เข้าสู่โหมดเลือกตั้ง กกต.ยํ้า180วันอันตรายหากยุบสภานับหนึ่งใหม่

กกต.แจง 24 ก.ย. เข้าโหมดเลือกตั้ง 100% เตือนป้ายหาเสียงที่มีอยู่ก่อนต้องปลดลง แต่ป้ายต้อนรับไม่ผิด ประชุมใหญ่พรรค-ระดมทุนทำได้ ห้ามให้ทรัพย์สิน ช่วยเหลือน้ำท่วมหมดสิทธิ์ หากยุบสภาต้องนับหนึ่งใหม่ ฝ่ายค้านข้องใจป้ายราชการแฝงหาเสียง “จุรินทร์” อยากเห็นคำตอบที่เป็นรูปธรรม “เสี่ยหนู” เปิดตัวขอนแก่น ลั่น ภท.ไม่ลืมกำพืดเรื่องระยำไม่ทำแน่

เมื่อวันที่ 23 ก.ย. นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณี กกต.ออกประกาศระเบียบ กกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งส.ส. (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2565 เมื่อวันที่ 22 ก.ย. เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติสำหรับผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.พรรคการเมือง ในช่วง180 วันก่อนวันเลือกตั้งว่า กฎหมายเลือกตั้งเดิมจะกำหนดเรื่องของระยะเวลาในการหาเสียงไว้เพียง 30-40 วัน แต่กฎหมายใหม่ทำให้การหาเสียงของผู้สมัครและพรรคการเมืองมีความซับซ้อนขึ้น โดยมีทั้งช่วงก่อนระยะเวลา 180 วันก่อนวันเลือกตั้ง ช่วง 180 วันจนถึงวันก่อนวันเลือกตั้ง

นายแสวงกล่าวว่า ทำให้ผู้สมัครและพรรคการเมืองสุ่มเสี่ยงผิดต่อวิธีการหาเสียง เช่น ประชุมใหญ่พรรค การเปิดตัวผู้สมัคร การทำไพรมารีโหวต หรือการจัดโครงการที่พรรคทำกับประชาชนโดยได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาพรรคการเมือง ถ้าไม่ใช่เวลาหาเสียงเลือกตั้งพรรคการเมืองให้เงินกับประชาชนสามารถทำได้ แต่เมื่อมีการเลือกตั้งแล้วการให้เงินจะเป็นความผิด ประเด็นเหล่านี้เราจะต้องชี้แจงให้พรรคฟัง

นายแสวงระบุว่า ส่วนการลงพื้นที่จัดกิจกรรมของพรรคการเมือง ถ้าเป็นการหาเสียงต้องคิดรวมเป็นค่าใช้จ่ายของพรรคการเมือง แต่ถ้าเป็นการหาเสียงโดยที่พรรคการเมืองไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการคิดเป็นค่าใช้จ่ายของพรรคตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง เป็นการดำเนินกิจกรรมทาการเมืองของพรรคตามปกติ ซึ่งผู้สมัครถ้าไปทำอะไรที่ไม่ใช่เป็นการหาเสียงไม่ต้องนำมาคิดเป็นค่าใช้จ่าย

เลขาธิการ กกต.กล่าวว่า แต่ถ้าอะไรที่ผิดกฎหมายเลย เช่น การช่วยเหลือน้ำท่วมก่อนช่วงระยะเวลา 180 วันให้ได้ไม่เกิน 300,000 บาท ถ้าเกินต้องนำมารวมเป็นค่าใช้จ่าย แต่พอมาในช่วงระยะเวลา 180 วันจะให้ไม่ได้เลย ถ้าให้ถือว่าผิดกฎหมาย ส่วนผู้สมัครที่มีการขึ้นป้ายหาเสียงไว้ก่อนเข้าช่วงระยะเวลา 180 วัน ต้องมีการปลดป้ายดังกล่าวลงมาและแก้ไขให้ป้ายเป็นไปตามขนาด และติดตั้งตามสถานที่ที่ประกาศ กกต.เรื่องป้ายกำหนด เพราะนับแต่วันที่ 24 ก.ย.จะถือว่าเข้าโหมดการเลือกการเลือกตั้ง 100% ขณะที่พรรคการเมืองจะจัดระดมทุน เปิดตัวผู้สมัคร สามารถทำได้ตามปกติ ตราบใดที่ไม่ได้ให้ทรัพย์สิน คิดว่าพรรคการเมืองน่าจะเข้าใจเรื่องเหล่านี้ได้ดี

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ยังไม่มีการประกาศเขตเลือกตั้ง ผู้ที่จะลงสมัครอาจสับสนในเรื่องของวิธีการหาเสียง เลขาธิการ กกต.ชี้แจงว่า ตามระเบียบให้อ้างอิงเขตเลือกตั้งเดิม ตามประกาศของ ผอ.กกต.จังหวัด และประกาศ กกต.เกี่ยวกับบัญชีรายชื่อ ซึ่งจะมีการระบุว่าติดป้ายหาเสียงตรงไหนได้ จำนวนเท่าใด ส่วนถ้าเป็นป้ายของหน่วยงานราชการที่ขึ้นให้การต้อนรับรัฐมนตรี และระบุผลงานของพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลรวมอยู่ด้วย ต้องพิจารณาว่าถ้ามันเป็นงานในหน้าที่ของรัฐมนตรีหรือส่วนราชการมันจะไม่ผิด แต่ถ้าเกินกว่านี้ต้องดูข้อเท็จจริง

“ส่วนราชการต้องพึงระวังว่าทำได้แค่ไหนอย่างไร แล้วอยู่ในอำนาจหน้าที่หรือไม่ แต่ถ้าเป็นป้ายขอบคุณ เช่นในอดีตเคยมีการขึ้นป้ายข้อความพี่น้องชาวโคราชขอขอบคุณโดยระบุชื่อนักการเมืองคนหนึ่ง ซึ่ง กกต.เห็นว่าข้อความในลักษณะดังกล่าวเข้าข่ายเป็นการหาเสียง และไม่พบว่าใครเป็นเจ้าของ ก็มีการให้ผอ.กกต.จังหวัดปลดป้ายลง” เลขาธิการ กกต.ระบุ

เลขาธิการ กกต.กล่าวด้วยว่า เมื่อก่อนระยะเวลาในการหาเสียงจะกำหนดในช่วง 30-60 วัน พรรคการเมืองจะต้องหยุดในเรื่องของงานกิจกรรมต่างๆ ของพรรค แล้วมาทำในเรื่องของการหาเสียงเลือกตั้งเท่านั้น แต่คราวนี้ระยะเวลามันยาวเป็น 180 วัน ซึ่งพรรคยังมีเรื่องที่ต้องทำ ทั้งการจัดประชุมใหญ่สมาชิก จัดระดมทุน จัดเปิดตัวผู้สมัคร ต้องระมัดระวังการกระทำที่จะไม่เป็นไปตามวิธีการหาเสียง ขณะเดียวกัน สิ่งที่ทำต้องคำนวณให้ดีว่าจะต้องคิดเป็นค่าใช้จ่ายในการหาเสียงเลือกตั้งหรือไม่ เพราะขณะนี้ยังไม่รู้ว่าค่าใช้จ่ายในการหาเสียงจะถูกกำหนดไว้ที่เท่าไหร่ อีกทั้งเมื่อมีประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งจะเป็นอีกส่วนหนึ่ง จะเข้มข้นขึ้น อยากให้ผู้ที่จะสมัครและพรรคการเมืองพิจารณาให้ดี อะไรที่ไม่ควรทำอย่าทำ ตรงนี้ต้องแยกกับการปฏิบัติหน้าที่ราชการของหน่วยงานรัฐ และรัฐบาลซึ่งมีหน้าที่ดูแลประชาชน

ยุบสภาต้องนับหนึ่งใหม่ 

นายแสวงยังกล่าวอีกว่า หากมีการยุบสภาเกิดขึ้น สิ่งที่ผู้สมัครและพรรคการเมืองทำในช่วงระยะเวลา 180 วัน จะไม่ถูกนำไปคิดไปเป็นค่าใช้จ่าย เพราะเงื่อนเวลาการนับวันเริ่มต้นจนถึงวันก่อนวันเลือกตั้งมันต่างกัน

วันเดียวกัน นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ได้เซ็นออกระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2565 โดยในข้อ 3 ระบุว่า ให้เพิ่มความต่อไปนี้ในข้อ 6 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561

 “(9) กรณีที่ยังไม่มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองสามารถปิดประกาศหรือติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง โดยวิธีการจัดทํา ขนาด จํานวน และสถานที่ ให้ถือปฏิบัติตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งและผู้อํานวยการสํานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจําจังหวัดประกาศ กําหนดในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด”

มีความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองต่างๆ ต่อหลักเกณฑ์ของ กกต.  โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงการขึ้นป้ายต้อนรับในการลงพื้นที่ หลัง กกต.ประกาศเตือน ส.ส.และว่าที่ผู้สมัคร ให้ระวังการใช้งบหลัง 24 ก.ย. จะกำชับอย่างไรหรือไม่ ว่าต้องตามขนาดที่กำหนด ถ้ามันใหญ่ไปก็ต้องปลดออก

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรจะลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ในวันที่ 25 ก.ย.นี้ ซึ่งในพื้นที่อาจมีการขึ้นป้ายต้อนรับเหมือนการลงพื้นที่ที่ผ่านมา

เมื่อวันศุกร์ กลุ่มสภาเครือข่ายประชาชนอีสาน (สอส.) สภาประชาชน 4 ภาค ที่ชุมนุมอยู่บนถนนพิษณุโลก ด้านหน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ได้นำป้ายไวนิลพิมพ์ข้อความ ขอกอดลุงป้อมหน่อย, นายกฯ ของประชาชน พร้อมรูป พล.อ.ประวิตร มาขึงไว้ริมถนนราชดำเนินนอกใกล้องค์กรอุตสาหกรรมป่าไม้และบริเวณสะพานลอยคนข้ามถนนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร                

นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) กล่าวว่า เรื่องนี้ควรมีการตีความในข้อปฏิบัติต่างๆ ให้ชัดเจน ว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เพื่อเปิดกว้างให้ทุกฝ่ายได้มีโอกาสแข่งขันกันอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม ไม่อย่างนั้นแล้วทุกอย่างจะกลับไปสู่วงจรอุบาทว์ทางการเมืองแบบเดิมอีก ถ้าคิดตามหลักประชาธิปไตยแล้ว เราควรเปิดโอกาสให้ประชาชนได้รับรู้ว่าจะมีการเลือกตั้ง แต่ละพรรคจะส่งใครเป็นผู้สมัครเพื่อมาเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน โดยผ่านการเสนอแนวคิด ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ หรือผ่านสื่อที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งหมดนี้ กกต.สามารถตรวจสอบการใช้งบประมาณได้อย่างโปร่งใสและเป็นธรรม

นายสุรนันทน์กล่าวอีกว่า ต้องยอมรับว่าพรรคใหม่ๆ หรือพรรคการเมืองที่ไม่ได้มีบทบาทในรัฐบาลหรือในสภาจะเสียเปรียบกับเรื่องนี้มาก ยกตัวอย่างที่ผ่านมาเกิดปัญหาน้ำท่วม เรายังมีโอกาสช่วยเหลือดูแลพี่น้องประชาชนได้ แต่ขณะนี้ทำอะไรไม่ได้เลย แต่รัฐบาลยังทำได้ทุกอย่าง ถึงแม้จะมีการอ้างว่าเป็นการทำในฐานะภาครัฐ ไม่ใช่พรรคการเมืองก็ตาม แต่ กกต.จะตีความอย่างไรว่าการลงปฏิบัติงานในพื้นที่ต่างๆ นั้นจะเป็นฐานะรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคการเมือง หรือ ส.ส. โดยไม่มีนัยใดๆ แอบแฝง 

รองหัวหน้าพรรค สอท.กล่าวว่า สำหรับเรื่องป้ายของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรค สอท. ขณะนี้เรายังไม่รู้ว่ากฎ ระเบียบ การติดป้ายประกาศเป็นอย่างไร อะไรคือสิ่งที่ถูก อะไรคือสิ่งที่ผิด แต่ทางพรรคพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับ กกต. โดยการขอปลดป้ายดังกล่าวลงก่อน ถึงแม้เราจะไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ก็ตาม ทั้งนี้ ตนเห็นว่าทุกอย่างควรเริ่มต้นหลังจากที่มีพระราชกฤษฎีกาประกาศการเลือกตั้งแล้ว ไม่ว่าจะกรณีใดก็ตาม เพื่อความเท่าเทียมกันของทุกฝ่าย เพราะกติกาที่ออกมาครั้งนี้ถือว่าเป็นการฝืนธรรมชาติเป็นอย่างมาก

คาใจป้ายราชการแฝง

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย (สร.) กล่าวถึง กกต.ออกแนวปฏิบัติเรื่องวิธีการหาเสียง ฉบับที่ 3 ที่กำหนดให้การติดป้ายหาเสียงของผู้ประสงค์จะสมัคร ส.ส. ก่อนหน้าที่จะมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง สามารถติดป้ายหาเสียง ตามขนาด จำนวน และสถานที่ ตามที่ กกต.หรือ ผอ. กกต.จังหวัด ประกาศในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดว่า  แปลว่า ใช้ขนาด จำนวน และ สถานที่ติดป้ายตามการเลือกตั้ง ปี 62  ขนาดคือ 1.2 x 2.4 เมตร จำนวน คือ ไม่เกิน 2 เท่าของจำนวนหน่วยเลือกตั้งในเขตนั้นๆ สถานที่ ตามประกาศของ ผอ. กกต.จังหวัด ว่าที่ใดอนุญาตให้ติดได้ ซึ่งเกิดคำถามคือ ป้ายที่มีขนาดใหญ่กว่า จำนวนเกิน ติดในที่ที่ไม่ตรงประกาศ เช่น ป้ายของลุงป้อมในภาคอีสาน ป้ายของคุณสมคิดที่เป็นบิลบอร์ดขนาดยักษ์ ต้องเอาลงหมดใช่ไหม

นายสมชัยกล่าวว่า และป้ายของราชการที่แฝงการหาเสียงที่มีขนาดใหญ่โต เช่น ป้ายยินดีต้อนรับรัฐมนตรีที่มาตรวจราชการ ป้ายแสดงผลงานของกระทรวงที่มีรูปรัฐมนตรีของพรรคการเมือง ยิ้มหราอ้างเป็นผลงานของตน จะถือเป็นป้ายหาเสียงหรือเป็นการใช้ทรัพยากรของรัฐเพื่อประโยชน์ในการหาเสียงหรือไม่ รวมทั้งเขตเลือกตั้งใหม่ มี 400 เขต ในขณะที่ปี 2562 มี 350 เขต จะยึดตามของเดิมอย่างไร

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในวันที่ 24 ก.ย. ซึ่งจะเริ่มนับ 180 วัน ก่อนเข้าสู่การเลือกตั้งนั้น กกต.ว่าอย่างไรต้องว่าตามนั้น ตอนนี้กำลังรออยู่ว่าสุดท้ายรายละเอียดทั้งหมด กกต.จะว่าอย่างไร เพราะทุกฝ่ายมีคำถามและสิ่งที่อยากเห็นว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ ต้องบอกให้ชัดเจนเป็นรูปธรรม ภายใต้กรอบกฎหมายจะทำให้พรรคการเมืองปฏิบัติได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องรอว่าให้ลองทำดูเดี๋ยวบอกเอง ถ้าเป็นเช่นนี้ก็ทำยาก เพราะทุกพรรคมีปัญหาเหมือนกัน จึงอยากเห็นคำตอบของ กกต.ที่เป็นรูปธรรมที่สุดเท่าที่จะทำได้

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า พรรคก้าวไกลตั้งข้อสังเกตว่าการบังคับใช้กฎหมายในเรื่องการใช้งบประมาณในการหาเสียง มีความไม่เท่าเทียมกันระหว่างฝ่ายค้านกับรัฐบาล เนื่องจากพรรครัฐบาลมีของแจก มีการตั้งป้าย ในนามกระทรวงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างๆ ซึ่งนอกจากจะเป็นการใช้งบประมาณจากภาษีประชาชนในการหาเสียงล่วงหน้าแล้ว ยังไม่ถูกนับเป็นค่าใช้จ่ายในการหาเสียงของพรรคหรือผู้สมัครอีกด้วย

ไม่กังวลศาลรับวินิจฉัย กม.ลูก

นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับวินิจฉัยร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่…) พ.ศ. … และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่…) พ.ศ.… ไว้พิจารณาว่า ไม่กังวล เพราะร่างดังกล่าวมาจาก กกต. และคณะรัฐมนตรีเป็นผู้ร่าง นอกจากนี้ การที่ศาลรับไว้พิจารณาถือเป็นเรื่องที่ดี จะได้สิ้นสุดข้อสงสัยของทุกฝ่าย ทั้งกลุ่มที่สนับสนุนหาร 100 และกลุ่มที่สนับสนุนหาร 500 ส่วนพรรคฝ่ายค้านไม่กังวลเพราะมั่นใจว่ากระบวนการที่ดำเนินการมาผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีมาแล้ว

นายสมคิดระบุว่า ไม่ว่ากติกาการเลือกตั้งจะออกมาอย่างไร พรรคเพื่อไทยพร้อมสู้ มั่นใจว่ายิ่งไปเปลี่ยนกติกา ยิ่งกลั่นแกล้งพรรคเพื่อไทยมากเท่าไหร่ พรรคเพื่อไทยไม่เสียหาย แต่คนที่ทำเรื่องกลั่นแกล้งพรรคการเมืองต่างหากจะเสียหาย พรรคเพื่อไทยไม่เคยกังวล กติกาการเลือกตั้งออกมาอย่างไร พรรคเพื่อไทยพร้อมสู้ ส่วนที่รัฐบาลออกมาดีใจ พร้อมโวว่ามีคนมาลงทะเบียนรับบัตรคนจนสูงถึง 18 ล้านคน และเชื่อว่าจะเพิ่มเป็น 20 ล้านคนในปี 65 ไม่ควรเป็นเรื่องที่น่าดีใจ แต่ควรเสียใจ เพราะรัฐบาลบริหารประเทศล้มเหลวทำให้มีคนจนเพิ่มสูงขึ้นถึง 20 ล้านคน

ที่ จ.ขอนแก่น ที่ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น จ.ขอนแก่น มีการประชุมพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ครั้งที่ 2/2565 โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมแกนนำ ส.ส.พรรคทั่วประเทศ บรรดาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เข้าร่วม และประชาชนเข้าร่วมกว่า 5,000 คน โดยบรรยากาศในงานมีการชูป้ายสนับสนุนนายอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรี รวมถึงป้ายนโยบายของพรรค เช่น นโยบายกัญชาเสรี นโยบายปลดหนี้ กยศ. ตลอดทั้งงาน

เมื่อนายอนุทินมาถึงมีวงกลองยาวต้อนรับ โดยนายอนุทินได้ร่วมตีฉาบและฟ้อนรำอย่างสนุกสนาน พร้อมถ่ายภาพเซลฟีอย่างเป็นกันเองกับประชาชนที่มาร่วมงาน ซึ่งไฮไลต์สำคัญของงานคือการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น จำนวน 8 เขต จาก 11 เขต และน่าสังเกตว่านายเวียง วรเชษฐ์ อดีต ส.ส.หลายสมัย จ.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย มาร่วมงานด้วย

จากนั้นนายอนุทินปราศรัยบนเวทีตอนหนึ่งว่า พรรคภูมิใจไทยพร้อมเป็นผู้แทนของคนไทยทุกคน วันนี้เรามา จ.ขอนแก่น เพื่อพบปะพี่น้องประชาชน และมาประชุมพรรคเพื่อรับฟังปัญหาประชาชน เพื่อนำไปสู่การแก้ไข เพราะเราเป็นพรรคพูดแล้วทำ ซึ่งพรรคมั่นใจว่าเป็นพรรคเดียวที่พูดแล้วทำทันที ส่วนจะทำได้แค่ไหนขึ้นอยู่ที่พี่น้องชาวขอนแก่น ถ้าอยากให้พรรคพูดแล้วทำให้ จ.ขอนแก่น ขอให้เลือกพรรคเยอะๆ พี่น้องประชาชนต้องตัดสินใจ ซึ่งในส่วน จ.ขอนแก่น มี 11 เขต ถ้าเราได้ 8 เขต อีก 3 เขต ยกให้พรรคอื่นไปเลย

“เราเริ่มจากพรรคบุรีรัมย์ ที่มี ส.ส.เพียง จ.บุรีรัมย์ แต่เราทำงานไม่ท้อถอย แต่วันนี้เรามี ส.ส.ทุกภาค เพราะเราเป็นพรรคของคนไทยทุกคน พรรคภูมิใจไทยถึงอย่างไรก็ไม่ลืมกำพืด ว่าเกิดบนแผ่นดินอีสาน ทำให้พรรคได้มีบุญวาสนาไปทำงานให้ภาคอื่นๆ จนวันนี้เรามีบุญมากที่ได้ทำงานให้คนไทยทุกคน เราจะสร้างความสามัคคีให้พี่น้องทุกคน เราจะรบ จะแตกแยกกันทำไม เห็นต่างได้ แต่ต้องไม่ขัดแย้ง เราต้องนำสิ่งที่ดีที่สุด คือสิ่งที่ประชาชนต้องการมาทำให้ได้ เราเป็นพรรคปฏิบัติการ คือพูดอะไรแล้วต้องทำให้สำเร็จ ที่ผมพูดทั้งหมดไม่ได้ขายฝัน ผมไม่ใช่หนู เชิญยิ้ม แต่เป็นหนูนำความเจริญสู่ประเทศไทย พรรคภูมิใจไทยพูดแล้วทำ เรื่องระยำๆ จะไม่บังเกิด ดังนั้น เลือกตั้งครั้งหน้าขอให้เข้าคูหากาพรรคภูมิใจไทย” นายอนุทินกล่าว

ซัดกลัวภูมิใจไทยดัง

นายอนุทินกล่าวอีกว่า คราวก่อนเราให้สัญญาจะทำกัญชาทางการแพทย์ให้สำเร็จ วันนี้สำเร็จแล้ว แม้ว่าร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง พ.ศ.... จะค้างอยู่ในสภา แต่ก็ไม่มีปัญหา เพราะกระทรวงสาธารณสุขที่พรรคดูแลอยู่ สามารถดูแลให้เดินต่อไปได้โดยไม่กระทบประชาชน ทั้งนี้ กฎหมายที่จะออกมาเพื่อให้ประชาชนสบายใจ แต่พอถูกขัดขา เพราะเขากลัวพรรคดังเกินไป เขาจึงดึงเอาไว้ พรรคที่เขาดึงไว้เขากลัวพรรคภูมิใจไทยเป็นคู่แข่งที่สำคัญของเขา เขากลัวเพราะเขาทำไม่ได้เหมือนพรรคภูมิใจไทย แม้จะขัดเราอย่างไร เราก็ยังดำเนินการต่อไปได้

นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. จ.ขอนแก่น ว่า แม้ว่าเราจะวางเป้าว่าหากเป็นไปได้ขอทั้งหมด แต่หากพูดถึงความมั่นใจ เชื่อว่าจะได้ไม่ต่ำกว่า 5 เขต

ที่ จ.สุพรรณบุรี นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าว เปิดงานสัมมนาเรื่อง บทบาทผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น การส่งเสริมสนับสนุนและพัฒนาสู่เกษตรกรอัจฉริยะด้านการผลิตและการตลาด ตอนหนึ่งว่า มีหลายคนตั้งคำถามว่า 23 เม.ย.59 เมื่อไม่มีนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรีแล้ว สุพรรณบุรีจะเป็นอย่างไร วันนี้ผ่านมา 6 ปีครึ่ง เราได้ทำให้เห็นแล้วว่าถ้าทุกคนในจังหวัดร่วมมือกัน ต้นกล้าเล็กๆ ที่นายบรรหารปลูกเอาไว้เมื่อ 40 ปีที่แล้ว ขณะนี้กำลังเติบโต ขยายกิ่งก้านสาขา ปกคลุมไปทั่วจังหวัดสุพรรณบุรี

“ผมวราวุธคนนี้ ลูกพ่อบรรหาร ต้องกราบขออภัยที่ฝีไม้ลายมือ เกือบ 4 ปี ในฐานะรัฐมนตรี ยังอาจจะสู้นายบรรหารไม่ได้ เพราะนายบรรหารทำงานมามากมาย อีก 100 ปี ก็หาคนอย่างนายบรรหารไม่ได้ ผมทำงานแทบตายเป็นรัฐมนตรีแค่กระทรวงเดียว คือ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แต่อย่างไรก็แล้วแต่ วันนี้ทำงานมา 4 ปี ขอเวลาอีกนิด รับประกันได้ ศิลปอาชา ภาค 2 ต่อจากนายบรรหาร ไม่แพ้ภาค 1 แน่นอน รับประกัน และเป็นสิ่งที่ผมให้คำมั่น" นายวราวุธกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง