ชงศบค.ขอเปิดผับถึงตี4 ในโซนนิ่งพื้นที่ท่องเที่ยว

ยอดป่วยหนัก-โคม่าจาก "โควิด" เริ่มลดลง แต่ยอดดับยังสูง 35 ราย ป่วยใหม่ยังทรงตัว เตรียมเฮ! "พิพัฒน์" จ่อเสนอ ศบค. ขอเปิดผับยาวถึงเวลา 04.00 น. อ้างเพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวต่างชาติ ข้าวสาร บางลา ป่าตอง พัทยา อ่าวนาง เขาหลัก พังงา หัวหิน สมุย และเชียงใหม่ ติดโผ

เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2565 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด-19 ประจำวัน ว่า วันนี้ผู้ป่วยรายใหม่ทั้ง RT-PCR และ ATK 2,316 ราย สะสม 4,614,057 ราย หายป่วย 2,076 ราย สะสม 4,561,023 ราย เสียชีวิต 35 ราย สะสม 31,730 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 21,304 ราย อยู่ รพ.สนามและอื่นๆ 10,136 ราย และอยู่ใน รพ. 11,168 ราย จำนวนนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 919 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 463 ราย อัตราครองเตียงระดับ 2-3 อยู่ที่ 15.5%

ทั้งนี้ มีรายงานผู้ติดเชื้อในเรือนจำ 10 ราย แต่ไม่มีผู้ติดเชื้อเดินทางจากต่างประเทศ ภาพรวมผู้ป่วยเฉลี่ยรายวันเริ่มทรงตัว ขณะที่ผู้ป่วยอาการหนักและใส่ท่อช่วยหายใจเริ่มลดลง ส่วนผู้เสียชีวิตยังสูงเกิน 30 ราย แต่มีแนวโน้มทรงตัว

ผู้เสียชีวิต 35 ราย มาจาก กทม. 6 ราย, สมุทรปราการ นครราชสีมา ขอนแก่น เชียงใหม่ จังหวัดละ 3 ราย สุโขทัย ชลบุรี ราชบุรี เพชรบุรี อุทัยธานี จังหวัดละ 2 ราย และสกลนคร เลย สงขลา สตูล ภูเก็ต ระยอง และตราด จังหวัดละ 1 ราย โดยผู้เสียชีวิตเป็นชาย 22 ราย และหญิง 13 ราย อายุ 1-91 ปี อายุเฉลี่ย 71 ปี เป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปและมีโรคเรื้อรัง 94%

การฉีดวัคซีนโควิด-19 วันที่ 10 ส.ค. 2565 ฉีดได้ 46,799 โดส สะสม 142,056,749 โดส แบ่งเป็นเข็มแรก 57,181,163 โดส คิดเป็น 82.2%, เข็มสอง 53,581,538 โดส คิดเป็น 77% และเข็มสามขึ้นไป 34,003 โดส สะสม 31,294,048 โดส คิดเป็น 45% สำหรับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ฉีดเข็มสามแล้ว 6,320,245 โดส คิดเป็น 49.7% ส่วนเด็กอายุ 5-11 ปี ฉีดเข็มแรก 3,269,655 โดส คิดเป็น 63.5% และเข็มสอง 2,335,985 โดส คิดเป็น 45.4%

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ได้เดินหน้าเสนอให้ที่ประชุม ศบค. พิจารณาขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงในพื้นที่ควบคุม (โซนนิ่ง) ตามเมืองท่องเที่ยวหลัก ถึงเวลา 04.00 น. จากปัจจุบันเปิดให้บริการได้ถึง 02.00 น. โดยขอย้ำว่าไม่ใช่การขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงแบบสะเปะสะปะไปในทุกพื้นที่ แต่เป็นการเปิดเพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เช่น ยุโรป และตะวันออกกลาง ซึ่งเริ่มกินมื้อค่ำเวลาประมาณ 22.00 น. กว่าจะกินเสร็จและเริ่มดื่มก็ตอนเที่ยงคืนกว่า พอเริ่มสนุกก็ถึงเวลาปิดสถานบันเทิงแล้ว ทั้งที่ยังอยากกินดื่มต่อ จึงไม่ตอบความต้องการของนักท่องเที่ยวนัก

"ในต่างประเทศมีสถานบันเทิงเปิดให้บริการนานกว่า 02.00 น. ยกตัวอย่างคนไทยเอง เมื่อออกไปเที่ยวต่างประเทศอยากเที่ยวให้เต็มที่มากที่สุดเช่นกัน จึงไม่อยากให้กังวลกับแนวคิดนี้ และอยากสื่อไปถึงกลุ่มต่างๆ ที่ออกต่อต้านเรื่องนี้ ว่าแม้สถานบันเทิงจะปิดตามกำหนด คนก็ซื้อไปนั่งดื่มต่ออยู่ดี"

นายพิพัฒน์กล่าวต่อไปว่า การจัดโซนนิ่งเป็นสิ่งสำคัญ ภายใต้พื้นฐานสำคัญคือต้องไม่รบกวนชาวบ้าน มีการป้องกันไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้คนที่อาศัยในพื้นที่นั้นๆ เพราะฉะนั้นเราควรจะทำเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องถูกต้อง เพื่อเซฟชีวิตนักท่องเที่ยว โดยทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะพยายามผลักดันให้เรื่องนี้เกิดขึ้นให้ได้ภายในปี 2565 โดยจะนำร่องโซนนิ่งขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึงเวลา 04.00 น. ในพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติไปเที่ยวจำนวนมาก เช่น ถนนข้าวสาร กรุงเทพฯ ถนนบางลา หาดป่าตอง ภูเก็ต วอล์กกิง สตรีท พัทยา อ่าวนาง กระบี่ เขาหลัก พังงา หัวหิน สมุย และเชียงใหม่

ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.,พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย รอง ผบช.ก, พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ., นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติงานกรณีตรวจค้นชุดตรวจโควิด-19 ปลอม หลายยี่ห้อ มูลค่ากว่า 2,000,000 บาท

พล.ต.ท.จิรภพเปิดเผยว่า ร่วมกับเจ้าหน้าที่ อย. เข้าทำการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายซึ่งเป็นสถานที่ผลิตและจัดเก็บชุดตรวจ ATK ปลอม จำนวน 2 จุด จุดที่ 1 อาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.นราภิรมย์ อ.บางเลน จ.นครปฐม, จุดที่ 2 บ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.บางเขน อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นสถานที่เก็บชุดตรวจ ATKปลอม เพื่อรอกระจายสินค้า และผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์อื่น รวมจำนวน 12 รายการ รวมมูลค่าของกลางกว่า 2,000,000 บาท จึงตรวจยึดของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ.ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ด้านนายแพทย์ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา  กล่าวว่า ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการจับกุมผู้ลักลอบผลิตและขายชุดตรวจ ATK ปลอม โดยมีการนำยี่ห้อและเลขที่ได้รับอนุญาต อย. ของผู้อื่นมาใช้ ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง