โหมโรงซักฟอกขู่ฟ้องศาลปชช.

"เพื่อไทย" โหมศึกซักฟอกรายวัน “ชลน่าน” จ้อเปิดแผลฟ้องศาลประชาชน ตีปี๊บส่งต่อข้อมูลโกงขึ้นเขียง  ป.ป.ช. แบะท่าหวั่นใจฤทธิ์พลังกล้วย เตือนชี้ชะตา- แลกอนาคต ส.ส. ขณะที่ "เจี๊ยบ ก้าวไกล" ตะโกนโหวกเหวกดูลำปางโมเดล ด้านกลุ่มราษฎรลุ้นหนักเปิดแคมป์ข้างสภา

เมื่อวันจันทร์ ที่พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า พรรคเพื่อไทยมีคณะทำงานฝ่ายเตรียมการ ขณะนี้เหลือแค่การจัดลำดับตัวผู้อภิปรายและรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย ซักซ้อมการอภิปรายเพื่อความมั่นใจในสัปดาห์นี้

 “สำหรับข้อกล่าวหาเราแบ่งไว้เป็นกลุ่มๆ ตามที่เราเขียนไว้ในญัตติ จะมีข้อมูล ข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายที่พิสูจน์ให้เห็นเหมือนขึ้นศาล แต่เป็นศาลประชาชน คณะทำงานและผู้อภิปรายเตรียมการไว้อย่างดี มั่นใจว่าจะไม่มีคำว่าผิดหวังเพราะเป็นการอภิปรายครั้งสุดท้าย สำหรับระยะเวลาของรัฐบาลชุดนี้ก็ทำให้ประชาชนได้เห็นแล้วว่า สิ่งที่พูดเป็นแค่การตอกย้ำโดยเฉพาะเรื่องความผิดพลาดล้มเหลว” นพ.ชลน่านระบุ

นพ.ชลน่านกล่าวว่า หลังอภิปรายไม่ไว้วางใจจะนำข้อมูลในประเด็นข้อกล่าวหาที่เกี่ยวข้องกับการเอื้อประโยชน์ทุจริต เตรียมการจะส่งศาลอยู่แล้ว ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรม จะส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

เมื่อถามว่า มีโพลของประชาชนออกมาอยากให้อภิปรายเรื่องเศรษฐกิจ จะมีทีเด็ดอะไรหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรื่องนี้จะเป็นหัวใจสำคัญ เป็นเรื่องความผิดพลาดล้มเหลว ปล่อยปละละเลย ละเว้นการปฏิบัติก็จะเข้าข่ายมาตรา 157 ส่วนจำนวนรัฐมนตรีที่จะหลุดนั้นต้องไปหลุดในสภา ลุ้นในสภามันกว่า จะควบคุมเสียงการโหวตในสภา ที่จะไม่ทำให้มีการซื้อขายกล้วยกันได้หรือไม่นั้น คงควบคุมไม่ได้และเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

 “ส่วนจะรุนแรงมากขนาดไหนคงตอบไม่ได้ เพราะเงื่อนไขต่างๆ ค่อนข้างที่จะสมบูรณ์แล้ว หากตนเป็นฝ่ายที่ขอกินกล้วย ก็จะยิ่งขอแพงมากกว่าเดิม มั่นใจว่าการเข้ามาเป็นผู้แทนต้องทำเพื่อประชาชน ถ้ามัวแต่จะไปกินกล้วยคือ จบชีวิตของการเป็นผู้แทนได้เลย ดังนั้น ส.ส.เหล่านี้คิดหนักระหว่างกล้วย 1 หวีกับอนาคตประชาชน และชื่อเสียงต่างๆ ที่จะอยู่ในสังคม” นพ.ชลน่านระบุ

ด้านนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงการตั้งข้อสังเกตกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ส่งสัญญาณใช้สูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ด้วยการหาร 500 เพื่อเอาใจพรรคเล็กให้ช่วยโหวตไว้วางใจว่า ตนเองก็คิดว่าเป็นเช่นนั้น เพราะนายกฯ ต้องดิ้นรนเฮือกสุดท้าย แต่คิดว่า ส.ส.เหล่านั้นมีวิจารณญาณที่จะเรียนรู้จากผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปาง เขต 4 ที่นายวัฒนา สิทธิวัง ผู้สมัครจากพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) แพ้ผู้สมัครหน้าใหม่จากพรรคเสรีรวมไทย ถึงขั้นที่ ร.อ.ธรรมนัส  พรหมเผ่า หัวหน้าพรรค ศท.ยังต้องยอมรับความพ่ายแพ้  และพร้อมเปลี่ยนแปลงไปตามความต้องการของประชาชน

 “ฉะนั้นคิดว่าถือเป็นการตัดสินอย่างเจ็บแสบของประชาชน กลายเป็นลำปางโมเดล ที่ต่อเนื่องจากการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) จึงอยากบอก ส.ส.ในสภาว่าถ้าไม่อยากสอบตกก็ให้ดูลำปางโมเดล  เพราะตอนนี้เขากระโดดออกมาหมดแล้ว” นางอมรรัตน์ระบุ

ด้านนายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงทีมปราบมารและทีมเจ้ายุทธ์ว่า ไม่มีอะไร ปราบพวกชักดาบมันง่าย เราก็ช่วยประธานที่ประชุมสภาควบคุมการประชุม ซึ่งตัวประธานก็ควบคุมอยู่แล้ว เพราะบางทีเวลาประธานฟังเพลินๆ เราก็จะช่วยควบคุม ด้านทีมเจ้ายุทธ์จะออกมาตอบโต้ข้างนอกห้องประชุมสภา

เมื่อถามว่า จะมีการติวข้อสอบให้รัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายหรือไม่ นายนิโรธกล่าวว่าไม่ต้อง เพราะรัฐมนตรีทำการบ้านหมดเรียบร้อยแล้ว อย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค พปชร.สบายมาก หัวหน้าพรรคตอบได้หมด

ที่พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค ชทพ. ระบุว่า ถ้าหลักฐานไม่ชัดเจน แล้วรัฐมนตรีชี้แจงได้ การจะไปโหวตไม่ไว้วางใจเขาคงไม่ถูก  แต่ทั้งนี้เราจะฟังทั้งข้อกล่าวหาฝ่ายค้านและคำชี้แจงของรัฐมนตรี ในส่วนของ ชทพ.เองแม้ไม่มีรัฐมนตรีของพรรคถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ถ้ามีการพาดพิงมาถึงหน่วยงานที่พรรคผิดชอบ รัฐมนตรีก็ต้องขอชี้แจงบ้าง

ที่รัฐสภา กลุ่มราษฎรได้ยื่นหนังสือเรื่องการขอใช้พื้นที่รัฐสภาในการจัดกิจกรรม “camping ฟังสภา จับตาอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลประยุทธ์” ผ่าน น.ส.ผ่องศรี ธาราภูมิ อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ (ปชป.) และผู้เชี่ยวชาญประจำตัวนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา โดยสมาชิกคนหนึ่งของกลุ่มกล่าวว่า กิจกรรมจะเกิดขึ้นในวันที่ 19-23 ก.ค.  ซึ่งเป็นวันอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยกิจกรรมดังกล่าวเป็นรูปแบบกิจกรรมเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนกับกิจกรรมที่เกิดขึ้นในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ทั้งนี้ ในกิจกรรมจะมีทั้งการจัดวงดนตรี วงเสวนา รวมถึงงานวัฒนธรรม และที่ต้องมาขอใช้พื้นที่รัฐสภา เพราะเห็นว่าหากจัดกิจกรรมบริเวณถนนจะกีดขวางการจราจร และจะดีกว่าถ้ามาตั้ง camping บริเวณสภา จึงฝากสภาพิจารณาคำขอในหนังสือดังกล่าวด้วย

นอกจากนี้ กลุ่มราษฎรยังมีอีกหนึ่งแคมเปญที่อยากจะเชิญชวนประชาชนทุกคนมาร่วม คือแคมเปญโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลประยุทธ์ โดยกลุ่มราษฎรจะมีการจัดคูหาโหวตทั่วประเทศในวันที่ 17 ก.ค.นี้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง