ระดมป้องกันศูนย์เด็กเล็ก

นายกฯ ระดมมาตรการป้องกันภัยสถานศึกษาทุกระดับ มอบ "ตรีนุช" เดินหน้าให้อาชีวะติดตั้ง  "ประตู-หน้าต่างนิรภัย" ศูนย์เด็กเล็กทั่วประเทศ พร้อมยกคณะเดินทางร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ 11 ต.ค.นี้ รมว.ยุติธรรมขอสังคมช่วยใช้กฎหมายป้องกันทำผิดซ้ำ เพื่อลดการก่อเหตุสะเทือนขวัญ สธ.เผยผู้บาดเจ็บทุกรายอาการปลอดภัย หนูน้อย 3 รายผ่าตัดแล้วอาการดีขึ้น ยังอยู่ รพ. 7 ราย

 เมื่อวันจันทร์ น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ เร่งดำเนินการตามนโยบายเร่งด่วนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในการหามาตรการป้องกันและเฝ้าระวังเหตุร้ายภายในพื้นที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและโรงเรียนสอนเด็กปฐมวัย ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และกระทรวงมหาดไทย (มท.) ทั่วประเทศ

น.ส.ทิพานันกล่าวว่า กระทรวงศึกษาฯ ได้ให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ติดตั้งระบบประตูป้องกันภัยให้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสังกัดและโรงเรียนสอนเด็กปฐมวัย ในสังกัด สพฐ. และ มท.ทั่วประเทศ เพื่อคัดกรองบุคคลแปลกหน้าเข้าออกในพื้นที่ โดยให้ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคและอาชีวะในสังกัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ ประสานกับหน่วยการจัดการศึกษาปฐมวัยในจังหวัด สังกัด สพฐ., เทศบาล, องค์การบริหารส่วนจังหวัด, องค์กรบริหารส่วนตำบล และเอกชน สำรวจความต้องการจัดตั้งระบบป้องกันภัยตามบริบทของแต่ละพื้นที่  โดยให้สาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง อาทิ ช่างเชื่อม, ช่างก่อสร้าง,  ช่างอิเล็กทรอนิกส์, ช่างเมคคาทรอนิกส์ และช่างไฟฟ้า จัดทำและติดตั้งระบบป้องกันภัย เบื้องต้นได้ประสานให้วิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมาเป็นจังหวัดต้นแบบนำร่องเพื่อใช้ทั่วประเทศในการออกแบบทดลอง โดยมุ่งหวังเป็นประตู หน้าต่างนิรภัยศูนย์เด็กเล็กแบบครบ พร้อมกับมีกล้องตรวจจับพฤติกรรมเสี่ยงและเตือนไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันที

"รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ โดยนายกฯ ได้เตรียมระดมมาตรการเพื่อออกแบบให้สถานศึกษามีความปลอดภัยในทุกระดับ โดยเฉพาะกำลังพิจารณาแนวทางในการติดตั้งสัญญาณ SOS ขอความช่วยเหลือไปยังสถานีตำรวจในพื้นที่ เพื่อให้ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที รวมทั้งเน้นย้ำการซักซ้อมวิธีการเอาตัวรอดจากการเผชิญเหตุร้าย  เพื่อให้บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียนมีทักษะสามารถปฏิบัติตามวิธีการที่ถูกต้องเพื่อลดการสูญเสีย"  น.ส.ทิพานันกล่าว

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ในวันอังคารที่ 11 ต.ค.นี้ ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  และคณะ ประกอบด้วย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์, นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน, พลเอกอนุพงษ์  เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, นายอิทธิพล  คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม, นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสานักนายกรัฐมนตรี, พลเอกชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม จะเดินทางไปร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพผู้เสียชีวิตจากเหตุโศกนาฏกรรม จ.หนองบัวลำภู

โดยกำหนดการนั้น นายกฯ จะร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ ณ วัดราษฎร์สามัคคี ต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง  เวลา 16.00 น. นายจุรินทร์ และคณะ ร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ ณ วัดศรีอุทัย และนายสุพัฒนพงษ์ และคณะ ร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ ณ วัดเทพมงคลพิชัย ต.ด่านช้าง

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงเหตุสะเทือนขวัญที่ จ.หนองบัวลำภูว่า ตนไม่ได้นิ่งนอนใจ  เพราะเป็นเหตุสะเทือนขวัญ ที่เราทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้น  และรู้สึกเสียใจทุกครั้งเมื่อเกิดเหตุแบบนี้ ตนจึงผลักดันกฎหมายป้องกันกระทำผิดซ้ำ เพื่อเฝ้าระวังบุคคลอันตรายแบบนี้มาก่อเหตุในสังคม อยากให้สังคมช่วยกันใช้กฎหมายนี้ เพื่อเป็นอีกเครื่องมือในการลดความสูญเสียจากเหตุสะเทือนขวัญ

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุหนึ่งวัน ผู้บังคับบัญชาของ ตร.มาคุยกันเพื่อจะให้การช่วยเหลือครอบครัวเหยื่อ จึงเปิดช่องทางตำรวจด้วยกันเองให้การช่วยเหลือและทำการเปิดบัญชี ขณะที่ภาคเอกชนเมื่อรับทราบเป็นอีกช่องทางหนึ่งจึงเข้าร่วมบริจาคด้วย รวมแล้วยอดขณะนี้ประมาณ 9 ล้านบาท วันที่ 11 ต.ค.ตนจะเดินทางไปงานพระราชทานเพลิงศพ ก็จะเอายอดเงินขณะนั้นไปแจ้งให้ครอบครัวเหยื่อและทำการเฉลี่ยให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ

พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. ร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฝ่ายการเมือง (MDES) เตือนภัยมิจฉาชีพหากินบนความเศร้าโศก  เปิดรับบริจาคเงินทำบุญเหตุกราดยิงศูนย์เด็กเล็ก จ.หนองบัวลำภู และดำเนินคดีกับผู้แชร์ภาพความสูญเสีย ซึ่งขณะนี้ MDES ตรวจพบมีผู้โพสต์ทางโซเชียลมีเดียจำนวน  13 เพจ ได้โพสต์หมายเลขบัญชีรับโอนร่วมทำบุญ เข้าข่ายต้องสงสัย 2 เพจ ถึงแม้แอดมินเพจได้มีการลบโพสต์ออกไปแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบแล้ว จึงขอแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวัง และตรวจสอบให้ดีก่อนว่าบุคคลหรือหน่วยงานที่เปิดรับบริจาคมีตัวตนอยู่จริงหรือไม่

ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จ.นนทบุรี นายอนุทิน  ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัด สธ. และ พญ.อัมพร  เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต แถลงข่าวความคืบหน้าการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ โดยนายอนุทินกล่าวว่า ภาพรวมผู้บาดเจ็บทั้ง  7 ราย อาการปลอดภัยพ้นขีดอันตรายแล้ว จะฟื้นฟูทั้งสภาพร่างกายและจิตใจให้อยู่ในสภาพปกติมากที่สุด จากนี้คือการเร่งเยียวยาจิตใจ ทั้งญาติที่อยู่ในเหตุการณ์ที่รอดจากการถูกทำร้ายหรือบาดเจ็บเล็กน้อย และญาติที่สูญเสีย ได้มอบหมายให้กรมสุขภาพจิตส่งทีมช่วยเหลือทางด้านจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤต (MCATT) จากโรงพยาบาลจิตเวชในภาคอีสานและส่วนกลางลงพื้นที่ดูแลแต่ละครอบครัวแล้ว

สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 37 ราย ซึ่งส่งจากหนองบัวลำภูไปชันสูตรที่โรงพยาบาลอุดรธานี มีการวางระบบบริหารจัดการเพื่อให้มีความพร้อมทั้งแพทย์ อุปกรณ์ และห้องชันสูตร โดยระดมแพทย์นิติเวชจากจังหวัดใกล้เคียงมาช่วยดำเนินการ และได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายฉุกเฉินช่วยลำเลียงร่างผู้เสียชีวิตด้วยความเรียบร้อย อย่างมีศักดิ์ศรีและเคารพต่อผู้เสียชีวิต ทำให้สามารถดำเนินการเสร็จสิ้นในช่วงเช้าของวันที่ 7 ต.ค.

นพ.โอภาสกล่าวว่า การชันสูตรร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 37  ราย มีนโยบายว่าต้องดำเนินการให้เป็นไปตามหลักกฎหมาย หลักวิชาชีพและมีความรวดเร็ว เพื่อส่งให้ครอบครัวนำไปประกอบพิธีทางศาสนา ส่วนผู้บาดเจ็บทั้งหมด  10 ราย หายกลับบ้านแล้ว 3 ราย ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 7 ราย แยกเป็นโรงพยาบาลหนองบัวลำภู 5 ราย  ได้แก่ 1.เด็กชายอายุ 3 ขวบ ได้รับการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะเอาก้อนเลือดออก ถอดเครื่องช่วยหายใจแล้ว หายใจเองได้ อยู่ระหว่างการติดตามไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อน 2.เด็กชายอายุ 4 ขวบ ได้รับการผ่าตัดเปิดสมองเอาก้อนเลือดออก มีภาวะสมองบวม หลังผ่าตัดครั้งที่ 2 ภาวะสมองบวมดีขึ้น ยังต้องติดตามอาการ 3.หญิงอายุ 56 ปี ได้รับการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะเอาก้อนเลือดออก อาการดีขึ้น กำลังฝึกถอดเครื่องช่วยหายใจ 4.หญิงอายุ 42 ปี บาดเจ็บในช่องท้อง ลำไส้เล็กรั่วซึม กระดูกหน้าแข้งหัก ได้ผ่าตัดซ่อมแซมลำไส้และดามกระดูกที่หัก อาการฟื้นตัวดี 5.เด็กหญิงอายุ 12 ปี บุตรผู้ป่วยรายที่ 4 อาการดี แพทย์ให้อยู่กับมารดาซึ่งยังต้องรักษาในโรงพยาบาล เพื่อช่วยดูแลด้านจิตใจ

ส่วนที่โรงพยาบาลอุดรธานี มีผู้ป่วย 2 ราย คือ 6.เด็กอายุ 3 ขวบ ผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะเอาก้อนเลือดออก  ขณะนี้ถอดเครื่องช่วยหายใจได้ อาการดีขึ้น พูดคุยได้ดี  และ 7.ชายอายุ 21 ปี บาดเจ็บที่กระดูกสันหลังต้นคอ ผ่าตัดเอากระสุนออกแล้ว ยังใช้เครื่องช่วยหายใจ ทำกายภาพบำบัดและติดตามอาการ

ด้าน พญ.อัมพรกล่าวว่า เหตุการณ์นี้มีกลุ่มผู้รับผลกระทบทางตรงคือ ผู้ได้รับบาดเจ็บ ผู้รอดชีวิต ญาติใกล้ชิดผู้เสียชีวิต 170 คน โดยเป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี  60 คน ส่วนกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบทางอ้อม ได้แก่  ประชาชนในตำบลอุทัยสวรรค์ 6,591 คน ในจำนวนนี้ เป็นเด็กใน 2 โรงเรียนใกล้ที่เกิดเหตุ 129 คน และกลุ่มประชาชนที่ได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์ ซึ่งได้วางแผนดูแลเยียวยาจิตใจเป็น 3 ระยะ

ที่ จ.หนองบัวลำภู นายสุวิทย์ จันทร์หวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู รักษาราชการแทนผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู ได้มอบหมายให้นายวุฒิพงศ์ ใจยศ นายอำเภอนากลาง ดูแลการก่อสร้างเชิงตะกอนชั่วคราวเพื่อประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพในพระบรมราชานุเคราะห์ทั้ง 3 วัด

โดยนายวุฒิพงศ์กล่าวว่า ในการก่อสร้างเชิงตะกอนเผาศพทั้ง 3 จุดนั้น แบ่งออกเป็นที่วัดราษฎร์สามัคคี 19  ศพ วัดเทพมงคลพิชัย 3 ศพ และวัดศรีอุทัย ซี่งเป็นเตาเผาแบบไฟฟ้า 1 เตา ใช้สำหรับเผา 9 ศพ โดยใช้เวลาเผาทั้งสิ้นศพละประมาณ 30 นาที สำหรับผู้เสียชีวิตอีก 5 ศพที่ไม่ได้ร่วมการฌาปนกิจนั้น เนื่องจากญาติๆ ต้องการนำศพไปประกอบพิธีที่ภูมิลำเนาของผู้เสียชีวิตต่อไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง