บิ๊กตู่คิดสมัครพปชร. ไม่เครียดวาระ8ปี‘ป้อม’รับ‘รวมแผ่นดิน’พรรคพันธมิตร

“ประยุทธ์” เปิดปากครั้งแรก กำลังคิดสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ย้ำตอนนี้ยังอยู่ พปชร. "บิ๊กป้อม" บอกพรรคบิ๊กน้อยเป็นพันธมิตร ปูดนายกฯ ขำไม่เครียดเรื่อง 8 ปี “ชัยวุฒิ” ลั่นยังอยู่พรรคเดิมไม่เปลี่ยน ส่วน “สมศักดิ์” เผยอย่าเพิ่งถามเพราะเร็วไป! เอนกยันตอนนี้ยังไม่มีแผนยุบพรรครวมพลัง เชื่ออนาคตร่วมงาน รทสช.ได้ เพราะมาจากรากเดียวกัน

เมื่อวันอังคารที่ 2 ส.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการอำนวยความเป็นธรรมและเร่งรัดการปฏิบัติราชการ เข้าพบวันที่ 1 ส.ค.ว่า จะพบกับใครไม่ได้เลยหรือ นายพีระพันธุ์มารายงานตามที่ได้มอบหมายให้รับผิดชอบที่ตั้งให้เป็นคณะทำงานติดตามการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ก็ได้มารายงานว่ามีผลที่ไหนอย่างไรในจังหวัดต่างๆ ที่ลงพื้นที่ไปแล้ว ส่วนการเมืองก็ไม่ได้คุยอะไรกันมากนัก เพราะท่านก็เป็นพรรคการเมืองของท่าน และไม่จำเป็นต้องมาปรึกษาอะไร  แต่ละพรรคก็มีนโยบายของตัวเองอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าพรรคดังกล่าวจะเสนอชื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ต่อ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “อ้าว ทุกพรรคการเมืองก็เป็นเรื่องของนโยบายแต่ละพรรคของเขาเอง ผมจะไปเกี่ยวข้องอะไรกับเขาใช่หรือไม่ วันนี้ก็ถือเป็นพรรคการเมืองพรรคหนึ่งที่เกิดขึ้นมาใหม่เท่านั้นเอง ในส่วนของผมก็คาดหวังว่าทุกพรรคจะช่วยกันทำให้บ้านเมืองเราสงบเรียบร้อยและมีความเจริญก้าวหน้าก็แล้วกัน ผมเองก็ให้กำลังใจกับทุกพรรคนั่นแหละ”

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า แต่ดูเหมือนพรรคดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ได้เริ่มมาตั้งแต่การตั้งชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) แล้ว พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า คำว่ารวมไทยสร้างชาติพูดในเรื่องของวาระอื่นเท่านั้นที่จำได้ว่าเราต้องรวมพลังกันในการสร้างชาติของเราให้เดินไปข้างหน้าต่างๆ ซึ่งพูดในฐานะนายกฯ เขาก็มาเอาไปตั้งเป็นชื่อพรรคการเมือง ไม่ได้ไปสั่งให้เขาตั้งชื่อพรรคนี้เสียเมื่อไหร่ และก็ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคนี้

ถามอีกว่า แล้วได้ตัดสินใจทางการเมืองหรือยังว่าจะไปอยู่กับพรรคการเมืองใด พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “จะให้ตัดสินใจอะไรล่ะ ก็วันนี้ผมก็อยู่กับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ไม่ใช่หรือ แล้วจะไปที่ไหน เขาเป็นผู้สนับสนุนให้ผมเป็นนายกฯ ใช่หรือเปล่า” เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าการเลือกตั้งสมัยหน้าก็จะยังอยู่กับพรรค พปชร.ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า “ก็ตอนนี้ก็ยังยืนยันเช่นนี้มาตลอด มีปัญหาอะไรหรือ”

เมื่อถามว่า ยังมีความเป็นไปได้ที่จะสมัครเป็นสมาชิกพรรค พปชร.อยู่ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ก็ยังคิดอยู่” ถามอีกว่าแล้วจะเข้าไปเป็นหัวหน้าพรรค พปชร.หรือไม่ในอนาคต พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ยังไม่พูด ทำไมต้องไปนั่น ไปนี่ ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าสื่อถามแบบนี้ฉันยังไม่ตอบ อยู่ที่ไหนฉันก็ทำได้”

และถามถึงความชัดเจนในการปรับ ครม. นายกฯ ตอบว่า ยังไม่คิด ไม่มีอะไรทั้งนั้น อย่าไปเขียนอะไรเรื่อยเปื่อย คิดเองเขียนเองก็เป็นอย่างนั้น

มีรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ในช่วงท้ายการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวกับ ครม.ว่า ขอบคุณที่ทำทุกอย่างด้วยความเรียบร้อย แต่ขอให้ระวังทุกอย่าง เราถูกจับตามอง สังคมยังมองอยู่ ฉะนั้นต้องทำทุกอย่างให้เรียบร้อย ใช้งบประมาณให้ถูกต้อง

ด้าน พล.อ.ประวิตร​ วงษ์สุวรรณ​ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.กล่าวถึงการเปิดพรรครวมแผ่นดินของ พล.อ.​วิชญ์ เทพหัสดิน​ ณ ​อยุธยา​ ว่าก็ตั้งพรรคแล้ว​จะทำอะไรได้​ พล.อ.วิชญ์อยากทำงานการเมืองเพื่อประเทศชาติ​ ซึ่งไม่ได้มีคำแนะนำอะไร

เมื่อถามว่า พรรครวมแผ่นดินคาดหวังว่าจะได้​ ส.ส.​ 25 เก้าอี้​ จะซ้ำซ้อนกับพรรค พปชร.หรือไม่​ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า​ ไม่รู้เขาจะเอามาจากไหนบ้าง​ ที่บอกว่าจะเอาเก้าอี้พื้นที่ภาคกลาง​ ไม่รู้​ และไม่ทราบ​ แต่ยืนยันว่า​พรรครวมแผ่นดินเป็นพรรคพันธมิตรกัน เพราะรู้จักกัน

ถามต่อว่า พรรครวมแผ่นดินจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ หรือไม่​ พล.อ.ประวิตร​กล่าวว่า​ ไปถามทางพรรคนั้นเอง

เมื่อถามว่าขณะนี้มีพรรคเกิดขึ้นใหม่ๆ มากมาย​ พรรค พปชร.ยังมั่นใจการเลือกตั้งครั้งหน้าอยู่หรือไม่​​ พล.อ.ประวิตรระบุว่า​ ก็ต้องมั่นใจ​ เพราะหากไม่มั่นใจก็คงไม่มาอยู่พรรค พปชร. และพรรคได้ตั้งขึ้นมา​ 3-4 ปี​แล้ว ส่วนการลงพื้นที่ จ.หนองคายในวันที่ 6 ส.ค.นี้​ จริงๆ แล้วไม่ได้ลงแค่หนองคาย​เท่านั้น​ เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ก็ลงพื้นที่​ จ.สกลนคร​ และไปทั่วประเทศ​ มีกำหนดการลงพื้นที่ภาคใต้​ จ.ตรังและพังงาในสัปดาห์หน้า​

ถามว่า กระแสตอบรับดีหรือไม่ พล.อ.ประวิตรย้อนว่า​ "ไม่ได้ดูภาพเหรอ​ ประชาชนมากันเต็มพื้นที่เลย"

บิ๊กตู่หัวเราะเรื่อง 8 ปี

เมื่อถามว่า กังวลกรณีการดำรงตำแหน่ง 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่กังวล และไม่เตรียมอะไร ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์หัวเราะตลอด ไม่เครียดหรอก นายกฯ เจอสื่อแล้วคงเครียดมั้ง

เมื่อถามว่า​ พี่น้อง​ 3 ป.รักกันกลมเกลียว​ใช่หรือไม่​ พล.อ.ประวิตร​กล่าวว่า​ “โหถาม” ​เมื่อสื่อถามว่าพร้อมเป็นนายกฯ ​รักษาการหรือไม่ พล.อ.ประวิตรไม่ตอบคำถามดังกล่าวก่อนเดินทางออกจากทำเนียบฯ ทันที

ขณะที่นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการพรรค พปชร.กล่าวในประเด็นการดำรงตำแหน่งนายกฯ  8 ปีว่า เป็นเรื่องของศาล และเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ ตนเป็นเพียงระดับปฏิบัติการไม่ใช่ส่วนที่คิดวางแผน ไม่กังวล ส่วนตัวนั้นเมื่อเราอยู่ในรัฐบาลก็ต้องคิดแต่สิ่งที่ดี

“มีนักวิชาการและนักกฎหมายหลายท่านที่ต่างมองคนละมุม เราก็ต้องไปชั่งน้ำหนักว่าอันไหนที่มีความเป็นไปได้สูงสุด แต่ความจริงแล้วต้องอยู่ที่ศาล ไม่ใช่อยู่ที่คนวิเคราะห์” นายสุชาติกล่าว

เมื่อถามว่า พรรค พปชร.มีชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ในบัญชีรายชื่อนายกฯ เพียงคนเดียวใช่หรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่า อย่าเพิ่งคิดไปไกลถึงขนาดนั้น

นายสุชาติยังกล่าวถึงการลงพื้นที่ จ.หนองคายในวันที่ 6 ส.ค.ว่า หนองคายถือเป็นพื้นที่ที่พรรคมีโอกาสสูง ซึ่งมี ส.ส. 4 คน แต่คงไม่ถึงขนาดยกจังหวัด เราได้แบ่งมาบ้างก็โอเคแล้ว ซึ่งเรื่องนี้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เป็นผู้ดูแลในพื้นที่อีสาน

ด้านนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร. ตอบคำถามกรณียังยึดมั่นอยู่ในพรรค พปชร.ว่า จะย้ายไปไหน เป็นรองหัวหน้าพรรค ต้องทำพรรคนี้ต่อ ไม่ใช่ผู้อยู่อาศัย เป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรค

ส่วนนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรค พปชร. ประเมินว่า หลังการเลือกตั้งครั้งหน้าขนาดของพรรค พปชร.คงไม่แตกต่างจากเดิมมากหนัก เพราะผู้บริหารพรรคและกรรมการบริหารพรรคมีความตั้งใจอย่างมาก และคนในพรรคเห็นอกเห็นใจกัน

เมื่อถามว่า นายสมศักดิ์และกลุ่มจะย้ายพรรคไปไหนหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า อย่าเพิ่งถามอย่างนี้ มันเร็วไปมาก เอาว่าวันนี้ให้เดินไปด้วยความเรียบร้อย และทุกคนจะตัดสินใจว่าในส่วนพรรคเล็กๆ ที่เกิดขึ้นมานั้นใครเหมาะกับตรงนั้นหรือไม่เหมาะกับตรงนั้น ถ้ารัฐธรรมนูญเปิดโอกาสให้เขาทำพรรคการเมืองที่เหมาะสมได้คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมาก

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีการเปิดตัวพรรคการเมืองหลายพรรคในช่วงนี้ ว่าถือเป็นสิ่งที่ดีในระบอบประชาธิปไตย เพราะประชาชนยิ่งมีทางเลือกเท่าไหร่ก็จะเป็นประโยชน์มากเท่านั้น พรรคการเมืองทุกพรรคจะได้ขยันสร้างนโยบายดีๆ มาให้ประชาชนพิจารณา ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี

เอนกชี้ตอนนี้ยังไม่ยุบรวม

นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ในฐานะหัวหน้าพรรครวมพลัง กล่าวถึงกระแสข่าวว่าไปรวมกับพรรค รทสช.ว่า ตอนนี้พรรครวมพลังกำลังเดินหน้าทำกิจกรรมทางการเมืองต่อไป และยังไม่ไปรวมกับใคร ส่วนจะรวมหรือไม่นั้น เป็นเรื่องในอนาคต ซึ่งอีกนาน ตามประสาพรรคการเมืองเราก็ต้องคิดว่า เราจะอยู่อย่างไร ตอนนี้เราถือว่าเราจะอยู่อย่างพรรคเล็กที่มีคุณภาพ และประสานทำงานในกระทรวง อว.ได้อย่างมีคุณภาพ ซึ่งเราขออยู่อย่างนี้ไปก่อน ส่วนอย่างอื่นคงต้องพิจารณาตามสถานการณ์การเมือง ซึ่งคำว่าสถานการณ์การเมืองนั้น นักการเมืองพรรคการเมืองย่อมรู้ว่ามีความสำคัญ

ผู้สื่อข่าวถามถึงสถานะของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ปรึกษาพรรครวมพลังในปัจจุบัน นายเอนกกล่าวว่า นายสุเทพยืนยันว่าอยู่กับพรรครวมพลัง ส่วนนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ที่กำลังจะไปเป็นเลขาธิการพรรค รทสช.นั้น เขาก็คิดอะไรบางอย่างที่เหมือนกัน บางอย่างที่ไม่เหมือนกัน พ่อลูกบางครั้งก็คิดอะไรไม่เหมือนกัน ต่างฝ่ายต่างก็เดิน คิดว่าการตัดสินใจของนายเอกนัฏก็มีเหตุผล หรือตัดสินใจแบบนายสุเทพที่จะทำพรรคต่อไปก็มีเหตุผล และเวลาจะเป็นเครื่องบอกว่าใครคิดเหมาะสมกับสถานการณ์

ถามอีกว่า ปัจจัยหลักของพรรครวมพลังในการตัดสินใจอยู่หรือรวมพรรคคืออะไร นายเอนกกล่าวว่า ต้องดูหลายอย่าง แต่ที่เห็นชัดๆ ในช่วงนี้คือจะหาร 100 หรือหาร 500 เพราะถ้าใช้ 100 หารก็จะเกิดความลำบากมากขึ้น ถ้าใช้ 500 หารก็ค่อยยังชั่ว แต่เราก็ต้องค่อยๆ ดูไปไม่วูบวาบ

เมื่อถามว่า จะถือโอกาสจับมือเป็นพันธมิตรกับพรรค รทสช.เลยหรือไม่ นายเอนกกล่าวว่า คงมีมิตรภาพกันอยู่แล้ว เพราะคนส่วนหนึ่งมีพื้นฐานมาจากการร่วมกันทำงาน ไม่ว่าจะพรรคประชาธิปัตย์ หรือนายพีระพันธุ์กับนายสุเทพก็เคยอยู่พรรคประชาธิปัตย์ เป็นต้น ดังนั้นก็ถือว่าเป็นมิตรกัน

วันเดียวกัน ที่โรงแรมวัฒนาปาร์ค อำเภอเมือง จ.ตรัง นายสายัณห์ อินทรภักดิ์ หัวหน้าพรรคคลองไทย พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหาร จัดประชุมใหญ่เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. 58 เขตของ 14 จังหวัดภาคใต้ โดยมีผู้สมัคร ส.ส.พรรคคลองไทย 14 จังหวัดภาคใต้ทั้ง 58 เขต มาปรากฏตัวพร้อมผู้บริหารพรรคจากทั่วประเทศ

นายสายัณห์กล่าวว่า พรรคคลองไทยเป็นพรรคเดียวที่มีนโยบายหารายได้เข้าประเทศอย่างมหาศาลจากโครงการคลองไทย หรือคอคอดกระเดิม โดยโครงการคลองไทยจะสร้างรายได้ให้กับประเทศปีละ 5.5 ล้านล้านบาทถึง 20 ล้านล้านบาท สามารถนำมาใช้หนี้ให้ประเทศไทยและดำเนินงานตามนโยบายของพรรค เช่น การเพิ่มงบประมาณให้กระทรวง กรม ต่างๆ การพัฒนาแหล่งน้ำทั่วประเทศให้สามารถระบายน้ำได้ในช่วงหน้าฝนและกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้ง การเรียนฟรี การยกเลิกหนี้ กยศ. การรักษาฟรี  การลดราคาน้ำมัน การให้บำนาญคนไทย โดยการสร้างโครงการคลองไทยเพียงครั้งเดียวจะทำให้ประเทศไทยมีรายได้ที่มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนตลอดไป

 “พรรคคลองไทยจะเป็นพรรคการเมืองใหญ่ และจะส่งผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 400 เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน” นายสายัณห์ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เศรษฐา' เสียใจเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าเสียชีวิตอีกราย

นายกฯ เสียใจเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าเสียชีวิต มอบหมายผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ดูแลจัดการงานศพให้สมเกียรติ และดูแลครอบครัวของผู้เสียชีวิตให้ดีที่สุด

รัฐบาลตีปี๊บผลงาน 'เศรษฐา' ดันส่งออกทุเรียนไทยโต!

รัฐบาลพร้อมส่งเสริมการส่งออกทุเรียนไทยไปจีนต่อเนื่อง หลังราคาทุเรียนเกรดส่งออกสูงถึง 160 บาท/กิโลกรัม ผลักดันการขนส่งผลไม้ทางบก 16 ด่าน รองรับฤดูผลไม้