นายกฯคุยป้อมตั้งปธ.วิปรัฐบาล

“ชวน” แจ้งเหลือ ส.ส.ปฏิบัติหน้าที่ 476 คน หลัง "รัตนเศรษฐแฟมิลี" ศาลฎีกาเเผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำเเหน่งทางการเมืองสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จากคดีทุจริตสนามฟุตซอลโคราช "บิ๊กตู่" จ่อถก "ป้อม" ตั้งประธานวิปรัฐบาลใหม่ ได้ข่าวเตรียมไว้แล้ว "วิษณุ" เปิดสเปก ต้องมีมนุษยสัมพันธ์ดี แก้เกมในสภาเก่ง "สำลี" แจงศาล รธน.สั่งยุติหน้าที่ ส.ส. ไม่เกี่ยวคลิปเสียงรับเงินซบ ภท.

เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัยประจำปี ครั้งที่ 2/2564 เป็นนัดแรก นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้แจ้งการเลื่อนลำดับ ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยนางบุญญาพร นาตะธนภัทร เลื่อนลำดับขึ้นมาเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังชาติไทย แทน พล.ต.ทรงกลด ทิพย์รัตน์ ที่เสียชีวิต และนางสุเนตตา แซ่โก๊ะ เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมพลังประชาชาติไทย แทน น.ส.เพชรชมพู กิจบูรณะ ที่ลาออกจากตำแหน่ง ส.ส.

นอกจากนี้ ยังแจ้งต่อที่ประชุมสภา ทราบว่า น.ส.พรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานี ได้ย้ายจากพรรคเพื่อไทย มาสังกัดพรรคภูมิใจไทย และได้แจ้งกรณีศาลฎีกาเเผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำเเหน่งทางการเมืองมีคำสั่งประทับรับฟ้องคดีทุจริตสนามฟุตซอล จ.นครราชสีมา มีผลทำให้นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ, นางทัศนียา รัตนเศรษฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐ และนางทัศนาพร เกษเมธีการุณ ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐ ที่เป็นจำเลยคดีดังกล่าวต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าจะมีคำพิพากษา ทำให้ขณะนี้มี ส.ส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ทั้งหมด 476 คน มีองค์ประชุมอยู่ที่ 238 คน นอกจากนี้ นายชวนยังนัดประชุมรัฐสภา วันที่ 16 พ.ย. เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมฉบับประชาชนด้วย

ทั้งนี้ นายอภิชาติ คงชาตรี เลขานุการแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา ลงนามในหนังสือ เลขที่ ศย 100 (อม)/247 เรื่องแจ้งคำสั่งศาลถึงนายชวน กรณีที่ศาลมีคำสั่งให้ประทับรับฟ้องคดีของนายวิรัช รัตนเศรษฐ กับพวกรวม 87 คน ในคดีทุจริตสนามฟุตซอลโคราช ซึ่งมีผลให้จำเลย 3 คน ประกอบด้วย นายวิรัช จำเลยที่ 1, นางทัศนียา จำเลยที่ 2, นางทัศนาพร จำเลยคนที่ 72 ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 235 วรรคสาม นับตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย.2564 ซึ่งเป็นวันที่ศาลประทับรับฟ้อง จนกว่าจะมีคำพิพากษา เว้นแต่ศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

นายวิรัชยอมรับว่า เมื่อคำตัดสินออกมาอย่างไรก็พร้อมปฏิบัติตาม หลังจากนี้จะเตรียมสู้คดีที่ถูกกล่าวหา และคดีที่ได้ฟ้องกลับ ป.ป.ช. ส่วนการดำเนินการทางการเมืองต่อไปหลังจากนี้ ยังไม่ตัดสินใจ ขอรอดูก่อน และยังไม่ได้คุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ปฏิเสธตอบคำถามสื่อมวลชนในเรื่องนี้ ขณะที่้ตำแหน่งประธานวิปรัฐบาลของนายวิรัชนั้นไม่มีอะไร กำลังพิจารณาอยู่ เดี๋ยวจะเอาเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะนำเข้าที่ประชุม กก.บห.ได้เมื่อไหร่ พล.อ.ประวิตรกล่าวสวนทันทีว่า "เดี๋ยวนี้เลยไหม จะต้องบอกสื่อด้วยหรือว่าจะประชุมเมื่อไหร่" เมื่อถามว่าตำแหน่งประธานวิปรัฐบาลไม่จำเป็นต้องเป็น ส.ส.ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ควรจะเป็น ส.ส.

ซักว่าขณะนี้ได้เปิดชื่อนายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ จะมาเป็นประธานวิปรัฐบาลคนใหม่ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐตอบว่า "กำลังดูอยู่ ผมจะบอกคุณได้ยังไง เดี๋ยวให้ผมประชุมพรรคก่อน"

บิ๊กตู่จ่อถกป้อมตั้งคนใหม่

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการตั้งประธานวิปรัฐบาลคนใหม่ว่า เรื่องนี้ต้องหารือกับพรรคพลังประชารัฐก่อน ต้องคุยกับ พล.อ.ประวิตร ในฐานะหัวหน้าพรรค ซึ่งได้ข่าวว่าเตรียมเสนอให้กับตนแล้ว โดยหัวหน้าพรรคพลังประชาชนต้องเร่งพิจารณาโดยเร็ว เพราะเป็นตำแหน่งที่สำคัญ เพื่อเตรียมการในการเปิดสภา ซึ่งเราต้องมีประธานวิปฝ่ายรัฐบาล เราต้องหาคนที่มาทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

เมื่อถามว่า นอกจากคุยเรื่องตั้งประธานวิปรัฐบาลคนใหม่แล้ว ยังจะมีคุยเรื่องอื่นๆ ด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เคยบอกแล้วว่าจะไม่ก้าวล่วงซึ่งกันและกัน ตนไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค ไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น แต่พรรคพลังประชารัฐเสนอตนเป็นนายกฯ ใช่ไหมล่ะ ถ้าตนมีอะไรตนก็จะคุยกับหัวหน้าพรรคใช่ไหมล่ะ ซึ่งหัวหน้าพรรคต้องไปทำความเข้าใจกับบรรดาลูกพรรค นายกฯ จะทำไม่ถูกไม่ได้ ต้องรักษากติกาให้ดี อย่าลากนายกฯ ปนไปปนมาจนสับสนอลหม่านไปหมด มันก็มีปัญหาทุกเรื่อง แต่คุยกันได้ คุยกันรู้เรื่อง เป็นพี่น้องกันอยู่แล้ว

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแต่งตั้งประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) คนใหม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จะเป็นผู้แต่งตั้งประธานวิปรัฐบาลคนใหม่ เพราะตำแหน่งประธานวิปรัฐบาลเป็นกรรมการของรัฐบาล ถ้าสภาผู้แทนราษฎรจะตั้งของเขาก็เรื่องของสภา แต่ชุดนี้เป็นชุดที่รัฐบาลตั้ง

ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. ระบุว่า ประธานวิปรัฐบาลคนใหม่จะต้องเป็น ส.ส. และต้องผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการบริหารพรรค พปชร. (กก.บห.) ก่อน นายวิษณุกล่าวว่า ปกติวิปฯ จะต้องเป็น ส.ส. เพราะวิปฯ เวลาทำงานต้องนั่งอยู่ในสภา เป็นธรรมดา และต้องเป็นที่ยอมรับของ ส.ส. เพราะเวลาพูดอะไรคนจะต้องเชื่อ โดยพรรคร่วมรัฐบาลจะต้องหารือและเสนอชื่อมาที่รัฐบาล จากนั้นนายกฯ จะเป็นผู้เซ็นลงนามการแต่งตั้ง นายกฯ จะไปตั้งตามใจชอบไม่ได้ เพราะนายกฯ ไม่สามารถไปประสานอะไรกับใครได้

"ข้อสำคัญคือต้องมีมนุษยสัมพันธ์ดี ติดต่อกับรัฐบาลได้ เป็น ส.ส. และเป็นคนที่ว่าง คือสามารถอยู่ในสภาทั้งวันที่มีการประชุม ถ้าเป็นคนที่มีภารกิจอะไรเยอะจะลำบาก เพราะเผลอแป๊บเดียวเขาก็โหวตกันแล้ว และต้องแก้เกมในสภาด้วย ความจริงไม่ต้องถึงกับแม่นกฎหมายอะไรหรอก เพราะมีคนอื่นช่วยได้" นายวิษณุกล่าว

ขณะที่นายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล พรรคพลังประชารัฐ เรียกประชุมวิปรัฐบาลในส่วนของพรรคพลังประชารัฐด่วน โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที และให้สัมภาษณ์ว่า เพื่อไม่ให้เกิดความปั่นป่วน ต้องมาคุยกัน ในการลงมติต่างๆ เพื่อให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีอะไรที่น่ากังวล ในช่วงเวลานี้เราต้องช่วยกันดูแล ไม่ใช่ประเด็นทางการเมือง แต่เป็นประเด็นเรื่องของการทำงาน ส่วนการพิจารณาประธานวิปรัฐบาลคนใหม่ ต้องดูความเหมาะสม และให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้พิจารณาแต่งตั้งต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่า ในที่ประชุมได้เน้นย้ำว่า ช่วงนี้ถือว่าสถานการณ์เปราะบางขอให้ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐช่วยกัน ทั้งนี้​ มีรายงานข่าวว่าก่อนหน้านี้มีการเสนอชื่อ​นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ​ ขึ้นมาเป็นประธานวิปรัฐบาลแทนนายวิรัช​ เพราะมีความอาวุโส​ และมีภาพประนีประนอม

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ไม่ใช่เพียงนายนิโรธ ซึ่ง ส.ส.อาวุโสในพรรคมีหลายคน คงต้องหารือกันอีกที ธรรมเนียมปฏิบัติก็มีคณะกรรมการ รองประธาน ประสานงานกันอยู่ เชื่อว่าไม่มีปัญหา ส่วน ส.ส.ก็รู้ตัวเองอยู่แล้วว่าต้องทำหน้าที่และลงมติอย่างไร

ตำแหน่งนี้ไม่แย่งกัน

นายชัยวุฒิระบุถึงตำแหน่งประธานวิปรัฐบาลว่า เท่าที่ตนรู้ไม่มีการแย่งชิงกัน เพราะตำแหน่งประธานวิปฯ เป็นตำแหน่งที่ต้องเสียสละมาทำงาน ต้องรับผิดชอบชีวิตความเป็นอยู่ของ ส.ส.ทุกคน รวมถึงการลงมติต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่หนัก ต้องมาก่อนคนอื่น และกลับคนสุดท้าย ซึ่งต้องพูดว่าหาคนมาทำงานที่เสียสละมากกว่า อย่ามาแย่งกันเลย การประชุม ครม.วันที่ 4 พ.ย. จะมีการหารือเรื่องนี้กับนายกฯ และหัวหน้าพรรค คาดว่าเรื่องนี้น่าจะจบเร็วๆ นี้ แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าเมื่อไหร่ เป็นเพราะอำนาจของนายกรัฐมนตรี

วันเดียวกันนี้ ศาล​รัฐธรรมนูญ​ประชุมปรึกษาคดีในคดีประธาน​สภาผู้แทน​ราษฎร​ (ผู้ร้อง)​ ส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญ​วินิจฉัย​ตาม​รัฐธรรมนูญ​ มาตรา 82 ว่าสมาชิกภาพ​ของ​สมาชิก​สภาผู้แทน​ราษฎร​ของนายสำลี รักสุทธี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจ​ไทย​ (ผู้ถูกร้อง)​ สิ้นสุด​ลง​ตามรัฐธรรมนูญ​มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (10) หรือไม่ โดยศาลมติเอกฉันท์รับคำร้องนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัย และให้ผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง

สำหรับคำขอให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสองนั้น ศาลโดยมติเอกฉันท์เห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้อง ปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่าผู้ถูกร้องมีกรณีตามที่ถูกร้อง จึงมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. นับตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย.2564 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย

นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย แถลงว่า ประเด็นดังกล่าวมีการขยายความไปในลักษณะว่าเกิดจากข้อเท็จจริงเรื่องบันทึกคลิปเสียง ซึ่งไม่ใช่กรณีที่ศาลรับคำร้องไว้ แต่ข้อเท็จจริงคือนายสำลีเคยมีคดีอาญาช่วงปี 2532-2533 กรณีที่นายสำลีมีบ้านพักใกล้สถานบันเทิงใน จ.มหาสารคาม ซึ่งมีการแสดงดนตรีสดส่งเสียงดังรบกวนจนเกิดข้อพิพาทกัน กระทั่งนายสำลีได้เข้าไปที่สถานบันเทิงนั้น และถูกแจ้งความดำเนินคดีบุกรุกทำให้เสียทรัพย์ ท้ายที่สุดศาลได้พิพากษาลงโทษจำคุกนายสำลี 5 ปี แต่ให้รอลงอาญาไว้ 3 ปี โดยให้บำเพ็ญประโยชน์ตามเงื่อนไข ซึ่งนายสำลีไม่ได้เข้าเรือนจำแต่อย่างใด แต่เป็นโทษรอลงอาญาไว้ เรื่องที่เกิดขึ้นจึงเป็นที่มาที่มีผู้ร้องว่ากรณีนี้ท่านขาดคุณสมบัติหรือพ้นสภาพสมาชิกหรือไม่

ด้านนายสำลีกล่าวว่า ตรงพื้นที่บ้านของตนมีผับบาร์มาตั้งติดกับบ้านพัก มีการแสดงดนตรีสดเป็นเวลาหลายปี ได้รับความเดือดร้อนจากเสียงรบกวน และได้ร้องเรียน 3 ผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ไม่มียุคสมัยใดแก้ปัญหาได้เลย ช่วงที่เกิดเหตุตนเป็นคนเขียนหนังสือจำหน่ายให้สำนักพิมพ์ ทางสำนักพิมพ์กำหนดให้ส่งต้นฉบับให้เร็ว แต่เมื่อมีเสียงรบกวนจากสถานบันเทิงดังกล่าว ทำให้เขียนหนังสือไม่ได้ จนเกิดความเครียดจนสติหลุด เข้าไปบุกร้านยามวิกาล ทำให้ถูกกล่าวหาว่าเข้าไปขโมยของ ขณะนั้นทนายบอกให้รับสารภาพ จะไม่มีผลเรื่องการสมัคร ส.ส. ในที่สุดศาลตัดสินให้ลงโทษรอลงอาญา และศาลให้บำเพ็ญประโยชน์ ซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องคลิปเสียงแต่อย่างใด.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง