้างปัญหาการกลับมาแพร่ระบาดและความเสียหายต่อส่วนรวมระยะยาว

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โพสต์เฟซบุ๊กยืนยันความพร้อมของกรุงเทพฯ ในการเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวว่า มี 3 ปัจจัยเสริมความพร้อมเปิดกรุงเทพฯ คือ 1.ยอดผู้ติดเชื้อรายวันลดลงต่อเนื่อง เหลือต่ำกว่าหลักพันเป็นวันที่ 9 ติดต่อกัน และต่ำสุดในรอบ 4 เดือนที่ผ่านมา 2.อัตราการครองเตียงอยู่ที่ร้อยละ 29.46 จากจำนวนเตียงทั้งหมดของโรงพยาบาลในสังกัด กทม.ที่สามารถรองรับการรักษาผู้ป่วยได้ ซึ่งต่ำกว่าในรอบ 130 วัน และ 3.จำนวนประชากรที่ได้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 เกินร้อยละ 70 จนเกือบจะร้อยละ 80 แล้ว

ที่ จ.ภูเก็ต นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ภูเก็ตมีความพร้อมทุกด้าน เนื่องจากมีประสบการณ์เปิดรับนักท่องเที่ยวแซนด์บ็อกซ์แล้ว โดยเฉพาะด้านสาธารณสุข มีเตียงรองรับ เข้าถึงยา และได้ให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ร่วมกับชุมชนกว่า 100 แห่ง ดูแลพื้นที่ร่วมกันป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 ขณะที่นายสุนทร ศักดาสาวิตร รองผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ ท่าอากาศยานภูเก็ต เผยว่า วันที่ 1 พ.ย. จะมีสายการบินจากต่างประเทศขาเข้า 8 เที่ยวบิน มีผู้โดยสาร จำนวน 1,166 คน และในวันที่ 5-6 พ.ย.จะเข้ามาจำนวน 15 สายการบิน ส่วนเที่ยวบินภายในประเทศมี 6 สายการบิน 67 เที่ยวบิน ยืนยันสามารถระบายคนได้ วันละไม่ต่ำกว่า 3,000 คน

วันเดียวกัน นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจเรื่อง "หวั่นพวกเห็นแก่ตัว กอบโกย พาปิดประเทศ" พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 97.6 กังวลพวกฉวยโอกาสเห็นแก่ได้ ช่วงเปิดประเทศ ทำผิดกฎหมายซ้ำเติมวิกฤตเดือดร้อนประชาชน นอกจากนี้ ยังพบความกังวลของประชาชนระดับมากถึงมากที่สุด เรียงลำดับดังนี้ ได้แก่ พวกไม่เคร่งครัด ไม่ควบคุมโรค เกิดโควิดรอบใหม่ ร้อยละ 45.8, สถานบันเทิงทำผิดกฎหมาย แหล่งแพร่ระบาดโควิดรอบใหม่ ร้อยละ 43.1, เจ้าหน้าที่รัฐปล่อยปละละเลย เป็นต้นเหตุวิกฤตโควิด วิกฤตเศรษฐกิจรอบใหม่ ร้อยละ 41.0 เป็นต้น.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อุ๊งอิ๊ง' ดูไว้! นักการเมืองต้องรักษาสัจจะเหมือน 'อภิสิทธิ์' เคยหาเสียงไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์

เมื่อน.ส.แพทองธาร ชินวัตร กล่าวในงานอีเวนต์ ”10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10“ ว่า พรรคเพื่อไทยตัดสินใจถูกตั้งรัฐบาลผสม