พรรคเล็กเสียงแตก ‘ไทรักธรรม’ยันไม่อยากถอนตัว เลขากลุ่ม16ขู่โหวตควํ่านายกฯ

“ธรรมนัส” อยากสวมบทฝ่ายค้านเต็มแก่ ขอเวลาซักฟอก รมต. แต่ติดปัญหาพรรคร่วมฝ่ายค้านยังไม่ได้ตอบรับ "ประเสริฐ" เชื่อ "ศท." ไม่โหวตให้รัฐบาลประยุทธ์แน่ แย้ม "พท." เตรียมขุนพลพร้อมข้อมูลเด็ดถล่มอภิปรายเต็มที่  "พรรคเล็ก" เริ่มเสียงแตก "ไทรักธรรม" ไม่อยากถอนตัวรัฐบาล อ้างต้องมีเหตุผล จู่ๆถอนตัวไม่ได้ "เลขาฯ กลุ่ม 16" ฟันฉับมติกลุ่มโหวตคว่ำนายกฯ ชี้แก้ ศก.ไม่ผ่าน  "นิโรธ" เผยวิปรัฐบาลนัดถกรับมือซักฟอก 18 ก.ค.นี้ "อดีต ปธ.หมู่บ้านเสื้อแดงภาคเหนือ" ซัด "ผู้กอง" อย่าเหมาเข่งคนเหนือไม่เอาลุงตู่ ระบุแพ้เลือกตั้งลำปาง เหตุคนไม่เอา ศท.มากกว่า

เมื่อวันที่ 14 ก.ค. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ในฐานะหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) กล่าวถึงการถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลอีกครั้ง ยืนยันว่าเป็นเพราะผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ที่ จ.ลำปาง ที่ประชาชนสะท้อนและให้บทเรียน แสดงถึงความนิยมของรัฐบาลตกต่ำลง และยังบอกให้ตนรู้ว่าอย่าเชื่อมั่นในตัวเองมากเกินไป แม้จะทำงานให้กับประชาชนได้พื้นที่มาโดยตลอดก็ตาม

ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า หลังจากตัดสินใจถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล  จะขอเข้าพบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เพื่อกราบลา พล.อ.ประวิตรเป็นการส่วนตัว และบอกว่ายังรักและเคารพเช่นเดิม แม้จะขอถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลในวันที่ 17 ก.ค.นี้ โดยเลื่อนจากเดิมวันที่ 15 ก.ค. เนื่องจากพล.อ.ประวิตรติดภารกิจ

“สำหรับบทบาทการทำหน้าที่ในฐานะฝ่ายค้าน ตอนนี้ยังเป็นฝ่ายค้านอิสระ เพราะพรรคร่วมฝ่ายค้านยังไม่ได้เชิญ หรือตอบรับให้เข้าร่วมทำงานในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้าน” ร.อ.ธรรมนัสกล่าว

ถามว่าจะแสดงบทบาทการทำหน้าที่ฝ่ายค้านโดยร่วมเป็นผู้อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีด้วยหรือไม่ หัวหน้าพรรค ศท.กล่าวว่า กำลังคิดอยู่ อาจจะหาเวลาพูดอภิปรายด้วย แต่ขณะนี้ติดปัญหาว่ายังไม่ได้เป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านอย่างเป็นทางการ และยังไม่ทราบว่าฝ่ายค้านจะให้เข้าร่วมทำงานหรือจัดสรรเวลาให้พรรคเศรษฐกิจไทยด้วยหรือไม่อย่างไร

ขณะที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า พรรค พท.ยังไม่ได้มีการพูดคุยเป็นทางการกับพรรค ศท. รวมทั้งตนก็ยังไม่ได้พูดคุยกับ ร.อ.ธรรมนัสด้วย แต่เข้าใจว่า ร.อ.ธรรมนัสอยากจะกำหนดบทบาทของเขาให้ชัดเจน แต่จะไปในทางไหนเขายังไม่ส่งสัญญาณใดๆ มา เชื่อว่าการอภิปรายครั้งนี้เขาไม่โหวตให้รัฐบาลแน่

นายประเสริฐกล่าวว่า ในส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ฝ่ายค้านมีความพร้อมขุมกำลังเต็มอัตราศึก แบ่งงาน แบ่งหน้าที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งทีมอภิปราย ทีมตอบโต้ มีความคาดหวังว่าจะล้มรัฐบาลได้ ถ้าเสียงในสภาแพ้ ก็คาดว่าในการเลือกตั้งคราวต่อไปประชาชนจะไม่สนับสนุนรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์อย่างแน่นอน

“ข้อมูลการอภิปรายครั้งนี้ พรรคร่วมฝ่ายค้านมีข้อมูลเด็ดกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ประเด็นหลักจะอภิปรายเรื่องการทุจริต และบริหารราชการแผ่นดินไร้ประสิทธิภาพ ทำประเทศเสียหาย ในวันที่ 18 ก.ค. พรรคร่วมฝ่ายค้านจะมีการประชุมกันอีกครั้ง เพื่อกำหนดลำดับตัวผู้อภิปรายและรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย ส่วนข้อมูลอภิปรายก็จบหมดทุกพรรคแล้ว”เลขาฯ พรรค พท.กล่าว

ด้านนายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทรักธรรม กล่าวว่า ในวันที่ 18 ก.ค. ร.อ.ธรรมนัสนัดหารือกับกลุ่ม 16 เรื่องหลักๆ ที่จะคุยกันคือแนวทางการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า และอาจมีการพูดถึงแนวทางการทำงานของพรรคเล็กจะถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลหรือไม่

พรรคเล็กเริ่มเสียงแตก

“ขณะนี้ยังสรุปไม่ได้พรรคเล็กจะถอนตัวหรือไม่ แต่แนวโน้มคงไม่ถอนตัว เพราะการถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลต้องมีเหตุผล ไม่ใช่จู่ๆ ก็ถอนตัวออกมา กลุ่ม 16 คงต้องหารือกันอย่างรอบคอบในเรื่องนี้” นายพีระวิทย์กล่าว

ถามว่า มองการถอนตัวของพรรค ศท.อย่างไร หัวหน้าพรรคไทรักธรรมกล่าวว่า ดูแล้วไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า เพราะนอกจากเสียงของพรรค ศท.จะหายไป 16 เสียงแล้ว ยังไม่รู้จะมีเสียงส.ส.พรรค พปชร. ที่เป็นสายของ ร.อ.ธรรมนัสหายไปอีกกี่เสียง

“การโหวตซักฟอกครั้งนี้มีบริบทแตกต่างจากการอภิปรายในทุกรอบ แต่ดูแล้วตัว พล.อ.ประยุทธ์ไม่น่าจะมีปัญหา คงมีเสียงอภิปรายไว้วางใจครบ แต่รัฐมนตรีคนอื่นๆ ไม่รับประกันอยู่ในข่ายมีความเสี่ยงจะตกเก้าอี้ได้ เช่น นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม” หัวหน้าพรรคไทรักธรรมกล่าว

ที่พรรคเพื่อชาติไทย นายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเพื่อชาติไทย รวมทั้งเป็นเลขานุการกลุ่ม ส.ส.16 กล่าวว่า จากการลงพื้นที่พบปะประชาชน พบว่าประสบปัญหาเศรษฐกิจเรื่องปากท้อง ค่าใช้จ่าย สูงกว่ารายได้ ต่างก็เดือดร้อนกันถ้วนหน้า ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์แก้ปัญหาไม่ผ่าน และส.ส.กลุ่ม 16 ได้ติดตามการทำงานอย่างใกล้ชิด ซึ่งปรึกษาหารือกันในระดับแกนนำ จึงมีมติ ส.ส.กลุ่ม 16 จะโหวตคว่ำ นายกฯ เพราะทุกคนประชาชนเลือกเข้ามากับมือ

 “ส.ส.กลุ่ม 16 เกาะติดสถานการณ์ทางการเมืองวันต่อวัน และมีการปรึกษาหารือกันทุกวัน ในเหตุการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นแต่ละวัน แล้วนำมาวิเคราะห์ร่วมกันภายใน ส.ส.กลุ่ม 16 มีเสียงแตกเป็น 2 กระแส คือ 1.จะไปร่วมกับฝ่ายค้าน และ 2.ขอดูการอภิปรายของฝ่ายค้านก่อน ถ้ารัฐมนตรีตอบคำถามฝ่ายค้านไม่ได้ ก็ต้องโหวตสวน ซึ่งการโหวตคว่ำนายกฯ ไม่ได้หมายความว่าลาออกจากการร่วมรัฐบาล ยังคงทำงานร่วมกับรัฐบาลเหมือนเดิม เพียงแต่ว่าโหวตคว่ำนายกฯ เพราะแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้” เลขาฯ กลุ่ม 16 ระบุ

อย่างไรก็ดี นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรค พปชร. ในฐานะประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังพรรค ศท.ถอนตัวจากการพรรคร่วมรัฐบาลว่า กรอบเวลาการชี้แจงของรัฐมนตรีและรัฐบาลรวม 15 ชั่วโมง แม้ว่าจะน้อย แต่ก็ได้จัดสรรให้กับรัฐมนตรีคนละ 1 ชั่วโมง ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ ได้เวลา 5 ชั่วโมง

“ในส่วนของรัฐบาลจะมีการประชุมวิปรัฐบาลในวันที่ 18 ก.ค.นี้อีกครั้ง โดยเน้นย้ำเรื่องของการเตรียมการรับมือศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะต้องเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับตลอด และต้องดูแลสุขภาพ ระมัดระวังสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ด้วย เนื่องจากจะเป็นช่วงที่ร่างกายอ่อนแอจากการตรากตรำประชุมต่อเนื่องหลายวันและยาวนาน” ประธานวิปรัฐบาลกล่าว

ในส่วนของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ได้เตรียมที่จะชี้แจงเหมือนทุกครั้ง ไม่คิดว่ามีปัญหาอะไร และจะตอบในส่วนที่คิดว่าเป็นข้อสงสัย หรือต้องการคำตอบก็จะตอบ และจะถือโอกาสตอบให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบด้วยในประเด็นที่ฝ่ายค้านซักถาม รวมทั้งประเด็นที่คิดว่าประชาชนก็อยากทราบข้อมูลข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร ซึ่งตนยินดีตอบ ไม่มีปัญหาอะไร

ถามว่าได้เตรียมตอบในเรื่องไหนเป็นพิเศษหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า ได้เตรียมตามที่ฝ่ายค้านเขียนไว้ในญัตติ ส่วนจะใช้เวลาชี้แจงนานเท่าใดนั้น ก็จะเป็นไปตามที่วิปได้ประสานงานกันไว้ว่าฝ่ายค้านได้เวลาเท่าไหร่ รัฐบาลมีเวลาเท่าไหร่

“ส่วนเรื่องเสียงโหวตนั้น เป็นภารกิจของพรรคแกนนำที่จะเป็นผู้ดำเนินการในเรื่องนั้นต่อไป” นายจุรินทร์กล่าว

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบโต้กรณี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค พท. ระบุผลเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปาง บ่งชี้คะแนนนิยมอยู่ที่ฝั่งประชาธิปไตยว่า ดูเหมือนจะกลายเป็นงานถนัดของฝ่ายค้านไปแล้ว ที่ออกมาตีกิน โยงทุกเรื่องเป็นเรื่องการเมืองเพื่อโจมตีรัฐบาล ทั้งๆ ที่ก็รู้อยู่เต็มอกว่าสาเหตุที่ผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปางออกมาแบบนั้นเพราะฝ่ายค้านช่วยกันเทคะแนนให้ และไม่เกี่ยวกับพรรค พปชร. เพราะไม่ได้ส่งผู้สมัคร

อย่าเหมาคนเหนือไม่เอา รบ.

นายธนกรยังกล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านจัดชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ไว้ลำดับสุดท้ายในการอภิปรายว่า รัฐบาลพร้อมชี้แจงในทุกประเด็น โดยเฉพาะนายกฯ ไม่ว่าฝ่ายค้านจะจัดเวลาลำดับไหนในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ผลที่ออกมาก็ไม่แตกต่างกัน เพราะประชาชนทราบดีว่ารัฐบาลโดยเฉพาะท่านนายกฯ บริหารประเทศด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และเด็ดขาดกับการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งแตกต่างจากรัฐบาลในอดีตอย่างชัดเจน

"วันนี้ฝ่ายค้านเริ่มเห็นแววว่าตัวเองจะไปไม่รอด เพราะหาข้อมูลทุจริตไม่ได้ตามที่โม้เอาไว้ จึงรีบออกมาโยนบาปให้คนอื่นว่าหากผลโหวตออกมาว่ารัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้นได้รับเสียงไว้วางใจอย่างล้นหลาม เป็นเพราะฝ่ายค้านที่เป็นงูเห่าถูกซื้อตัวไปเยอะ จนเป็นตัวแปรที่มีผลพอสมควร ทั้งๆ ที่ผ่านมาฝ่ายค้านโหมโรงแทบจะรายวัน แต่เนื้อหาและข้อเท็จจริงกลับไม่เคยมีให้เห็น จึงต้องโยนบาปให้งูเห่าเพื่อรักษาหน้าตัวเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าละอายยิ่งกว่า เข้าทำนองรำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง" โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าว

วันเดียวกัน นายสมชัย แสงทอง อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคเหนือ ในฐานะประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันภาคเหนือ อดีตประธานหมู่บ้านคนเสื้อแดงภาคเหนือ กล่าวถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัสระบุคนเหนือ 8 จังหวัดไม่เอารัฐบาลจึงหนีไปซบฝ่ายค้านว่า ร.อ.ธรรมนัสพูดออกมาไม่เป็นความจริง เพราะแท้ที่จริงแล้วคนเหนือไม่ว่าจะอยู่ในตัวเมืองและชนบท ทุกคนทราบดีกันหมดแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้นำการบริหารช่วยเหลือประชาชนในทุกๆ ท่าน จนแก้วิกฤตด้านเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกได้ และที่ผ่านมาช่วงประชาชนเจอกับปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด-19 รัฐบาลก็ได้จัดสรรงบประมาณมาพัฒนาด้านความเป็นอยู่ของประชาชนทั้งในเมืองและชนบท โดยเฉพาะเกษตรกรได้มาส่งเสริมสนับสนุนกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ทั้ง 8 จังหวัดภาคเหนือ กลุ่มชาติพันธุ์เผ่าต่างๆ ก็ยังได้รับการสนับสนุนมาเป็นอย่างดี ทางอดีตหมู่บ้านเสื้อแดงและคนเสื้อแดงบางกลุ่มจึงได้ร่วมมือกันมาสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์บริหารประเทศต่อไป

อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคเหนือกล่าวว่า ก่อนหน้านี้เขต 4 จังหวัดลำปาง เดิมก็เป็นของพรรค พปชร. แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ได้ส่งคนลงเลือกตั้ง ดังนั้น ร.อ.ธรรมนัสไม่ควรที่จะประเมินเองว่าคนในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนไม่เอารัฐบาล การที่พรรคเศรษฐกิจไทยแพ้เลือกตั้งที่จังหวัดลำปาง ไม่ว่าจะเป็นคนเสื้อแดงและอดีตคนเสื้อแดง รวมไปถึงคนที่สนับสนุนรัฐบาล ยังสอบถามมาถึงตนเลยว่าจะเลือกพรรคไหน เพราะว่าไม่มีคนของรัฐบาลส่งมาลงสมัครเลย เพราะที่ผ่านมาคนภาคเหนือเลือกพรรค พปชร. เพราะอยากได้ พล.อ.ประยุทธ์มาเป็นนายกฯ ไม่ใช่ว่าจะเลือกตัวบุคคล ผลจากการเลือกตั้งทำให้เห็นว่าคนบางกลุ่มก็ไม่รู้ว่าจะเลือกใคร แต่คนอีกบางกลุ่มก็ไปเลือกคู่ต่อสู้ แล้วจะมาโทษรัฐบาลว่าทำให้ตนเองแพ้เลือกตั้งนั้นยิ่งไม่เป็นความจริง

“ผมไม่ทราบว่า ร.อ.ธรรมนัสมีอคติส่วนตัวต่อนายกฯ หรือไม่ จึงออกมาพูดแบบนี้ให้คนภาคเหนือสับสน ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัสแพ้การเลือกตั้ง ต้องยอมรับว่าคนไม่เอาพรรคเศรษฐกิจไทย อย่าออกมาพูดเพื่อแก้เกี้ยวแบบนี้ จะเห็นได้ว่าวันที่ พล.อ.ประยุทธ์นำคณะรัฐมนตรีลงพื้นที่ในภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ คนเสื้อแดง อดีตเสื้อแดง และผู้สนับสนุนรัฐบาลแห่กันมาต้อนรับจำนวนมากหลายพันคน ถ้าไม่ถูกสกัดจากเจ้าหน้าที่กลัวการแพร่ระบาดของโควิด จะมีประชาชนมาเป็นหมื่นๆ คน ซึ่งตราบใดที่มีรัฐบาลโดยการนำของคนชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ พวกผมและชาวเหนือทั้ง 8 จังหวัดก็จะอยู่ดีมีสุขตามนโยบายที่ว่า มั่นคง มั่งคั่ง และ ยั่งยืน" อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคเหนือกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง