เปิดประเทศ7เดือน นทท.ทะลัก3ล.คน โกย1.57แสนล้าน

นายกฯ พอใจหลังผ่อนคลายมาตรการ-เปิดประเทศ 7 เดือนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยกว่า 3 ล้านคน สร้างรายได้ 1.57 แสนล้านบาท สั่งประเมินภาวะและแนวโน้มเศรษฐกิจไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อกำหนดนโยบายที่สอดคล้องเท่าทันเป็นประโยชน์มากที่สุด

เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พอใจนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการและเปิดประเทศ โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-31 กรกฎาคม 2565 พบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยสะสมอยู่ที่ 3,150,303 คน สามารถสร้างรายได้ 1.57 แสนล้านบาท โดยประเทศที่เดินทางมาไทย 5 อันดับแรก ได้แก่ มาเลเซีย 425,289 คน, อินเดีย 333,973 คน,  สิงคโปร์ 183,716 คน, สหราชอาณาจักร 161,780 คน และสหรัฐอเมริกา 146,891 คน ตามลำดับ

ทั้งนี้ ในส่วนของรายงานกระทรวงการคลัง (กค.) เกี่ยวกับภาวะและแนวโน้มเศรษฐกิจไทยประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2565 (เดือนเมษายน-มิถุนายน 2565) ของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในเรื่องของการประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2565 อยู่ที่ 6 ล้านคน สูงกว่าประมาณการเดิมที่ 5.6 ล้านคน เนื่องจากการเปิดประเทศของไทยและต่างประเทศเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ และในปี 2566 คาดการณ์จำนวนอยู่ที่ 19 ล้านคน โดยคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากการคลี่คลายของสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก

นายธนกรกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม แม้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2565 คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 6.2 โดยสูงเกินกรอบเป้าหมายตลอดปี 2565 และคาดว่าในปี 2566 จะปรับลงเข้าสู่กรอบเป้าหมายอยู่ที่ร้อยละ 2.5 ทั้งนี้ กนง.ประเมินว่าการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อเป็นผลจากแรงกดดันด้านอุปทานเป็นสำคัญ รวมทั้งการส่งผ่านต้นทุนภายในประเทศที่สูงขึ้นและกระจายตัวในหมวดสินค้าที่หลากหลายมากขึ้น ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนปี 2565 คาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 4.9 จากการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจและภาคบริการ ทั้งนี้ ในปี 2566 คาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 3.6 จากสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลายและการจ้างงานที่ทยอยฟื้นตัวตามภาคการท่องเที่ยว

“นายกรัฐมนตรีสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประเมินภาวะและแนวโน้มเศรษฐกิจไทยอย่างต่อเนื่อง โดยให้ประเมินควบคู่ไปกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของโลก เพื่อจักได้กำหนดนโยบายประเทศให้เท่าทัน สอดคล้องกับบริบทการเปลี่ยนแปลง ให้ประเทศและประชาชนไทยได้ประโยชน์สูงสุด ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าจากตัวเลขการคาดการณ์ต่างๆ ประเทศเศรษฐกิจไทยยังคงได้รับการคาดการณ์ว่าจะขยายตัวต่อเนื่อง และมีโอกาสฟื้นตัวดี ซึ่งแม้ว่าการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ รัฐบาลพยายามอย่างยิ่งที่จะแก้ไขปัญหา สนับสนุนด้านที่มีศักยภาพ ทั้งนี้ เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน” นายธนกรกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทบ.เดือดจัด ซัด‘เฮงรัตนา’ จอมลวงโลก

โฆษก ทบ.จี้นานาชาติจับตา “เฮง รัตนา” ผอ. CMAC กัมพูชา เผยแพร่ข้อมูลเท็จ บ่อนทำลายความไว้วางใจและสันติภาพในภูมิภาค ใช้จินตนาการปั้นแต่งเรื่องราวเพื่อหลอกลวงสังคมโลก

‘ราชินี’แรงบันดาลใจคนรุ่นใหม่

ในหลวงพระราชทานถ้วยรางวัลนักกีฬาเรือใบ “ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า” ครั้งที่ 37 พระราชินีทรงแข่งเรือใบรอบชิงชนะเลิศ ทำให้เรือวายุมีคะแนนดีที่สุดในการแข่งขัน

‘อนุทิน’ล่องลงใต้ ขออภัยผมผิดเอง

"อนุทิน" นำคณะ ครม.ลงใต้อีกรอบ เตรียมตั้งกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติส่วนหน้า ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12

พท.ขึงขังซักฟอก อ้างเหตุเพราะมีคนตายปากกล้าขาสั่นท้าไม่กลัวยุบสภา

พรรคเพื่อไทยจะเอาทุกอย่าง ซักฟอกดิสเครดิตรัฐบาลก่อนเลือกตั้ง บีบพรรคส้มตัดสินใจ เชื่อ "อนุทิน" ไม่ยุบสภา ไม่กระทบรัฐธรรมนูญ "สรวงศ์" ลั่น

นายกฯ สั่งตั้ง 'กองบัญชาการปภ.แห่งชาติส่วนหน้า' ลดความรุนแรงน้ำท่วมใต้เหลือระดับ​ 3

นายก​ฯ ขอบคุณ​ทุกภาคส่วน​ร่วมแก้ปัญหาน้ำท่วมใต้​ บอกความทุ่มเททราบถึงพระเนตร​พระกรรณ ขอกรมโยธาฯเร่งสำรวจความเสียหายบ้านเรือนเยียวยาไม่ใช่รายหัว​ พร้อมกำชับ​ สธ.​ ดูแลสุภาพจิต -​โรคติดต่อ​ สั่ง​ ตั้งกองบัญชาการและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติส่วนหน้า หลังลดระดับความรุนแรงเหลือระดับ​ 3 มอบ ‘ศักดิ์ดา’ บัญชาการพื้นที่

นายกฯ ปฏิเสธตอบปมนายก อบจ.สงขลาด้อยค่า อส.-คนไทยบาดเจ็บสู้รบเมียนมา

นายกฯปฎิเสธให้สัมภาษณ์กรณี นายก อบจ.หาดใหญ่ กล่าวด้อยค่า อส. และกรณีคนไทยในแม่สอดบาดเจ็บจากการสู้รบในเมียนมา