‘แม้ว’ฟุ้งปีหน้ากลับ ปูดกลางวงจัดงาน‘วันเกิด’/‘ไพบูลย์’เชื่อกม.ลูกจบ26ก.ค.

“ทักษิณ” ประกาศกลางงานวันคล้ายวันเกิดที่แดงอีสานจัดให้    บอกปีนี้เป็นปีสุดท้าย ปีหน้ากลับไทยแล้วจะเดินสายเยี่ยม “ไพบูลย์” เชื่อ 26 ก.ค. กฎหมายลูกจบวาระสามแน่ เชื่อ กกต.จะเห็นชอบสูตรหาร 100 คาดหากไม่มีการส่งเรื่องตีความประกาศใช้ได้พฤศจิกายนนี้

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม 2565 นายอนุวัฒน์ ทินราช ประธานเครือข่ายคนเสื้อแดง จังหวัดนครราชสีมาและภาคอีสาน เปิดเผยถึงการจัดกิจกรรมในโอกาสวันคล้ายวันเกิดนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีอายุครบ 73 ปีในวันที่ 26 ก.ค. ล่วงหน้าเมื่อวันที่ 23 ก.ค. ว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจากหลายจังหวัดในภาคอีสานกว่า 300 คน ได้มารวมกลุ่มกันที่บ้านสวนกลางไพร ต.ธงชัยเหนือ อ.ปักธงชัย โดยมีเค้กขนาด 5 ปอนด์ สีครีม ขอบสีแดง มีครีบสีแดงเป็นดอกกุหลาบ 14 ดอก ตรงกลางเค้กมีรูปหน้านายทักษิณใช้ครีมสีแดงเขียนข้อความว่า Happy Birthday พณ.ทักษิณ ชินวัตร 26 ก.ค.65 ด้วยรักและศรัทธา จาก...มวลชนคนเสื้อแดง และมีตัวเลขเทียนปักเลข 37 ปี ให้เป็นเคล็ดว่ายังหนุ่มแน่น โดยอายุจริงคือ 73 ปี

 ทั้งนี้ การจัดงานเมื่อกลางดึกวันที่ 23 ก.ค. นายพายัพ ชินวัตร น้องชายนายทักษิณ พร้อมนายอนุวัฒน์

และเครือข่ายคนเสื้อแดง 20 จังหวัดภาคอีสานนั้น มีเซอร์ไพรส์เมื่อนายทักษิณโฟนอินมาพูดคุย และร่วมเป่าเค้กส่งเสียงขับร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์อวยพรวันคล้ายวันเกิด โดยนายพายัพเป็นผู้กล่าวทักทายพี่ชาย ซึ่งนายทักษิณได้กล่าวกับคนในงานว่า “ขอให้ความสุขทั้งหลายมีกับทุกท่าน มีสุขภาพ มีกำลังใจการต่อสู้รัฐบาลที่ตะแบงเก่ง ทั้งที่ประชาชนไม่เอาก็ตะแบงอยู่อย่างนี้ น่ากลัวมาก ผมคิดว่าเลือกตั้งคราวหน้า ประชาชนตัดสินใจลงโทษได้ชัดเจน ผมมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยทำได้ ปีที่แล้วพวกเราก็จัดวันเกิดให้ทุกปี ปีนี้เป็นปีสุดท้ายนะ ปีหน้าเราเจอกันที่เมืองไทยก็แล้วกัน เมื่อกลับไปจะกลับไปเยี่ยมเยือนพี่น้องประชาชนทุกจังหวัด ทุกอำเภอ” ท่ามกลางเสียงดีใจและตบมือของบรรดามวลชน

วันเดียวกัน ยังคงมีความต่อเนื่องจากการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่…) พ.ศ.… โดยนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่าง พ.ร.ป. กล่าวถึงการประชุมรัฐสภาในวันที่ 26 ก.ค. ซึ่งจะพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ต่อเนื่องว่า เหลือมาตราที่ต้องพิจารณาในวาระสองอีก 10 มาตรา เริ่มตั้งแต่มาตรา 25 ซึ่งเชื่อว่าการพิจารณาจะแล้วเสร็จและลงมติวาระสามได้ภายในวันดังกล่าว และเชื่อว่าเสียงของที่ประชุมร่วมรัฐสภาจะเห็นชอบกับเนื้อหา

นายไพบูลย์กล่าวด้วยว่า ขั้นตอนต่อไปประธานรัฐสภาต้องส่งร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาให้ความเห็นต่อเนื้อหาว่ามีข้อความใดขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ หรือมีปัญหาต่อการปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่ง กกต.ต้องทำความเห็นส่งให้สภาภายใน 10 วัน โดยเบื้องต้นเชื่อว่า กกต.จะพิจารณาในประเด็นสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ใช้จำนวน 100 คนหาค่าเฉลี่ยต่อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และยืนยันหลักการที่เสนอไว้ตั้งแต่แรกที่ทำเนื้อหาเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งเป็นเนื้อหาที่ กมธ.เสียงข้างมากเห็นชอบด้วย

นายไพบูลย์กล่าวต่อว่า เมื่อ กกต.ยืนยันเนื้อหา รัฐสภามีหน้าที่ต้องพิจารณาให้เสร็จภายใน 30 วัน ว่าจะแก้ไขตามสิ่งที่ กกต.ให้ความเห็น หรือยืนยันสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อด้วยจำนวน 500 คนหาค่าเฉลี่ย โดยใช้เสียงข้างมาก โดยเชื่อว่ารัฐสภาจะเปลี่ยนตามที่ กกต.เสนอความเห็น เพราะเป็นมิติทางกฎหมาย จากนั้นรัฐสภาส่งเนื้อหาไปยังนายกฯ เพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญกำหนดให้นายกฯ มีเวลารอไว้ 5 วันก่อนทูลเกล้าฯ ถวายร่าง พ.ร.ป. โดยช่วงเวลาดังกล่าว สมาชิกรัฐสภาสามารถเข้าชื่อเพื่อยื่นร่างส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญได้

 “การกำหนดสูตรคำนวณ ส.ส.ตาม พ.ร.ป.นั้น ต้องทำให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญที่แก้ไข โดยเฉพาะประเด็นคำว่าสัดส่วนที่สัมพันธ์กันโดยตรง ซึ่งแปลความถึงจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน ดังนั้นในมิติทางกฎหมายจะแปลงไปเป็น 500 คน ซึ่งหมายถึง ส.ส.ทั้งหมดของสภาไม่ได้ ส่วนการยื่นศาลรัฐธรรมนูญนั้น ได้เตรียมดำเนินการไว้แล้ว เบื้องต้นจะมีเอกสารประกอบคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญประมาณ 1,000 หน้า” นายไพบูลย์กล่าว

เมื่อถามถึงไทม์ไลน์ของร่าง พ.ร.ป.เลือกตั้ง หากเป็นไปตามกระบวนการของรัฐสภาโดยไม่ยื่นศาลรัฐธรรมนูญจะประกาศใช้เมื่อใด นายไพบูลย์ตอบว่า รัฐสภาโหวตวาระสามแล้วเสร็จในวันที่ 26 ก.ค. จากนั้นส่งให้ กกต.ดำเนินการ คาดว่าจะเป็นต้นเดือนสิงหาคม และหากไม่มีประเด็นปัญหาที่ต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยตามคำร้อง คาดว่าร่าง พ.ร.ป.จะประกาศใช้ได้ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2565

ด้านนายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจไทย ในฐานะ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. กล่าวถึงการประชุมรัฐสภาในวันที่ 26-27 ก.ค.ว่า การพิจารณาครั้งนี้จะขยับอะไรลำบากมาก ซึ่งพรรคยังไม่มีมติใดๆ ทั้งนั้น โดยครั้งที่แล้วพรรคโหวตหาร 100 แต่จะสูตรหาร 100 หรือ 500 พรรคไม่เกี่ยง พร้อมหมด แต่ที่โหวตหาร 100 เพราะมองว่าไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญที่มีการปรับแก้ไปแล้ว

นายบุญสิงห์ระบุว่า เมื่อสภาโหวตตาม กมธ.เสียงข้างน้อยเอาสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อแบบหาร 500 จะทำให้กระทบอีกหลายมาตรา ซึ่งอีกหลายมาตราที่กระทบใครจะเป็นคนแก้ สภาจะปรับแก้เองหรือส่งกลับมาให้ กมธ.ปรับแก้ หรือส่งให้ กกต.ปรับแก้มา เพื่อให้สอดคล้องกับมติของสภาที่เห็นตาม กมธ.เสียงข้างน้อย หากจะปรับแก้ในสภาก็ต้องว่ากันไปทีละมาตรา ซึ่งยากมาก เพราะคนตั้งกว่า 700 คน ถ้าความเห็นไม่ตรงกันอีกก็ยาว จะไม่ไปไหนเลย วันสองวันก็ไม่พอ แต่ถ้าสภาให้ กมธ.ปรับแก้มาก่อน สภาก็ต้องหยุดและให้ กมธ.ทำงาน ทั้งนี้ พอหาร 500 มีหลายคนมองว่าอาจจะขัดรัฐธรรมนูญที่ได้แก้ไขไป ซึ่งพอขัดจะเดินอย่างไร ฉะนั้นมองว่าในสองวันนี้ สภาคงจะเดินอะไรไม่ค่อยออกเท่าไหร่ ก็รอดูอยู่ว่าสภาจะเดินไปวิธีใด.