โพลแนะดับไฟใต้ ลดช่องว่าง-เจรจา ‘เต้’ชงยุบกอ.รมน.

ซูเปอร์โพลเผย ปชช.สลดหดหู่สงสารผู้บริสุทธิ์ที่บาดเจ็บสูญเสียจากการใช้ความรุนแรง พร้อมประณามขบวนการก่อการร้าย ชี้ช่องสางไฟใต้ลดช่องว่างความสัมพันธ์ "รัฐ-ประชาชน"  ควบคู่เจรจา "ส.ส.เต้" เปิดตัวผู้สมัคร 3จังหวัด ชู 4 นโยบายดับไฟใต้เลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถอนกำลังส่วนเกินออกจากพื้นที่  ยุบ กอ.รมน.

เมื่อวันอาทิตย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง ความสงบสุขจังหวัดชายแดนใต้ กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพ ทั้งในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และนอกพื้นที่ทั่วประเทศ จำนวน 1,200 ตัวอย่าง แบ่งเป็นประชาชนสามจังหวัดชายแดนใต้ 600 ตัวอย่าง และประชาชนทั่วไปนอกพื้นที่ 600 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 18-20 สิงหาคม พ.ศ.2565 ที่ผ่านมา พบว่า ส่วนใหญ่ทั้งประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ร้อยละ 90.9 และประชาชนทั่วไปนอกพื้นที่ร้อยละ 91.8 รู้สึกสลดหดหู่  เสียใจ สงสารและเห็นใจพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ด้วยกันที่บาดเจ็บและสูญเสียจากการใช้ความรุนแรง

นอกจากนี้ยังพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 88.7 ของประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ และประชาชนทั่วไปร้อยละ 90.6 ไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงสร้างความแตกแยกจากกลุ่มผลประโยชน์ในพื้นที่ ประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดส่วนใหญ่หรือร้อยละ 88.4 และประชาชนทั่วไปร้อยละ 89.2 ตำหนิประณาม ขบวนการก่อการร้ายที่ใช้ความรุนแรง สร้างความกลัว จำกัดเสรีภาพในการใช้ชีวิต ประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดร้อยละ 85.6 และประชาชนทั่วไปร้อยละ 87.8 ห่วงผลกระทบทางเศรษฐกิจ ซ้ำเติมปัญหาปากท้อง

ประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดร้อยละ 81.7 และประชาชนทั่วไปร้อยละ 82.3 ระบุเป็นขบวนการสมประโยชน์การเมืองท้องถิ่นและการเมืองระหว่างประเทศ ที่ได้ประโยชน์ต่ออำนาจและผลประโยชน์ ประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดร้อยละ 72.0 และประชาชนทั่วไปร้อยละ 91.4 สงสาร เห็นใจ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ในขณะที่ประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดร้อยละ 64.9 มีสัดส่วนน้อยกว่าประชาชนทั่วไปร้อยละ 86.1 รู้สึกกลัว ไม่ปลอดภัยและถูกจำกัดเสรีภาพในการใช้ชีวิต ทั้งการเดินทาง การติดต่อสื่อสารและการพัฒนาพื้นที่

อย่างไรก็ตาม 5 อันดับสาเหตุความไม่สงบสุขใน 3 จังหวัด พบมุมมองที่แตกต่างกันระหว่างประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัด ร้อยละ 84.7 กับประชาชนทั่วไปร้อยละ 80.2 ระบุเป็นขบวนการอาชญากรรมค้ายาเสพติด ค้ามนุษย์ ค้าอาวุธ เรียกค่าคุ้มครอง เทียบกับสาเหตุความแตกต่างทางความคิด ขบวนการแบ่งแยกดินแดน พบว่าประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัด ร้อยละ 47.5 เทียบกับประชาชนทั่วไปร้อยละ 85.1

นอกจากนี้ ประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัด ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 83.5 และประชาชนทั่วไปร้อยละ 74.6 ระบุสาเหตุ เป็นเพราะความหละหลวม ล่าช้าในการรับมือเหตุความไม่สงบ ไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ อันดับถัดมาคือ ประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัด ร้อยละ 71.2 และประชาชนทั่วไปร้อยละ 75.9 ระบุช่องว่าง ความเหินห่าง ไม่วางใจกันระหว่างรัฐกับประชาชนในพื้นที่ ในขณะที่ ประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัด ร้อยละ 50.4 และประชาชนทั่วไปร้อยละ 63.8 ระบุสาเหตุมาจากปัญหาขัดแย้งทางการเมืองและผลประโยชน์ของกลุ่มผู้นำท้องถิ่นที่จำกัดความเจริญในพื้นที่เพื่อให้ง่ายต่อการปกครอง

ที่น่าพิจารณาคือ แนวทางเสริมสร้างความสงบสุขในพื้นที่ 3 จังหวัด พบว่า ทั้งประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัด ร้อยละ 82.9 และประชาชนทั่วไปร้อยละ 84.6 ระบุภาครัฐจับกุมคนร้ายผู้ก่ออาชญากรรมนำตัวมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรม และประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัด ร้อยละ 81.8 และประชาชนทั่วไปร้อยละ 82.5 ระบุรวดเร็วฉับไวระงับเหตุ นอกจากนี้ ประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัด ร้อยละ 81.4 และประชาชนทั่วไปร้อยละ 85.7 ระบุทำงานเชิงรุก ทุกฝ่ายร่วมมือป้องกันเหตุ

ที่น่าสนใจคือ ประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัด ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 80.0 และประชาชนทั่วไปร้อยละ 84.4 ระบุทุกภาคส่วนควรใช้กิจกรรมสัมพันธ์ เน้นความหลากหลาย เข้าถึงทุกกลุ่มวัย ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน ลดช่องว่างกระชับความสัมพันธ์ รัฐ ประชาชน และประชาชนกับประชาชน ผ่านกิจกรรมเศรษฐกิจท่องเที่ยว การศึกษา กีฬา เทคโนโลยีโซเชียลมีเดีย ศาสนา และความมั่นคง เป็นต้น ส่วนเรื่องการเจรจาต่อรองกับขบวนการ มีประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัด ไม่ถึงครึ่งหรือร้อยละ 47.8 แต่ประชาชนทั่วไปร้อยละ 62.9 ระบุควรเจรจาต่อรองกับขบวนการ

ที่โรงแรมรีเวอร์ อ.เมืองฯ จ.ปัตตานี พรรคไทยศรีวิไลย์ นำโดยนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือเต้ 007 ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อมด้วยเลขาฯ พรรค  โฆษกพรรค ได้ร่วมประชุมกับสมาชิกพรรคไทยศรีวิไลย์ ชี้แจงการทำงานของพรรคไทยศรีวิไลย์ตลอดระยะเวลาที่ปฏิบัติงานในสภา พร้อมทั้งร่วมกันเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จ.ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส โดยมีสโลแกน เลือกสงบ จบที่ไทยศรีวิไลย์ พร้อมชูนโยบายพรรคในการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

นายมงคลกิตติ์เปิดเผยว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้า หนึ่งในนโยบายหลักของพรรคในการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย 1.ให้รัฐบาลยกเลิก พ.ร.ก ฉุกเฉิน โดยเปลี่ยนใช้กฎหมายแบบปกติเหมือนกับจังหวัดอื่นๆ ซึ่งหมายความว่าอำนาจในการจับ 30 วัน โดยที่ไม่ต้องขอหมายศาล หรือหมายจับจะไม่มี เพราะว่าบางคนอาจจะทำความผิดจริง แต่กรณีอื่นกลับถูกยัดข้อหา 2.หากพรรคไทยศรีวิไลย์ได้ร่วมรัฐบาลจะเสนอให้รัฐบาลถอนกำลังทหารส่วนเกินออกจากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้คงกำลังทหารเหมือนกับจังหวัดอื่นๆ 3.จะเสนอแก้ไข ป.วิ อาญา เรื่องการสืบสวนสอบสวน ซึ่งเดิมที่เป็นพนักการสืบสวนเชิงเดียว โดยจะเพิ่มเงื่ยนไข สำหรับผู้ที่กระทำความผิดจะต้องมีตัวแทนคณะกรรมการอิสลาม ส่งตัวแทนไปร่วมการสืบสวนสอบสวนด้วย 4.การคืนอาชีพให้กับประชาชนโดยไม่มีการผูกขาด โดยจะแก้ไขกฎหมายให้มีความผิดเหมือนเดิมจะต้องกำหนดปริมานว่ากี่เปอร์เซ็นต์ ซึ่งต้องมีสัดส่วนคนในพื้นที่ด้วย

นายมงคลกิตติ์กล่าวด้วยว่า ส่วนกอ.รมน.นั้น ก็ควรที่จะยุบ เมื่อก่อนจะเล็กกว่านี้ แต่วันนี้มีมากเกินไป เอานายพลที่เกษียณเข้ามากันเยอะ เอานายพลที่ตำแหน่งลอยก็เอามาใส่ใน กอ.รมน. อีกทั้งตำแหน่งนายพลมีเยอะเกินไป มีทั้งค่าน้ำมัน 3-4 หมื่นบาท ก็กลายเป็นเงินเดือนเกือบแสนห้า ก็เอาเข้ามาอยู่ใน กอ.รมน. ซึ่งถ้าไม่มีความจำเป็นก็ต้องยุบ กอ.รมน. เพราะดูแล้วซ้ำซ้อนกันกับกองทัพภาค อีกทั้งเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณ สู้เอางบประมาณส่วนนี้ไปซื้อเรือดำน้ำและเครื่องบินรบไม่ดีกว่าเหรอ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง