
นายกฯ ยินดีที่ภาคเอกชนไทยเตรียมพร้อมเป็นเจ้าภาพการประชุม APEC CEO Summit 2022 ปลายปีนี้ ตอกย้ำบทบาทภาคเอกชนในฐานะกลไกสำคัญขับเคลื่อนการเจริญเติบโตของภูมิภาค "FETCO" คาดการณ์ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน 3 เดือนข้างหน้าซบเซา เป็นครั้งแรกในรอบ 10 เดือน มองการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวช่วยพยุง ห่วงนโยบายการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED ที่อาจนำไปสู่ปัญหาเศรษฐกิจถดถอย
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขอบคุณที่ภาคเอกชนไทยมีความตื่นตัว และประกาศความพร้อมเป็นเจ้าภาพการประชุม APEC CEO Summit 2022 ปลายปีนี้ นับเป็นโอกาสครั้งสำคัญในการแสดงบทบาทในฐานะกลไกขับเคลื่อนการเจริญเติบโตของภูมิภาค และแสดงศักยภาพของภาคธุรกิจไทยสู่เวทีโลก
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปกประเทศไทยได้ประกาศความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพ APEC CEO Summit 2022 ซึ่งจะจัดระหว่างวันที่ 16-18 พฤศจิกายน 2565 ณ ทรูไอคอนสยาม ศูนย์การค้าไอคอนสยาม ภายใต้แนวคิด “Embrace Engage Enable” ซึ่งมุ่งหวังการฟื้นฟูความร่วมมือของเศรษฐกิจ สังคม ประชาชนในภูมิภาค รวมทั้งปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางด้านการค้าการลงทุน ตลอดจนการแบ่งปันนวัตกรรม เพื่อเสริมสร้างการเติบโตร่วมกัน โดยการประชุมครั้งนี้จะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำทางธุรกิจของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกแบบพบปะกันครั้งแรกในรอบ 3 ปี หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ที่ผ่านมาต้องจัดประชุม แบบผ่านออนไลน์
จากข้อมูลของสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปกประเทศไทยพบว่า ภาคเอกชนเป็นกลไกหลักในการเติบโตของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ทั้งภาคการส่งออก ภาคอุตสาหกรรม และภาคบริการ ต่างมีความเข้มแข็ง รวมทั้งจุดแข็งสำคัญคือ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการทางการเงิน (Tourism and financial services industries) ตลอดจนจุดเด่นทางด้านอาหาร ซึ่งทำให้สามารถผลักดันไปสู่การเป็นผู้นำด้านความมั่นคงของอาหารในเวทีโลก ทั้งนี้ การประชุมจะมีบุคคลสำคัญจากภาครัฐ เอกชน รวมทั้งผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกหลายคนจะร่วมกล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ การประชุมครั้งนี้ยังช่วยสร้างความมั่นใจของภาคเอกชน ในฐานะกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการเจริญเติบโตของภูมิภาคและของโลกอีกด้วย
“นายกรัฐมนตรียินดี และชื่นชมภาคเอกชนไทยที่มีความพร้อมความตื่นตัวในการเป็นเจ้าภาพ APEC CEO Summit 2022 ซึ่งจะเป็นการพบปะของ CEO และผู้บริหารระดับสูงในแต่ละภาคธุรกิจที่จะเดินทางมาไทย เพื่อหารือเกี่ยวกับความท้าทายระดับภูมิภาค โดยนอกจากจะเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างความประทับใจให้แก่ผู้บริหารระดับสูง ผู้นำธุรกิจ ผู้นำทางความคิด และผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกที่มาร่วมกล่าวปาฐกถาในวันงานแล้ว การประชุมยังจะเป็นเวทีสำหรับการค้า และการลงทุนไทยที่สำคัญในการสร้างผลประโยชน์ให้ภาคธุรกิจของประเทศไทยไปสู่ระดับภูมิภาค จึงขอเชิญชวนภาคเอกชนไทยและคนไทยทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพร่วมกัน ซึ่งนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าการจัดการประชุมจะสำเร็จลุล่วง เพราะเกิดจากความร่วมมือร่วมใจของภาคเอกชนไทย” นายธนกรกล่าว
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดเผยถึงผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนประจำเดือน มิถุนายน 2565 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 64.57 ปรับตัวลดลง 23.1% จากเดือนก่อนหน้า มาอยู่ในเกณฑ์ซบเซา เป็นครั้งแรกในรอบ 10 เดือน โดยนักลงทุนมองว่าการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวจะเป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นมากที่สุด รองลงมาคือเงินทุนไหลเข้า และนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในการแก้ปัญหาเงินเฟ้อ ส่วนปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ได้แก่ นโยบายการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED ที่อาจนำไปสู่ปัญหาเศรษฐกิจถดถอย รองลงมาคือ ภาวะเงินเฟ้อจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลก และความกังวลต่อสถานการณ์ COVID-19 Omicron สายพันธุ์ BA.4 และ BA.5
สำหรับผลสำรวจ ณ เดือนมิถุนายน 2565 รายกลุ่มนักลงทุนพบว่า ความเชื่อมั่นนักลงทุนกลุ่มนักลงทุนบุคคลปรับลด 33.9% อยู่ที่ระดับ 69.57 กลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ปรับลด 25.9% อยู่ที่ระดับ 55.56 กลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศปรับขึ้น 5.9% อยู่ที่ระดับ 87.50 และความเชื่อมั่นกลุ่มนักลงทุนต่างชาติปรับลด 4.8% มาอยู่ที่ระดับ 57.14 โดยช่วงเดือนมิถุนายน 2565 ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบอยู่ระหว่าง 1,557.61-1,660.01 จากความกังวลต่อสถานการณ์เงินเฟ้อทั่วโลก และความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะเข้าสู่สภาวะถดถอยมากขึ้น หลังประธาน FED และประธาน ECB ส่งสัญญาณเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อ ทำให้ในเดือนมิถุนายน นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 29,990 ล้านบาท เป็นการขายสุทธิในเดือนแรกหลังจากซื้อสุทธิมาตลอดตั้งแต่เดือนธันวาคม 2564
ทั้งนี้ ตลาดไทยยังได้รับปัจจัยหนุนจากการที่ภาครัฐประกาศมาตรการบรรเทาผลกระทบจากการปรับขึ้นของราคาพลังงานและมาตรการหนุนภาคท่องเที่ยว ส่งผลให้ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ 1,568.33 จุด ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2565 ปรับตัวลดลง 5.7% จากเดือนก่อนหน้า
"ปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม ได้แก่ แนวทางการรับมือของ FED ต่อสถานการณ์เงินเฟ้อหลังอัตราเงินเฟ้อปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 40 ปี ความไม่แน่นอนของสงครามรัสเซียยูเครน ซึ่งยังคงเป็นความเสี่ยงหลักต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านพลังงานในยุโรป รวมถึงแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนหลังมีการผ่อนคลายมาตรการ Lockdown ในส่วนของปัจจัยในประเทศที่น่าติดตาม ได้แก่ แนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของ กนง. สถานการณ์เงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูงจากราคาพลังงานในตลาดโลกและราคาวัตถุดิบในประเทศ และสถานการณ์การระบาด COVID-19 Omicron สายพันธุ์ BA.4 และ BA.5" นายกอบศักดิ์ กล่าว
นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์เฟซบุ๊กถึงแนวทาง 3 ข้อ ที่จะนำพาประเทศไทยออกจากวิกฤตเศรษฐกิจว่า วันนี้โจทย์ใหญ่ของประเทศไทยคือเราจะต้องก้าวพ้นวิกฤตให้สำเร็จ และสร้างความเปลี่ยนแปลงเพื่อพัฒนาให้ทันโลก ซึ่งหากเรายังคิดอยู่ในกรอบเดิมๆ บริหารจัดการแบบเดิมๆ เช่นในสภาวะปกติ ไม่กล้าที่จะเปลี่ยนแนวคิด ปรับเปลี่ยนวิธีการให้เหมาะสมกับสถานการณ์จริง ก็เชื่อได้ว่าจะได้ผลแบบเดิมๆ ไม่สามารถหวังจะตอบโจทย์ความท้าทายที่เรากำลังเผชิญได้ตรงจุดและทันเวลา
การขับเคลื่อนเชิงรุกด้วยยุทธศาสตร์ใหม่ๆ ที่เชื่อมโยงระหว่างกันทั้งระบบจึงเป็นเรื่องเร่งด่วนร่วมกัน ทำให้ประเทศไทยเป็นที่น่าสนใจชั้นแนวหน้า ไม่ตกไปอยู่ขอบเวที โดยความท้าทายสำคัญขณะนี้คือการเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการนักลงทุนทั้งภายในและต่างประเทศว่า ประเทศไทยจะก้าวพ้นวิกฤตครั้งนี้ด้วยความสำเร็จความเข้มแข็งไม่แพ้ประเทศอื่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นอกจากนี้ ต้องทำให้ภาคธุรกิจและนักลงทุนเกิดความมั่นใจว่า ประเทศไทยมียุทธศาสตร์การพัฒนาที่เหมาะสม สามารถใช้ประโยชน์จากศักยภาพที่มีอยู่ได้เต็มที่ รวมทั้งเป็นที่ประจักษ์ว่า ประเทศไทยจะมีผู้บริหารจัดการนโยบายและรับผิดชอบขับเคลื่อนการพัฒนาให้เกิดขึ้นและบรรลุผลได้อย่างแท้จริง และหากเราต้องการหลุดพ้นจากวิกฤตไปด้วยกัน เราต้องร่วมกันสร้างและสนับสนุนธรรมาภิบาลให้เป็นพื้นฐานที่มั่นคงในทุกมิติ ไม่เพียงด้านเศรษฐกิจ แต่รวมถึงด้านการเมืองและสังคมอีกด้วย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' เปิดพรรครับ 'กลุ่มรักสถาบัน' ให้กำลังใจ ปกป้องอธิปไตยไทย
'อนุทิน' เปิดพรรค รับดอกไม้-หนังสือ 'กลุ่มศปปส.' ให้กำลังใจปกป้องอธิปไตย ลั่นไทยไม่มีแพ้ ขอมั่นใจพร้อมสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ทหาร
'อนุทิน' หัวโต๊ะ ภท. วางนโยบายหาเสียง คัดผู้สมัครรอบสุดท้าย
'อนุทิน' หัวโต๊ะ ภท. ถกวางนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง คัดผู้สมัคร สส. รอบสุดท้าย '3 แคนดิเดตนายกฯ' พยายามให้ชัดวันนี้
'อนุทิน' ระวัง! ติดกับดักตัวเอง ปมคำถามประชามติ
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี วางกับดักตัวเอง ในการส่งคำถามประชามติของคณะรัฐมนตรี
ศก.สู่ยุคโตตํ่า! คุมเข้มร้านทอง กดเงินบาทแข็ง
"ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ" ห่วงเศรษฐกิจไทยเข้าสู่ยุคโตต่ำเป็น New Normal หลังกินบุญเก่ามานาน
ทุกพรรคจัดทัพลุยเลือกตั้ง
ทุกพรรคพร้อมลุยเลือกตั้ง! "อนุทิน” ยันแคนดิเดตนายกฯ ภท.ไม่มีเซอร์ไพรส์เพิ่ม
เลือก‘คำถามประชามติ’ สมควรมีรธน.ใหม่หรือไม่
ครม.เคาะเลือกคำถามประชามติ “สมควรมีรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่”

