ศก.ไทยยังโตได้2.75-3.5% ท่องเที่ยว-คนละครึ่งช่วยส่ง

กกร.มั่นใจเศรษฐกิจยังโตได้ท่ามกลางวิกฤต คงไว้ที่ 2.75-3.5% แต่ปรับเป้าส่งออกและอัตราเงินเฟ้อเพิ่ม ชี้ท่องเที่ยวฟื้นตัว-คนละครึ่งเฟส 5 แรงส่งในช่วงที่เหลือของปี บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมีลุ้น! "จุรินทร์" สั่งกรมการค้าภายในดูความสมดุลปรับน้อยที่สุดเท่าที่ทำได้

เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประจำเดือน ส.ค.2565 โดยมีนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เป็นประธานร่วมในการประชุมว่า ที่ประชุมมีมุมมองเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกว่ากำลังชะลอตัวชัดเจนขึ้น เห็นได้จากตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาส 2 โดยเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาหดตัวต่อเนื่องจากไตรมาสแรก และจีนขยายตัวต่ำกว่าประมาณการค่อนข้างมาก

ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจโลกลงสู่ 3.2% ในเดือน ก.ค. จาก 3.6% ในเดือน เม.ย. จากผลกระทบสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อ ภาวะเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงจนกระทบครัวเรือนและภาคธุรกิจ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วของธนาคารกลาง และผลข้างเคียงต่อห่วงโซ่อุปทานจากมาตรการ Zero COVID ที่เข้มงวดของจีน เศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอลงจะส่งผลต่อการส่งออกของไทยในช่วงที่เหลือของปี ซึ่งตัวเลขการส่งออกเดือน มิ.ย. ชี้ให้เห็นว่าการส่งออกไปประเทศเศรษฐกิจหลักเริ่มแผ่วลงบ้างแล้ว

"เศรษฐกิจในประเทศมีแนวโน้มได้รับแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น โดยอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 5.6% ซึ่งสูงกว่าภาวะปกติที่ 1-3% มาก และคาดว่าจะเร่งตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกยังอยู่ในระดับสูง รวมทั้งการปรับขึ้นราคาสินค้าที่เริ่มกระจายตัวเป็นวงกว้างมากขึ้น นอกจากนั้นหากมีการปรับขึ้นค่าไฟในงวด ก.ย.-ธ.ค. ก็จะเป็นแรงกดดันเงินเฟ้อให้เร่งตัวขึ้นได้อีก ซึ่งเงินเฟ้อที่สูงขึ้นจะกระทบอำนาจซื้อภาคครัวเรือนและต้นทุนของภาคธุรกิจ" นายผยงกล่าว

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุม กกร.ประเมินเศรษฐกิจไทยยังโตได้ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัว โดยคงประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2565 ซึ่งจะขยายตัวได้ในกรอบ 2.75% ถึง 3.5% ขณะที่มูลค่าการส่งออกคาดว่ายังขยายตัวได้ในกรอบ 6.0% ถึง 8.0% จากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะขยายตัวได้ที่ 5.0-7.0% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ในกรอบ 5.5% ถึง 7.0% เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ก่อนหน้าที่คาดว่าจะขยายตัวที่ 5.0-7.0%

ทั้งนี้ การท่องเที่ยวและมาตรการภาครัฐเป็นแรงส่งเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปี การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวชัดเจนขึ้น โดยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องหลังยกเลิกมาตรการ Thailand Pass คาดว่ามีโอกาสแตะระดับ 7-8 ล้านคน ประกอบกับยังมีแรงหนุนกำลังซื้อจากมาตรการภาครัฐ โดยเฉพาะมาตรการคนละครึ่งระยะที่ 5 ที่คาดว่าจะกระตุ้นการใช้จ่ายได้ประมาณ 3.8 หมื่นล้านบาท หรือราว 0.2% ของ GDP ซึ่งจะช่วยหนุนการเติบโตของเศรษฐกิจที่ยังเปราะบางท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงจากภายนอกประเทศและภาวะเงินเฟ้อที่กระทบอำนาจซื้อ

นายผยงกล่าวว่า ประเด็นอื่นๆ ที่หารือในการประชุม กกร. อาทิ แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของประเทศภายหลังธนาคารแห่งประเทศไทยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายและค่าธรรมเนียม FIDF ที่ประชุม กกร.เห็นว่ามีความสอดคล้องกับปัจจัยด้านเศรษฐกิจ รวมถึงแนวทางของนโยบายการคลังและความจำเป็นในการรักษาสมดุลด้านนโยบายในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยกำลังเพิ่มขึ้นทั่วโลก

วันเดียวกัน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์รายการขีดเส้นใต้เมืองไทย ทางไทยรัฐทีวี ถึงเรื่องราคาสินค้าว่า กำลังดูอยู่ เช่น มาม่า ไวไว ยำยำ อั้นมาเยอะแล้ว ขอขึ้นมาซองละ 2 บาท จาก 6 บาทเป็น 8 บาท ตอนนี้กรมการค้าภายในช่วยดูอยู่ว่าจะทำอย่างไรให้สมดุลที่สุด ปรับน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ จนผู้ประกอบการไม่ถึงกับขาดทุนและเลิกผลิตจะกระทบของขาด ส่วนน้ำมันปาล์มขวดตอนนี้ราคาลดลงมาเยอะ จาก 70 บาท/ขวด เหลือ 53-55 บาท/ขวด และอาจมีปรับลดลงไปอีก ปุ๋ยบางตัวก็เริ่มปรับลดลง เช่น ยูเรีย แต่บางตัวยังอยู่ในระดับที่สูงอยู่ เพราะราคาก๊าซธรรมชาติยังไม่ปรับลดลงมามาก ซึ่งตอนนี้กำลังจะเริ่มโครงการพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน Lot ที่ 20 จะลดราคา 30-50% เริ่มปลายสัปดาห์นี้หรือต้นสัปดาห์หน้า ทั้งกรุงเทพฯ ปริมณฑล และทุกจังหวัดทั่วประเทศ เป็นคาราวานเคลื่อนที่ขายของถูก.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง