‘บิ๊กตู่’เฉือนอุ๊งอิ๊งผู้นำในดวงใจ

ซูเปอร์โพลเผย "บิ๊กตู่" ชื่อแรกการเมืองในใจประชาชน ตามด้วย "อุ๊งอิ๊ง" พท.ยังเป็นพรรคแรกที่จะเลือกตั้ง  "ชลน่าน" ลั่นไม่มีพรรคน้องชอบแอบอ้าง แต่ไม่ปิดประตูร่วมงาน ภท. โฆษก พท.อ้างคนที่อยู่เบื้องหลังพรรคคือ ปชช. "หญิงอ้อ" แค่มาให้กำลังใจลูกสาว "สอท.” โวหลังเปิดตัว "สมคิด" กระแสพรรคพุ่งเตรียมลุยพื้นที่รับฟังปัญหา ปชช.  ขณะ "ทสท." ขอบคุณอีสานโพลยก "หญิงหน่อย" เป็นนายกฯ  "เพื่อชาติ" ระอุมติที่ประชุมใหญ่ตะเพิด "เฮียหนวด" ดัน "ลูกสาวยงยุทธ" นั่งหัวหน้าพรรคคนใหม่

เมื่อวันอาทิตย์ นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจเรื่อง เอ่ยแรก การเมืองในใจประชาชน กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 8-10 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา โดยเมื่อถามถึงความสนใจติดตามข่าวแกนนำสำคัญทางการเมือง พบว่า ร้อยละ 40.7 ระบุ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองลงมาคือร้อยละ 39.7 ระบุ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พรรคเพื่อไทย, ร้อยละ 30.2 ระบุ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พรรคพลังประชารัฐ,  ร้อยละ 21.3 ระบุนายอนุทิน ชาญวีรกูล พรรคภูมิใจไทย และร้อยละ 18.1 ระบุ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ พรรคสร้างอนาคตไทย ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม เอ่ยแรกหลังจากถามถึงพรรคการเมืองที่จะควบคุมบ้านเมืองให้สงบไม่วุ่นวาย พบว่า อันดับหนึ่งคือพรรคพลังประชารัฐ ร้อยละ 39.4, อันดับสอง คือพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 11.0, อันดับสามคือพรรคเสรีรวมไทย ร้อยละ 8.5,  อันดับสี่พรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 5.3 และอันดับห้าคือพรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 4.2 ตามลำดับ

ที่น่าสนใจคือ เอ่ยแรกพรรคการเมืองความหวังช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจ พบว่า อันดับหนึ่งคือพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 20.6,  อันดับสองคือพรรคพลังประชารัฐ ร้อยละ 18.2, อันดับสามคือพรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 15.5, อันดับสี่คือพรรคสร้างอนาคตไทย ร้อยละ 8.5, อันดับห้าคือพรรคก้าวไกล ร้อยละ 6.5 ตามลำดับ

นอกจากนี้ เอ่ยแรกพรรคการเมืองที่ให้ความสำคัญช่วยเหลือเกษตรกร พบว่า อันดับหนึ่งคือพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 21.6,  อันดับสองคือพรรคพลังประชารัฐ ร้อยละ 19.8, อันดับสามคือพรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 11.3, อันดับสี่คือพรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 10.8 และอันดับห้าคือพรรคสร้างอนาคตไทย ร้อยละ 6.8 ตามลำดับ

สำหรับเอ่ยแรก พรรคการเมืองที่คนของพรรคเคยทำตามที่พูด พบว่า อันดับหนึ่งคือพรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 22.8,  อันดับสองคือพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 21.7,  อันดับสามคือพรรคพลังประชารัฐ ร้อยละ 11.4, อันดับสี่คือพรรคเสรีรวมไทย ร้อยละ 8.6 และอันดับห้าคือพรรคสร้างอนาคตไทย ร้อยละ 6.4 ตามลำดับ

ถ้าวันนี้เป็นวันเลือกตั้งจะเลือกพรรคการเมืองใด แนวโน้มตั้งแต่เดือนกรกฎาคมจนถึงปัจจุบัน พบว่า อันดับหนึ่งยังคงเป็นพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 26.9 ในเดือนกรกฎาคม, ร้อยละ 25.1 ในเดือนสิงหาคม และร้อยละ 22.1 ในเดือนกันยายน อันดับสอง ได้แก่พรรคพลังประชารัฐ ร้อยละ 18.3, อันดับสาม พรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 15.6, อันดับสี่ พรรคก้าวไกล ร้อยละ 10.4, อันดับห้า พรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 8.2, อันดับหก พรรคสร้างอนาคตไทย ร้อยละ 6.5, อันดับเจ็ด พรรคไทยสร้างไทย ร้อยละ 5.4 และอันดับแปด พรรคเสรีรวมไทย ร้อยละ 5.2

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการจับขั้วทางการเมืองหลังการเลือกตั้ง ว่า เรื่องจับขั้วทางการเมืองถือว่าเร็วไปนิด แต่บนเวทีวันที่ 10 ก.ย.พูดชัดเจนเรื่องการหาเสียงเลือกตั้งว่าเราไม่มีพรรคพี่พรรคน้องป้องกันความสับสน ขออนุญาตไม่พูดชื่อพรรค แต่มีหลายพรรคจนกระทั่งเราต้องออกมาตรการว่า หากพ่ออยู่พรรคหนึ่ง ลูกอยู่พรรคหนึ่ง ต้องตัดสินใจว่าจะทำอย่างไร จะปล่อยให้เขาทำแบบนี้ไม่ได้ เรามีเงื่อนไขในเรื่องนี้ พรรคที่เห็นว่าไม่สามารถไปกับเราได้เลยในการทำงานคือพรรคที่ไปสนับสนุนระบอบประยุทธ์ แล้วใช้โอกาสในการแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมือง รับไม่ได้และค่อยข้างยากที่จะคุยกัน

                    เมื่อถามว่า การเลือกตั้งครั้งหน้ามีโอกาสที่จะจับมือกับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ได้หรือไม่ เพราะการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาพรรค ภท.เคยร่วมรัฐบาล นพ.ชลน่านกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของพรรค ในอนาคตหากเขาผ่านการเลือกตั้งมา ประชาชนให้ความไว้วางใจเขา แล้วประเด็นหรือแนวทางที่สามารถพูดคุยกันได้ในเรื่องวิธีการทำงาน ก็อาจจะต้องมีการมาพิจารณาเป็นเฉพาะเรื่อง แต่หากมีความชัดเจนเรื่องสนับสนุนเผด็จการแล้วมีพฤติกรรมที่เรารับไม่ได้ ก็อาจจะเป็นเงื่อนไขที่ต้องพูดไว้ก่อน

พท.โดดป้อง 'หญิงอ้อ'

  น.ส.ชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี วิพากษ์วิจารณ์คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร ในการเดินทางมาให้กำลังใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ในกิจกรรมสะบัดชัย เพื่อไทยมาเหนือ ที่ จ.เชียงใหม่ ว่า นายชนะศักดิ์อย่ามองโลกแต่ในแง่ร้าย ทัศนคติเป็นลบ การที่คุณหญิงพจมาน มาให้กำลังใจ น.ส.แพทองธาร ในฐานะแม่ให้กำลังใจลูก คือเรื่องปกติของคนในครอบครัวที่แสดงความรักและความห่วงใยต่อกัน ไม่ใช่เรื่องของการเล่นการเมือง เพื่อไทยได้ลงไปรับฟังการสะท้อนปัญหาจากประชาชนในพื้นที่โดยตรง ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ดังนั้นคนที่อยู่เบื้องหลังพรรคเพื่อไทยที่แท้จริงคือ ประชาชน ซึ่งผ่านการพิสูจน์มาแล้วว่า แม้กฎกติกาจะเป็นอย่างไร พรรคเพื่อไทยจึงยังคงเป็นพรรคที่ชนะเลือกตั้งเป็นอันดับ 1 ครองใจประชาชนมาโดยตลอด

"จากการลงพื้นที่ใน จ.เชียงใหม่ครั้งนี้  พบปัญหามากมายที่ประชาชนอยากให้พรรคเพื่อไทยเข้ามาดูแลแก้ไข พรรคเพื่อไทยจึงพร้อมเดินหน้า ตั้งเป้าชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ และเมื่อมีโอกาสได้กลับมาเป็นรัฐบาล ก็จะนำนโยบายที่ผ่านกระบวนการคิดอย่างรอบคอบไปผลักดันให้สำเร็จ" น.ส.ชญาภากล่าว

นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวว่า พรรคก้าวไกลสนับสนุนว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดภูเก็ต มั่นใจว่าก่อนหน้านี้ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนชาวภูเก็ตจำนวนมาก รอบที่แล้วของการเลือกตั้ง ได้คะแนนรวมกว่า 42,000 คะแนน คิดว่าเป็นโอกาสในส่วนพรรคก้าวไกลที่จะปักธงสีส้ม ในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งจะมี 3 เขต ค่อนข้างมั่นใจว่าในเขตจังหวัดภูเก็ต การเลือกตั้งทุกเขตมีลุ้น เราสามารถมองอย่างหวังชัยชนะได้ทั้ง 3 เขต เราตั้งใจจะทุ่มสรรพกำลังเพื่อเอาชนะให้ได้ ในจังหวัดภูเก็ตพรรคก้าวไกลเน้นเป็นพิเศษ โดยชูนโยบาย ดังนี้ 1.สวัสดิการประชาชน 2. การกระจายอำนาจ 3.การพัฒนาเศรษฐกิจเรื่องท่องเที่ยว จะเป็นนโยบายสำคัญของพรรคก้าวไกลในการผลักดันให้ผู้สมัครของพรรคใช้ในการหาเสียงและพูดคุยกับประชาชนต่อไป

ที่พรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) นายนริศ เชยกลิ่น โฆษกพรรค สอท. เปิดเผยว่า หลังจากที่พรรค สอท.ได้เปิดตัว ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นประธานพรรค  เมื่อวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา พบว่ากระแสตอบรับทั้งในพรรคและนอกพรรคดีขึ้นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสมาชิกและผู้แสดงเจตจำนงสมัครเป็น ส.ส.ของพรรค ต่างมีความมุ่งมั่นในการทำงานจากเดิมที่เต็มร้อยอยู่แล้ว เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ เพราะได้พลังบวกจากกระแสความนิยมในตัว ดร.สมคิด และมั่นใจว่าพรรค สอท.จะสามารถชนะการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงนี้ได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ พรรคยังได้รับความสนใจจากนักการเมือง อดีต ส.ส.และผู้ที่มีชื่อเสียง แสดงความประสงค์ที่จะเข้ามาทำงานร่วมกับพรรคเพิ่มขึ้นมาก  ซึ่งมั่นใจว่าพรรคมีความพร้อมที่จะทำงานการเมืองตามแนวยุทธศาสตร์และอุดมการณ์ของพรรคต่อไป 

โฆษกพรรค สอท.ยืนยันว่า กรณีที่มีกระแสข่าวว่าพรรคจะไปรวมพรรคกับพรรคอื่นนั้น ไม่เป็นความจริง และไม่มีความจำเป็นใดๆ เพราะด้วยกระแสของพรรคขณะนี้แล้วมีความพร้อมที่จะขับเคลื่อนงานการเมืองได้ด้วยพรรคเอง โดยในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า พรรค สอท.มีแผนที่จะพาคณะผู้บริหารลงพื้นที่ในพื้นที่เป้าหมายที่สำคัญของพรรค เพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนจากพี่น้องประชาชน เกษตรกร ผู้ประกอบการ นักธุรกิจ ผู้ประกอบการรายย่อย นักศึกษา เยาวชนเพื่อนำกลับมากลั่นกรองจัดทำเป็นชุดความคิด และมาตรการต่างๆ ที่จะช่วยเหลือ แก้ปัญหา และนำเสนอเป็นนโยบายของพรรคให้กับประชาชนต่อไป

เพื่อชาติตะเพิด 'เฮียหนวด'

วันเดียวกัน พรรค สอท.ได้เปิดศูนย์ประสานงานเขตพื้นที่ 31 ภาษีเจริญ บางกอกใหญ่ พรรคสร้างอนาคตไทย ที่ ซอยเพชรเกษม 48 โดยมีนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคและประธานภาคกรุงเทพฯ เปิดงาน นายสุรนันทน์ กล่าวว่า พื้นที่ภาษีเจริญ บางกอกใหญ่  เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่พรรคสร้างอนาคตไทยให้ความสำคัญ โดยมีนายวานิช อินทนนท์ ซึ่งเป็นทนายและนักกฎหมาย ลงสมัคร ส.ส. เพื่อรับใช้ประชาชนในเขตนี้  หลังเปิดตัวนายสมคิด จากการลงพื้นที่พบว่าได้รับการตอบรับที่ดี ทุกคนมีความหวังขึ้น คิดว่าน่าจะมีโอกาสดีขึ้นของพรรค และยังคงต้องทำงานอย่างหนักเพราะยังมีปัญหาเรื่องความเดือดร้อนปากท้องของประชาชนที่ยังเยอะมาก

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการประเมินหรือไม่ว่ารัฐบาลจะอยู่ครบวาระหรือจะยุบสภา นายสุรนันทน์กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าขณะนี้ประชาชนอยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลง อยากให้มีการยุบสภา เพราะขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีมาครบ 8 ปีแล้ว การตีความกฎหมายเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่เชื่อว่าวันนี้ประชาชนอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง อยากรู้ว่าคนใหม่ใหม่หรือนโยบายใหม่ใหม่จะเข้ามาช่วยเหลือประชาชนได้อย่างไร อย่างน้อยพรรค สอท.จะต้องได้ 25 ที่นั่ง เพื่อสามารถเสนอชื่อนายสมคิดเป็นแคนดิเดตนายกฯ และเชื่อว่าในบรรดารายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ทั้งหมด นายสมคิดเป็นผู้ที่มากประสบการณ์ที่สุด รวมกับทีมคนรุ่นใหม่ที่จะผลักดันประเทศได้

  นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส รองเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า ขอบคุณพี่น้องชาวอีสานหลังอีสานโพลได้เปิดเผยข้อมูลบุคคลที่อยากให้เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจมากที่สุด ขอขอบคุณพี่น้องชาวอีสานทุกท่านสำหรับแรงสนับสนุนให้คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อเข้ามาแก้ปัญหาเศรษฐกิจมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ที่ 23.49% (ข้อมูลจากอีสานโพล) ขอยืนยันว่าคุณหญิงสุดารัตน์เป็นผู้นำที่มีความรู้และเข้าใจปัญหาของพี่น้องประชาชนมากที่สุดคนหนึ่ง ท่านยังเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นและความจริงใจในการแก้ไขปัญหาเพื่อคนตัวเล็ก โดยเฉพาะปัญหาพี่น้องชาวอีสานเสมอมา มั่นใจว่าท่านจะไม่มีทางปล่อยให้พี่น้องคนไทยถูกทอดทิ้ง และต้องสู้ปัญหาเพียงลำพังอีกต่อไป พวกเราจะขออาสาเหนื่อยแทนพี่น้องประชาชนทุกคนเพื่อทำให้ชีวิตของพี่น้องประชาชนดีขึ้น ฟื้นฟูเศรษฐกิจให้พี่น้องประชาชนกลับมาลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง

มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อชาติ ได้จัดการประชุมวิสามัญ พรรคเพื่อชาติครั้งที่ 1/2565 ณ ห้องประชุมสนามฟุตบอล ลีโอ เชียงราย สเตเดียม โดยมีสมาชิกพรรคร่วมลงมติ เลือกคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อชาติชุดใหม่ ดังนี้ น.ส.ปวิศรัฐฐ์ ติยะไพรัช ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค, ร.อ.ดร.จารุพล เรืองสุวรรณ เป็นเลขาธิการพรรคคนใหม่ พร้อมกับกรรมการบริหารพรรคเพื่อชาติชุดใหม่อีก 15 คน

   น.ส.ปวิศรัฐฐ์ ว่าที่หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า จะเริ่มต้นทำนับจากนี้ คือ ทำงานโดยยึดหลักที่เชื่อถือ ก็คือทำโดยคำนึงถึงความเท่าเทียม หรืออีกนัยหนึ่ง คือลดความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ เร็วๆ นี้ เราจะร่วมกันประชุมวางยุทธศาสตร์กำหนดวันเปิดตัวทีมบริหารพรรค  โดยจะมุ่งเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสเพื่อประโยชน์ของชาติและของคนไทย เชื่อว่าพรรคเพื่อชาติทุกคนพร้อมจะทำงานหนัก ประชาชนที่ไว้วางใจเพื่อชาติจะไม่ผิดหวังแน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ปวิศรัฐฐ์ ติยะไพรัช หรือฮาย เป็นลูกของยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา โดย น.ส.ปวิศรัฐฐ์เป็นที่รู้จักกันดีในวงการกีฬาในฐานะประธานสโมสรเชียงรายยูไนเต็ด

สำหรับหัวหน้าพรรคคนเก่าคือนายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ ที่มีปัญหากับ กก.บห.ชุดปัจจุบัน จนมีการเลือกใหม่.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง