ไฟเขียวญัตติซักฟอก ‘ชวน’แจ้งบิ๊กตู่-10รมต./ฝ่ายค้านไม่ให้ราคาองครักษ์ป้องลุง

"บิ๊กตู่" ปัดตอบ "ภท." ถกปรับเก้าอี้ ครม. "ฝ่ายค้าน" คึก! ลงชื่อยืนยันความถูกต้องญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี เล็งคุยวิปรัฐบาลอีกรอบขอซักฟอก 5 วัน "พท." เตรียม 15 ขุนพลชำแหละ เย้ยองครักษ์ปราบมารแค่เด็กหน้าละอ่อน "สุทิน" ไม่ห่วงมีงูเห่าเรื่องปกติ "นพ.สุกิจ" เผย "ประธานสภาฯ" จะบรรจุวาระเป็นเรื่องด่วน พร้อมแจ้งนายกฯ-รมต.ถูกอภิปรายทราบ "เด็กปชป." ตามบี้ "สุพัฒนพงษ์" บอกมีข้อมูลน็อกกลางสภาหากฝ่ายค้านต้องการ

เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ปฏิเสธตอบคำถามกรณีพรรคภูมิใจไทยได้พูดถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่ หลังมีคดีของนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) บุกรุกป่าเขาใหญ่ จ.ปราจีนบุรี โดยเดินขึ้นไปยังห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาลทันทีด้วยสีหน้าเรียบเฉย

ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรณีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งหนังสือขอให้ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านที่ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 ไว้ ให้มาลงนามยืนยันความถูกต้องของญัตติที่เสนอมาอีกครั้งว่า เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ทาง ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ลงนามยืนยันความถูกต้องญัตติดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์คนเดียวเท่านั้นที่ติดต่อไม่ได้ จึงยังไม่ได้มาลงชื่อ แต่คาดว่าวันที่ 22 มิ.ย. น่าจะดำเนินการได้เรียบร้อย และส่งญัตติกลับคืนให้ประธานสภาฯ เพื่อดำเนินการต่อไป

"การยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะที่ผ่านมามีการไปตีความกันผิด และมีการไปเทียบกับญัตติในอดีตของนายอุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส.นนทบุรี พรรค พท. ที่มีการยื่นญัตติเข้ามาแล้ว โดยประธานสภาฯ บรรจุเข้าระเบียบวาระแล้ว และเข้าสู่ระบบขั้นตอนการอภิปราย แต่ก็มีการนำมาแก้ไข แต่ของเราถือว่ายังไม่ได้เข้าสู่ระบบ มันต่างกันตรงที่ว่าประธานสภาฯ รับไปแล้ว และอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ ดังนั้น ระหว่างนี้ก็สามารถแก้ไขได้ตลอด ทั้งเนื้อหาสาระและการเพิ่มคนที่จะอภิปราย ซึ่งอยู่ที่ว่าสมาชิกแต่ละพรรคเห็นพ้องต้องกันก็สามารถแก้ไขได้ กรณีนี้จึงเทียบไม่ได้กับญัตติของนายอุดมเดช และไม่มีอะไรที่น่าวิตก" ประธานวิปฝ่ายค้านกล่าว

นายสุทินกล่าวว่า ในส่วนพรรค พท.เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้ประชุมเตรียมความพร้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพื่อตรวจเช็กเนื้อหาการอภิปรายลงรายละเอียดอีกรอบ เพื่อขัดเกลาบางประเด็นให้แหลมคมยิ่งขึ้นภายใต้กรอบญัตติที่ยื่นไว้

"เรื่องการวางตัวบุคคลยังไม่ได้วางไว้อย่างชัดเจน เพราะต้องรอดูเรื่องกรอบและเวลาการอภิปรายก่อน เบื้องต้นวางไว้ประมาณ 10-15 คน โดยเน้นไปที่ตัวนายกฯ เป็นหลัก ส่วนรัฐมนตรีอื่นที่ไม่มีรายชื่อถูกอภิปราย อย่าเพิ่งนิ่งนอนใจ เพราะในการอภิปรายนายกฯ จะมีความเชื่อมโยงไปถึงรัฐมนตรีท่านอื่นๆ ด้วยในฐานะกำกับดูแล เช่น กรณีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน ที่ไม่มีชื่อถูกอภิปราย แต่เราต้องบรรยายถึงความผิดพลาดในการบริหารด้านพลังงาน เพราะนายกฯ ถือว่าไม่กำกับดูแลก่อนให้เกิดความเสียหาย สุดท้ายจะโดนทั้งตัวนายกฯ และรัฐมนตรีท่านนั้นๆ ด้วย" นายสุทินกล่าว

ฝ่ายค้านขอซักฟอก 5 วัน

ถามถึงระยะเวลาในการอภิปราย   ประธานวิปฝ่ายค้านกล่าวว่า ยังตกลงกับวิปรัฐบาลไม่ได้ว่าสรุปแล้วจะให้ใช้ระยะเวลาในการอภิปรายกี่วัน ซึ่งฝ่ายค้านยังยืนยันเช่นเดิมว่าต้องการเวลา 5 วัน แต่นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ยังคงเสียงแข็งว่าจะให้เวลาฝ่ายค้านเพียงแค่ 4 วันเท่านั้น จึงต้องมีการประชุมหารือร่วมกันของวิปสองฝ่ายเพื่อหาข้อสรุปต่อไป

นายสุทินกล่าวว่า ในส่วนผู้อภิปรายของพรรค พท.ก็พอมองเห็นกันอยู่ ซึ่งคงไม่มีการปรับอะไรกันมาก และยืนยันว่าเรามีความพร้อม หากจะอภิปรายในสัปดาห์หน้าก็สามารถทำได้เลย และก็ไม่ได้กังวลที่พรรค พปชร. ​เตรียมตั้งทีมองครักษ์ปราบมาร เพราะเป็นเรื่องธรรมดาของการอภิปรายไม่ไว้วางใจทุกครั้ง จะมีการตั้งองครักษ์พิทักษ์โน่นนี่นั่น ซึ่งครั้งนี้อาจจะเป็นปราบมารก็ต้องว่ากันไป

"เท่าที่ผมดูรายชื่อบุคคลแล้วก็เห็นว่าล้วนเป็นผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ เป็นคนหน้าใหม่ๆ ซึ่งน่าจะเป็นการเรียนรู้มากกว่า และมองว่าองครักษ์ปราบมารยังเป็นหน้าละอ่อนกันอยู่ เมื่อเทียบกับตัวคนอภิปราย ก็น่ารัก ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง" นายสุทินกล่าว

ถามว่า กังวลว่าในการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะมีงูเห่าเพิ่มขึ้นหรือไม่ ประธานวิปฝ่ายค้านกล่าวว่า ไม่แน่ใจจะมีงูเห่าเพิ่มขึ้นหรือไม่ ทราบแต่ว่าจะมีทั้งขาเข้าและขาออก เพราะช่วงปลายสมัยและใกล้จะมีการเลือกตั้งแบบนี้ การโยกย้ายพรรคมักจะเกิดขึ้นทุกครั้ง ขึ้นอยู่กับว่าเขาจะแสดงออกตอนไหน ทั้งนี้ ฝากบอกประชาชนว่าหากคนจะไม่อยู่กับเรา เขาจะแสดงออกในทางตรงกันข้ามก็ไม่ออก ฉะนั้นบางคนก็จะมาหาเรา แต่อยู่ที่มารยาทของแต่ละพรรคว่าถ้าจะย้ายหรือจะรับไปอยู่ด้วย ในสมัยที่สภายังอยู่ที่เดิม ตนคิดว่าแต่ละพรรคจะต้องสงวนมารยาทเพื่อรักษาระบบสภา แต่หากหมดสมัยแล้วใครจะไปหรือจะอยู่ก็เป็นเรื่องปกติ

พอถามว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. บอก พปชร.เป็นรอง พท. นายสุทินกล่าวว่า ที่จริงพรรค พปชร.ก็เป็นรองพรรค พท.มาตลอด ตนไม่ได้ซ้ำเติม เพราะจากการเลือกตั้งที่ผ่านมา พปชร.ก็แพ้ พท. แม้เราจะส่งคนไม่ครบทุกเขต แต่เราก็ชนะ ซึ่งเห็นได้ชัดเจน เมื่อผ่านมาจนถึงวันนี้ หากไปดูผลสำรวจความคิดเห็นทุกสำนัก ก็มีความชัดเจนที่เป็นเช่นนั้น ไม่ใช่ว่า พท.เก่งการเมือง แต่เป็นเพราะผลงานที่ประชาชนเขาเปรียบเทียบระหว่างที่ พท.เป็นรัฐบาลกับวันนี้ที่ พปชร.เป็นรัฐบาล ดังนั้นสิ่งที่ประชาชนสะท้อนออกมาได้สื่อถึงความเป็นจริง 

ซักว่า พท.มีความพร้อมที่จะเลือกตั้งแล้วใช่หรือไม่ นายสุทินกล่าวว่า จะให้เลือกตั้งสัปดาห์หน้าเลยก็ได้ เพราะ พท. มีความพร้อม ทั้งผู้สมัครและนโยบายต่างๆ​ รวมถึงแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี มีแต่เพียงแค่ฝั่งรัฐบาลยังไม่พร้อม รวมถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง และกฎหมายลูก 2 ฉบับที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ที่เรามีความเป็นห่วง

ส่วนนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรค พท. กล่าวว่า รู้สึกเซ็งเป็ดกับนายนิโรธ ที่ได้ออกมาประกาศตั้งทีม ส.ส.รัฐบาลมีชื่อว่า คณะปราบมารเพื่อเป็นองครักษ์พิทักษ์ลุงๆ ทั้งหลายนั้น เข้าใจว่านายนิโรธอาจลืมกินยาเขย่าขวด เลยนึกว่าตนเองเป็นฝ่ายค้านจะต้องไปปราบมารที่มีรัฐมนตรีฉ้อฉลทุจริต ในความเป็นจริงแล้ว นายนิโรธต้องตั้งชื่อทีมใหม่เป็นทีมรับจ๊อบป้องมาร น่าจะถูกต้องมากกว่า เพราะดูแล้วเหมือนจะกลัวกันจนตัวสั่น ถึงขนาดต้องตั้งองครักษ์พิทักษ์รัฐมนตรี แบบปลอบใจเรียกขวัญของตัวเองที่ขวัญหนีดีฝ่อไป

"ขอเรียนไปยังนายนิโรธว่า พอดูรายชื่อขององครักษ์ปกป้องมารแต่ละคน เห็นแล้วหวิวแทน หากลุกขึ้นมาโชว์เท่ประท้วงเอาใจนายเลอะเทอะ ระวังหน่อมแน้มเรียกพี่ และอย่าปล่อยให้เสียของ เพราะฝ่ายค้านจะทำหน้าที่แทนประชาชน  เพราะลับดาบลงอาคมมะอะอุไว้จัดการ พี่ห้อยพี่โหน น้องจุก ป้าแกะ ที่มีพลังกล้วยเป็นพลังงานขับเคลื่อนแล้ว" นายจิรายุกล่าว

ส.ส.พรรค พท.รายนี้ระบุว่า อยากให้นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ไปเตรียมข้อมูลชี้แจงประชาชนที่เขาเชื่อไปแล้วว่ามีทุจริตจะดีกว่า ศึกซักฟอกนี้มีชื่อว่า The Last Supper of Prime Minister อาหารมื้อสุดท้ายของเสนาบดี และจะเป็นครั้งสุดท้าย ที่สังคมและประชาชนคนไทย จะไม่มีโอกาสให้อภัยรัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลที่ส่งเสริมการทุจริตอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้คุยโวมาตลอดว่าจะแก้ไขปัญหาสังคมเศรษฐกิจและการปฏิรูปประเทศ แต่สุดท้ายก็เป็นเพียงแค่คำโกหกพกลมไปวันๆ เพราะฉะนั้นศึกซักฟอกนี้เจอกันแน่นอน

ชวนรับบรรจุวาระเร่งด่วน

ต่อมาเวลา 15.25 น. นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรคได้ส่งหนังสือยืนยันญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล มายังนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เรียบร้อยแล้ว

"ประธานสภาฯ จะอนุมัติให้บรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน และแจ้งไปยังนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย ให้รับทราบญัตติดังกล่าว ว่ามีความพร้อมเมื่อไหร่ จากนั้นก็จะตอบกลับมายังประธานสภาฯ เพื่อที่จะกำหนดวันอภิปรายต่อไป" ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎรกล่าว

ด้านนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะประธานอนุคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน คณะที่ 2 สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีนายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรค พปชร. ออกมากล่าวหาว่าไม่มีมารยาททางการเมือง และตีกินทางการเมือง กรณีที่เสนอให้พรรคร่วมฝ่ายค้านเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ว่าตนและพรรค ปชป.ยึดถือผลประโยชน์ของประชาชนมากกว่ามารยาททางการเมือง วันนี้ประชาชนออกมาเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลลงมาดูแล เพราะ รมว.พลังงานบริหารนโยบายด้านพลังงาน ทำให้ประชาชนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า และทำให้เกิดปัญหาเป็นที่ประจักษ์ การจะมาคำนึงถึงมารยาททางการเมือง จึงไม่ใช่การทำหน้าที่ผู้แทนราษฎรที่ดี จึงอยากฝากถึงนายสายัณห์ว่าในฐานะผู้แทนฯ ต้องยึดประโยชน์ของประชาชนมากกว่าปกป้องรัฐมนตรีที่บริหารล้มเหลว

นายอัครเดชกล่าวว่า ที่ผ่านมามีการเรียกร้องให้ลดค่าการกลั่นน้ำมัน แต่นายสุพัฒนพงษ์บอกว่าไม่สามารถทำได้ แต่ทำไมวันนี้จึงทำได้ แบบนี้ถือเป็นการบริหารงานบกพร่องหรือไม่ ตนไม่ได้ตีกินทางการเมือง เพราะรัฐมนตรีที่ตนเสนอเปลี่ยนก็อยู่พรรค พปชร. ไม่ใช่เสนอเปลี่ยนเอารัฐมนตรีของพรรค ปชป.ออก แต่เห็นว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านยังมีปัญหาเรื่องรายชื่อรัฐมนตรีอยู่ จึงเสนอทางออกให้ เพราะนายสุพัฒนพงษ์มีความผิดพลาดและบริหารล้มเหลว ผิดกับนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ สามารถดูแลกลุ่มแรงงานในช่วงโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี

"ผมมีข้อมูลของนายสุพัฒนพงษ์พร้อม เพราะได้เข้าร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านพลังงานกว่า 10 รอบ และสามารถชี้ให้เห็นถึงความล้มเหลวของนายสุพัฒนพงษ์ได้อย่างชัดเจน และสามารถน็อกกลางสภาได้ ผมมีข้อมูลพร้อมเสนอให้พรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งการที่ผมเรียกร้องให้ฝ่ายค้านทบทวนรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ได้เกิดจากการมโน แต่มีข้อมูลพร้อม หากฝ่ายค้านไม่ทบทวนผมก็เคารพ เพราะเป็นสิทธิของฝ่ายค้าน หากรัฐมนตรีพรรค ปชป.ที่ถูกอภิปรายบริหารงานล้มเหลว และไม่สามารถชี้แจงได้ ผมก็ไม่คิดจะปกป้อง แต่เชื่อว่ารัฐมนตรีของพรรค ปชป.สามารถชี้แจงได้ และมีผลงานชัดเจน" นายอัครเดชกล่าว

ส.ส.พรรค ปชป.รายนี้ระบุว่า ในวันที่ 23 มิ.ย. ที่ประชุมสภาฯ มีการถามกระทู้สด ซึ่งกระทู้ของผมที่เกี่ยวกับด้านพลังงานและบอร์ด ปตท. ที่นายสุพัฒนพงษ์เลื่อนมานานแล้ว ดังนั้นขอให้มาชี้แจง และอย่าลาป่วยอีก แต่เสียดายที่มีเวลาถามกระทู้เพียง 20 นาที ทั้งที่มีข้อมูลจำนวนมาก แต่ฝ่ายค้านมีเวลา 5 วัน ผมจึงอยากเสนอตัวขอเวลาฝ่ายค้านร่วมอภิปรายนายสุพัฒนพงษ์ด้วย.