เริ่มนับปี2557ไม่ได้ วิษณุปูดคำชี้แจงปมนายกฯ/บิ๊กตู่คืนรถกันกระสุน

“วิษณุ” การันตีคำชี้แจงปม 8 ปีนายกฯ ฟังขึ้น นับหนึ่งปี 57 ไม่ได้ “บิ๊กป้อม” ตีมึนไม่รู้เพจเชียร์โผล่ “บิ๊กตู่” คืนรถประจำตำแหน่งผู้นำ รองนายกฯ ปัดตอบส่งสัญญาณอะไร “รมว.กลาโหม” ฟิตตรวจน้ำกรุงเก่า แจงดรามาไม่ทักแฟนคลับ เป็นระบบ รปภ. กระจกรถเปิดไม่ได้ทุกบาน

เมื่อวันที่ 2 กันยายน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวทีมกฎหมาย พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ส่งคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญกรณีคำร้องให้วินิจฉัยระยะเวลาดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปีว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริงและยื่นไปเมื่อวันที่ 1 ก.ย.โดยศาลให้เวลา 15 วัน แต่ฝ่ายกฎหมายนายกฯ ใช้เวลา 7 วัน ตนได้เห็นเนื้อหาในคำชี้แจงแล้ว ส่วนรายละเอียดเป็นอย่างไรไม่สามารถนำความลับมาเปิดเผยได้ ซึ่งไม่มีอะไร เขากล่าวหาว่าอะไรทางนี้ก็แก้ไปทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากเห็นเนื้อหาคำชี้แจงแล้ว ฟังขึ้นหรือไม่ นายวิษณุตอบว่า คิดว่าฟังขึ้น ตอบไปทุกประเด็นและตรงกับใจ และคิดว่าถ้าเปิดเผยออกมาคนที่เห็นจะรู้ว่าชี้แจงขึ้น ต่อข้อถามที่ว่า คำชี้แจงได้ระบุหรือไม่ว่า การนับอายุ 8 ปีควรเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ นายวิษณุระบุว่า ไม่ชี้ชัด การชี้ชัดเป็นเรื่องของศาล แต่ชี้ชัดอย่างเดียวว่าไม่ใช่วันที่ 24 ส.ค.57 แต่บอกไม่ถูกจะนับเมื่อไหร่

เมื่อถามว่า ชี้แจงไปเช่นนี้ทำให้มั่นใจว่า พล.อ.ประยุทธ์จะสามารถกลับมาเป็นนายกฯ ต่อได้ใช่หรือไม่  รองนายกฯ ตอบว่า ไม่มั่นใจ แต่ชี้แจงไปได้เท่านั้น ศาลรัฐธรรมนูญจะว่าอย่างไรแล้วแต่ศาล ในส่วนของ พล.อ.ประยุทธ์ถือว่าชี้แจงจบแล้ว เมื่อถามอีกว่า กรณีชี้แจงไปแล้วศาลสามารถให้ชี้แจงเพิ่มได้อีกหรือไม่ รองนายกฯ  กล่าวว่า มีเมื่อดูจากในอดีต เช่นกรณีเรื่องบ้านพักนายกฯ ที่ชี้แจงไปแล้ว ก็มีการถามประเด็นเพิ่มเติมมา

ถามว่า ฝ่ายกฎหมายของ พล.อ.ประยุทธ์ยื่นคำชี้แจงไปแล้ว ศาลสามารถวินิจฉัยได้เลยใช่หรือไม่ นายวิษณุ บอกว่าไม่ทราบ เนื่องจากทราบว่าศาลได้ให้นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)  และนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา และอดีตเลขานุการ กรธ.ยื่นคำให้การด้วยเช่นกันภายใน 15 วัน จึงไม่ทราบว่าศาลจะใช้เวลาพิจารณาเท่าใด เมื่อถามย้ำว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้ส่งสัญญาณมาหรือไม่ว่าจะมีคำวินิจฉัยออกมาเมื่อไหร่ นายวิษณุปฏิเสธว่าไม่มี ศาลไม่มีหน้าที่ต้องมานั่งบอก ข้อสำคัญเขารอคำให้การของนายมีชัยและนายปกรณ์อยู่

นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า เรื่องนี้รัฐบาลไม่ได้กังวล เพราะถือเป็นเรื่องที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมที่ต้องปฏิบัติตาม หากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินมาพร้อมปฏิบัติตามคำสั่งและคำวินิจฉัย ไม่มีปัญหา 

นายอนุชายังกล่าวถึงบรรยากาศการเมืองขณะนี้ว่า  เรื่องการเลือกตั้งคงเป็นไปตามกำหนดคือในเดือน  มี.ค.66 เป็นไปตามวาระ ยืนยันว่าในส่วนของพรรคพลังประชารัฐจะยังคงชู พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ไม่ขอแสดงความเห็นกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์คืนรถประจำตำแหน่ง

เมื่อวันศุกร์ เพจเฟซบุ๊ก พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ  General Prawit Wongsuwan ซึ่งมีผู้ติดตาม 7.3 พันคน มีการเขียนคำอธิบายว่า เพจดังกล่าวได้จัดทำขึ้นโดย FC ของ พล.อ.ประวิตร ได้มีความเคลื่อนไหวหลังจากที่ได้ขึ้นมาเป็นรักษาราชการแทนนายกฯ โดยเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นการโพสต์เกี่ยวกับภารกิจและผลงานที่ พล.อ.ประวิตร พร้อมทั้งลงชีวประวัติ ซึ่งล่าสุดวันที่ 1 ก.ย. เพจดังกล่าวได้โพสต์ในหัวข้อ พี่ป้อม ผู้รักแม่และชอบชิม รบหนักไม่เคยอยู่หลังลูกน้อง โดยเป็นเนื้อหาบางช่วงบางตอนจากหนังสือ พี่ป้อม พี่ใหญ่ พี่ชายที่แสนดี จัดทำขึ้นเนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบ 76 ปีของ  พล.อ.ประวิตร เป็นภาพของ พล.อ.ประวิตรในภารกิจต่างๆ ตั้งแต่เป็นนักเรียนเตรียมทหาร จนกระทั่งเข้ารับราชการทหาร และกระทั่งเข้าสู่การเป็นนักการเมือง

ด้าน พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงเพจดังกล่าวที่ช่วงนี้มียอดติดตามเพิ่มมากขึ้นว่า ไม่มี ไม่รู้ เมื่อถามว่าจะมีโอกาสร่วมลงพื้นที่ร่วมกันทั้ง 3 ป.หรือไม่ รวมถึงจะมีการลงพื้นที่กับ พล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ แต่ พล.อ.ประวิตรไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว โดยขึ้นรถเดินทางกลับทันที

เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน พลขับได้นำรถประจำตำแหน่งนายกฯ ทะเบียน 4 กต 29 กรุงเทพมหานคร  พร้อมรถในขบวน 3 คัน รวมเป็น 4 คัน ที่ พล.อ.ประยุทธ์ใช้เป็นพาหนะในระหว่างปฏิบัติหน้าที่นายกฯ  กลับมาคืนที่กองสถานที่ ยานพาหนะ และรักษาความปลอดภัย ทำเนียบฯ โดยจอดไว้ที่ลานจอดรถตึกบัญชาการ  1 และ 2 โดย พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ใช้รถคันดังกล่าวมาตั้งแต่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยเป็นการนำมาคืนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเสียงวิจารณ์ ขณะที่ปัจจุบัน พล.อ.ประยุทธ์ได้ใช้รถยนต์ส่วนตัว ทะเบียน ญค  1881 

ขณะที่นายวิษณุให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ รถประจำตำแหน่งนายกฯ จำเป็นต้องนำมาคืนหรือไม่ว่า ไม่ต้อง เช่นเดียวกับบ้านพักที่ไม่ต้องคืน เหมือนกรณีเดินทางไปต่างประเทศที่ไม่ต้องคืนรถ  แต่ในส่วนของเงินเดือนนั้น ปกติ พล.อ.ประยุทธ์รับเฉพาะเงินตำแหน่งนายกฯ กรณีนี้จะไม่ได้รับเงินเดือนในส่วนของนายกฯ ตามจำนวนวันที่ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ และจะไปรับเงินเดือนในตำแหน่ง รมว.กลาโหม ตามจำนวนวันที่หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ และถ้า พล.อ.ประยุทธ์กลับมาทำหน้าที่นายกฯ เงินเดือนนายกฯ ที่ถูกหักไปจะไม่ได้รับการชดเชยย้อนหลัง

ซักว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์นำรถมาคืนเช่นนี้เป็นการส่งสัญญาณอะไรหรือไม่ นายวิษณุปฏิเสธว่า ไม่มีอะไร  แปลว่าท่านไม่อยากใช้ ท่านใช้รถของกระทรวงกลาโหมได้

วันเดียวกัน ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกฯ ในฐานะ รมว.กลาโหม ได้เดินทางไปยังวัดกษัตราธิราชวรวิหาร พร้อมด้วย พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม, พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ ปลัดกระทรวงกลาโหม, พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก, พล.ท.สุขสรรค์ หนองบัวล่าง แม่ทัพภาคที่ 1 เพื่อตรวจเยี่ยมรับฟังสถานการณ์และการเตรียมการแก้ไข รวมถึงปัญหาข้อขัดข้องในการช่วยเหลือประชาชน พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ทำพนังกั้นน้ำ พร้อมมอบน้ำและเครื่องดื่ม โดยกำลังพลจากกองพันทหารม้าที่ 11 กรมทหารม้าที่ 4 กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบงานติดตั้งพนังกั้นน้ำและสเตนเลสสูง 2.2 เมตร ยาว 260 เมตร  รวมถึงวางแนวกระสอบทรายอีก 6,300 กระสอบ

ทั้งนี้ เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์เดินทางถึงวัดกษัตราธิราชวรวิหาร ได้เข้าสักการะพระพุทธกษัตราธิราช ซึ่งเป็นพระประธานที่ประดิษฐานภายในพระอุโบสถ และห่มผ้าพระพุทธชนะมาร นอกจากนี้ยังเข้าสักการะพระพุทธกษัตราภิมงคล ซึ่งเป็นพระที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เสด็จฯ มาทรงประกอบพิธีเททองเมื่อวันที่ 19  กรกฎาคม 2519 โดยมีพระราชธานินทราจารย์ เจ้าอาวา พาเดินดูสถานการณ์น้ำด้านหลังวัดที่เพิ่มสูงขึ้นริมแม่น้ำเจ้าพระยา

ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์เดินมาถึงจุดที่เจ้าหน้าที่ทหารกำลังเตรียมกระสอบทรายทำพนังกั้นน้ำ โดยกล่าวให้กำลังใจว่า เห็นสถานการณ์น้ำแล้วน่ากลัว ถ้าเทียบกับปีที่แล้วน้ำมาเร็วกว่า เพราะปีที่แล้วน้ำมาในเดือน ก.ย.นี้ มีการปล่อยน้ำแล้ว 1,800 ลูกบาศก์เมตร ขอให้อยู่ดูแลให้ดี  ช่วยกัน

รมว.กลาโหมยังสอบถามอีกว่า ชาวบ้านมีการเตรียมตัวกันพร้อมแล้วหรือยัง เป็นห่วงทุกพื้นที่ ไปดูตรงไหนก็ห่วงตรงนั้น ก่อนที่จะสอบถามกำลังพลที่มาจาก จ.บุรีรัมย์และหนองบัวลำภูว่า รู้ใช่หรือไม่เป็นทหารได้อะไร ได้ความรู้ การเรียนรู้ต่างๆ อะไรที่ดีๆ วันหน้าได้เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์เดินไปบริเวณท่าน้ำของวัดเพื่อดูปริมาณน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น พร้อมกล่าวว่าทั้งตะวันตกและตะวันออกป้องกันให้ได้ เพราะมีเขตอุตสาหกรรมด้วย  พร้อมกันนี้ยังย้ำว่าให้ดูงานดูแผนให้ดี ตามแผนงานจัดการน้ำ 13 มาตรการ

ทั้งนี้ ก่อนขึ้นรถผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า ได้ลงนามเอกสารชี้แจงศาลรัฐธรรมนูญแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ข่าวเขาว่าอย่างนั้นไม่ใช่หรือ”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ใช้รถยนต์ยี่ห้อ Toyota Land Cruiser  หมายเลขทะเบียน 4 กษ 3082 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถยนต์ของกระทรวงกลาโหม

ขณะที่บริเวณหน้าวัดได้มีชาวบ้านมาถือป้ายให้กำลังใจ โดยมีข้อความระบุว่า อยุธยารักลุงตู่, ลุงตู่อยู่ยาว,  ชาวอยุธยาขอเป็นกำลังใจให้ลุงตู่สู้ๆ แต่โดนเจ้าหน้าที่ปิดกั้นไม่ให้เข้าไปพบ ซึ่งชาวบ้านโวยวายว่า “ทำไมไม่ให้พบลุงตู่”

ต่อมาเวลา 09.30 น. พล.อ.ประยุทธ์เดินทางถึงพระเจดีย์ศรีสุริโยทัย ตรวจเยี่ยมรับฟังสถานการณ์น้ำท่วม  พร้อมให้กำลังใจแรงงานและกำลังพลที่ทำพนังกั้นน้ำ โดยพล.อ.ประยุทธ์แตะบ่าให้กำลังใจ กล่าวให้กำลังใจว่า เหนื่อยแต่เป็นการทำเพื่อคนอื่น ทำให้ประชาชน ตัวเราลำบากก็ต้องลำบาก พอพูดมาถึงจุดนี้ พล.อ.ประยุทธ์ใช้มือตบอกตัวเอง

ทั้งนี้ ในช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ได้กอดคนงานผู้ชาย และหันมาพูดว่า กอดแต่ผู้หญิงเดี๋ยวผู้ชายจะน้อยใจ อย่าทำอะไรให้เจ็บตัวเอง อันตรายให้ระมัดระวัง ทำงานเต็มที่ แต่ต้องปลอดภัย

ต่อมาเวลา 10.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ได้เดินทางถึงพระตำหนักสิริยาลัย ต.ประตูชัย ซึ่งทันทีที่มาถึงได้กล่าวให้กำลังใจกำลังพลว่า กำลังพลทหารที่มาเป็นทั้งลูกหลานและสามี มาช่วยเหลือประชาชน สิ่งเดียวที่จะทำให้พวกเขาภูมิใจคือทำงานในหน้าที่ เราทำสำเร็จปลอดภัย ประชาชนมีความสุข แค่นั้นคือความภาคภูมิใจของเหล่าทัพ ท่านคือหัวใจของประชาชน

นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และอดีตโฆษกประจำสำนักนายกฯ ชี้แจงกรณีมีการนำเสนอข่าวว่ามีแฟนคลับ พล.อ.ประยุทธ์ที่มาถือป้ายเชียร์ และเตรียมมอบดอกไม้เพื่อให้กำลังใจระหว่างลงพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา แต่ไม่สามารถเข้าถึงตัว พล.อ.ประยุทธ์ได้ อีกทั้งเมื่อขบวนรถขับผ่านยังไม่โบกไม้โบกมือทักทายประชาชนว่า ได้เรียนเรื่องนี้ให้ พล.อ.ประยุทธ์ทราบแล้ว และอยากชี้แจงกับแฟนคลับว่า ที่ขบวนไม่สามารถแวะทักทายได้นั้นเป็นไปตามระบบการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่สำคัญรถคันดังกล่าวกระจกเปิดไม่ได้ทุกบาน พล.อ.ประยุทธ์จึงฝากขอโทษแฟนคลับทุกคนด้วย และยืนยันว่าแม้จะแวะทักทายไม่ได้  แต่ท่านได้เห็นหน้าแฟนคลับที่มาให้กำลังใจท่านก็ดีใจแล้ว  ที่สำคัญได้ทำความเข้าใจกับชาวบ้านเป็นที่เข้าใจแล้ว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อดีตบิ๊กข่าวกรอง ชี้ 'บิ๊กทิน' กินยาผิด! ยันทหารไม่อยากยึดอำนาจถ้านักการเมืองไม่โกง

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Nantiwat Samart หัวข้อ