พณ.ย้ำพลังงานดูค่ากลั่น ‘กทม.’ลดค่าเช่า12ตลาด

“จุรินทร์” ตอกย้ำหน้าที่เรื่องค่าการกลั่นน้ำมันเป็นของกระทรวงพลังงาน พณ.จุ้นขึ้นมาก็ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ “พนิต” แนะหันมาร่วมมือกันอย่าเล่นการเมือง “ชัชชาติ” ช่วยพ่อค้าแม่ค้า 12 ตลาด หั่นค่าเช่า 50% ช่วง ก.ค.-ก.ย. พร้อมลดดอกเบี้ยโรงตึ๊ง กทม.

เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (พณ.) ให้สัมภาษณ์ถึงค่าการกลั่นน้ำมันว่า   พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ลงมาบริหารจัดการแล้ว ซึ่งเรื่องค่าการกลั่น ค่าการตลาด อยู่ในอำนาจหน้าที่ของกระทรวงพลังงาน เพราะมีกฎหมายเฉพาะที่ให้อำนาจอยู่ รวมทั้งมีคำสั่งนายกฯ ที่ระบุชัดเจนด้วยว่าเป็นอำนาจหน้าที่ในส่วนของกระทรวงพลังงาน ไม่ได้แปลว่าจะตัดภาระความรับผิดชอบ แต่การบริหารราชการแผ่นดินทุกอย่างจะสั่งการอะไรได้ ดำเนินการอะไรได้ ต้องเป็นไปตามกฎหมาย ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

นายจุรินทร์ยืนยันว่า ส่วนไหนที่ พณ.มีอำนาจมีหน้าที่ ยินดีดำเนินการ ซึ่งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน พณ.ได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ เช่น ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ และ พ.ร.บ.ชั่งตวงวัด เช่น การขายปลีกน้ำมันต้องติดป้ายแสดงราคา เรื่องหัวจ่าย

เมื่อถามว่า นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ยังไม่เข้าใจในเรื่องนี้ นายจุรินทร์กล่าวว่า ได้ชี้แจงไปแล้ว แต่นายกรณ์จะเข้าใจหรือไม่เข้าใจ ไม่ไปประเมิน แต่ตอนหลังดูเหมือนเปลี่ยนประเด็นไปแล้ว คือเรื่องของการบอกว่าการกำหนดค่าการกลั่นเป็นเรื่องของ พณ. จะไม่พูดแล้ว แต่เบนไปพูดว่าของแพงหรือราคาสินค้าเป็นหน้าที่ พณ.แทน ซึ่งไม่ปฏิเสธถ้าในเรื่องของราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่อยู่ในอำนาจ พณ.ก็ดูแลมาตลอด ยกเว้นค่าการกลั่น ซึ่งไม่ใช่ภารกิจที่ พณ.มีอำนาจ แม้อยากทำก็ไปสั่งเขาไม่ได้ เพราะโรงกลั่นคงไม่ฟัง พณ. เพราะไม่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย และอาจเป็นการทำผิดกฎหมายด้วย

ด้านนายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ โพสต์เฟซบุ๊กว่า กมธ.ได้หารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาพลังงาน โดยได้เชิญผู้แทนจากกระทรวงพลังงานเข้ามาชี้แจงถึงการกำหนดราคาน้ำมัน ซึ่ง กมธ.ต่างมีข้อสงสัยว่าทำไม พณ.ถึงไม่สามารถเข้ามากำหนดราคาน้ำมันโดยตรงได้ ซึ่งพบว่าราคาน้ำมันมี พ.ร.บ.คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ และพ.ร.บ.กองทุนน้ำมัน รวมทั้งคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ดูแล

“หากมองจากส่วนนี้ ก็ทำให้เห็นว่าการจะกำหนดราคาน้ำมันต้องผ่านบอร์ดนี้ก่อน จะให้ พณ.ดำเนินการเองโดยพลการไม่ได้ ผมจึงเข้าใจในมุมของ พณ.  เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญ และไม่อยากให้ใครนำมาเป็นประเด็นทางการเมือง เพราะเรื่องนี้ประชาชนได้รับผลกระทบโดยตรง จึงอยากให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องหันมาร่วมมือกัน และเร่งแก้ไขปัญหาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนก่อน" นายพนิตกล่าว

ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ระบุรัฐบาลแก้วิกฤตพลังงานโดยใช้แต่ราชการ รัฐมนตรีมีไม่ใช้ ให้ฝ่ายความมั่นคงนำทุกเรื่องว่า นายกฯ สั่งเตรียมหามาตรการเพื่อแก้ปัญหาทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นความมั่นคงทางด้านพลังงาน ความมั่นคงด้านอาหาร ความมั่นคงด้านเกษตร ความมั่นคงด้านเศรษฐกิจและสังคม ฯลฯ ในส่วนวิกฤตพลังงานก็ได้ออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนมาโดยตลอด ไม่ทราบว่าตอนนั้นนายณัฐวุฒิกำลังไปร่วมชุมนุมกับม็อบอยู่ที่ไหนหรือไม่ จึงทำให้ไม่ทราบ

"นายณัฐวุฒิอาจมองแค่ในมุมของตัวเอง ไม่อยากให้คิดและทึกทักเอาเอง ประชาชนจะสับสนเปล่าๆ ถ้าไม่รู้จริง หรือยังมีข้อมูลไม่มากพอ ก็ถามก่อนวิจารณ์ได้ รัฐบาลพร้อมชี้แจงทุกประเด็นอยู่แล้ว" นายธนกรระบุ

วันเดียวกัน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงกรณีมาตรการช่วยเหลือประชาชนว่า กทม.จะช่วยเหลือ 2 เรื่อง ได้แก่ การลดค่าเช่าแผงการค้า 50% เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือน ก.ค.-ก.ย.2565 จำนวน 12 ตลาด ประกอบด้วย ตลาดนัดจตุจักร, ตลาดนัดมีนบุรี, ตลาดธนบุรี และตลาดชุมชนอีก 9 แห่ง ได้แก่ ตลาดประชานิเวศน์ 1, ตลาดเทวราช, ตลาดบางกะปิ, ตลาดหนองจอก, ตลาดพระเครื่องวงเวียนเล็ก, ตลาดรัชดาภิเษก, ตลาดสิงหา, ตลาดบางแคภิรมย์ และตลาดราษฎร์บูรณะ

นายชัชชาติกล่าวต่อว่า ส่วนโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจคนกรุง จะลดดอกเบี้ยในสถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร (โรงรับจำนำ กทม.) ดังนี้ เงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 10 สตางค์ต่อเดือน จำกัดวงเงินไม่เกิน 100,000 บาทต่อ 1 ราย ต่อโรงรับจำนำ กทม. 1 แห่ง เงินต้น 5,001-15,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 50 สตางค์ต่อเดือน เงินต้นเกิน 15,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 75 สตางค์ต่อเดือน รวมทั้งจะขยายอายุตั๋วจำนำในโรงรับจำนำ กทม. 21 แห่ง จาก 4 เดือน 30 วัน เป็น 6 เดือน 30 วัน ตั้งแต่ 1 ก.ค.-30 ก.ย.2565

นายชัชชาติยังกล่าวภายหลังหารือกับ บริษัท แกร็บ (ประเทศไทย) จำกัด ถึงการช่วยเหลือแกร็บป้ายขาวที่จะหยุดให้บริการตามประกาศของกรมการขนส่งทางบกว่า กทม.ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องเรื่องระเบียบมาก ต้องเคารพกฎระเบียบของกรมการขนส่งทางบก แต่หากมีผลกระทบเรื่องรายได้ จะต้องหาแนวทางในการฝึกอาชีพ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พ่อนายกฯขู่เช็กบิล! พรรคร่วมโดดประชุมครม.-นักร้อง/ขอพระเจ้าอยู่ต่ออีก17ปี

"เพื่อไทย" คึก! 3 นายกฯ ร่วมทีมขึ้นรถไฟสัมมนาพรรคที่หัวหิน "นายกฯ อิ๊งค์" ขอ  สส.ไม่แบ่งขั้ว-อายุ ยอมรับ 3 เดือนโฟกัสงานรัฐบาล