ปชป.เคาะ‘นริศ’นั่งรมช.มท.

กก.บห.ประชาธิปัตย์เคาะ "นริศ" นั่ง รมต.แทน "นิพนธ์" "สมคิด" โบ้ยถาม "อุตตม" ผนึกพรรคตระกูลสร้าง  แซะหนักอย่าคิดแค่เอาเงินซื้อม้าเข้าคอกซ้ำรอยที่ผ่านมา ขณะที่ "ทักษิณ" โผล่พร้อมอ้าแขนรับบุคคลไม่เป็นปฏิปักษ์พรรค ภูมิใจไทยยังหัวหมุนกัญชาเสรี ระส่ำหนักชายแดนใต้ ส่อแววคะแนนทรุดฮวบ

เมื่อวันพุธ พรรคประชาธิปัตย์มีการประชุมคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.)ปชป. โดยมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค เป็นประธานการประชุม โดยมีระเบียบวาระพิจารณาคัดเลือกตัวบุคคลเพื่อไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย แทนนายนิพนธ์ บุญญามณี ที่ได้ลาออกไป โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะ กก.บห. อย่างไรก็ตาม นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้ส่งข้อความในกลุ่มไลน์สื่อมวลชนของพรรค แจ้งว่านายวิรัช ร่มเย็น นายทะเบียนพรรค และอดีต ส.ส.ระนอง 8 สมัย ขอเสนอตัวเองชิงตำแหน่งดังกล่าวด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้าประชุมคณะ กก.บห. เวลา 11.00 น. มีการประชุม ส.ส.ภาคใต้ โดยมีนายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ปชป.ดูแลภาคใต้ เป็นประธานการประชุม ซึ่งที่ประชุมพิจารณาเรื่องตัวบุคคลลงชิงตำแแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยไม่นาน จากนั้นเป็นการพูดคุยกันเรื่องในพื้นที่

ทั้งนี้ มีรายงานอีกว่า เมื่อเริ่มประชุมนายเดชอิศม์สอบถามว่ามีใครจะเสนอตัวลงชิงตำแหน่งรัฐมนตรีบ้าง ซึ่งมีผู้ยกมือลงแข่ง 2 คนคือ นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง และนายประกอบ รัตนพันธ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ซึ่งที่ประชุมไม่ได้ให้ทั้งสองคนแสดงวิสัยทัศน์ มีแต่นายเดชอิศม์ที่ระบุว่าทั้งสองคนเป็นคนที่มีคุณสมบัติ มีความรู้ความสามารถ จึงขอส่งชื่อทั้งสองคนให้คณะ กก.บห.พิจารณาต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุม กก.บห.ได้ใช้เวลาถกเถียงกันประมาณ 3 ชั่วโมง โดยในช่วงต้นได้มีการถกเถียงกันว่า โควตาดังกล่าวเป็นของส่วนใด ระหว่างโควตากลางของพรรค หรือโควตาภาคใต้ ปรากฏว่ามติที่ประชุมเสียงส่วนใหญ่ลงมติให้โควตาดังกล่าวเป็นโควตาภาคใต้ ทำให้เหลือผู้ถูกเสนอชื่อเพียง 3 คน คือนายนริศ นายประกอบ และนายวิรัชเท่านั้น จากนั้นที่ประชุมได้มีการลงมติ 3 รายชื่อแคนดิเดตที่จะเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ผลปรากฏว่านายนริศได้คะแนนมากที่สุด 22 เสียง นายประกอบ ได้คะแนน 8 คะแนน ส่วนนายวิรัชได้ 2 คะแนน จึงถือว่าที่ประชุม กก.บห.มีมติเลือกนายนริศเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมส่งรายชื่อให้ที่ประชุมร่วม ส.ส.ให้การรับรอง

ที่โรงแรมศิวา รอยัล จ.พัทลุง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย นำทีมผู้บริหารพรรค ประกอบด้วยนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค, นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรค ประธานภาคใต้ ลงพื้นที่ จ.พัทลุง เปิดตัวนโยบายพรรคและเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พัทลุง นายเอกภัทร ภัทร์รัศมี เขต 1, ว่าที่ ร.ต.พลกฤษณ์ คล้ายวิตภัทร เขต 2 และนายวัฒนา เรืองแก้ว เขต 3 โดยมีตัวแทนสภาหอการค้าสภาอุตสากรรม และประชาชนชาวพัทลุง และจังหวัดใกล้เคียงเข้าร่วม

 นายสมคิดให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวรวมพรรคสร้างอนาคตไทยกับพรรคไทยสร้างไทย ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทยว่า ใครจะรวมกับใครเป็นเรื่องของเขา แต่ตอนนี้พรรคสร้างอนาคตไทยยังไม่ได้คิดรวมกับใคร และถ้าจะรวมกับใครในอนาคตต้องดูว่าความคิดเหมือนกันหรือไม่ และอุดมการณ์ตรงกันหรือไม่ เรื่องนโยบายไปด้วยกันได้หรือไม่ ถ้ารวมกันแล้วนโยบายเหมือนกัน รวมกันแล้วดี รวมแล้วดีกว่าไม่ดีก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่ง แต่เป็นเรื่องของอนาคต

เมื่อถามว่า “2 ส.” คือนายสมคิด และคุณหญิงสุดารัตน์สามารถทำงานร่วมกันได้หรือไม่ นายสมคิดกล่าวว่า “ส.” สมคิด เป็นแค่ประธานพรรค ต้องถามนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย กับคุณหญิงสุดารัตน์ ซึ่งก็พูดจาภาษาเดียวกัน แต่จะรวมกันหรือไม่ ไม่แน่ใจต้องแล้วแต่พรรค แต่ไม่ว่าอย่างไรต้องยึดนโยบายพรรคที่มีอยู่แล้ว ถ้าเคลียร์กันได้ก็ไปพูดคุยกัน เรื่องอื่นไม่เกี่ยว

เมื่อถามว่า ถ้าหากมาร่วมมือทำงานจะทำให้พรรคสร้างอนาคตไทยและพรรคแนวร่วมแข็งแกร่งมากขึ้นหรือไม่ นายสมคิดกล่าวว่า อย่าไปคิดว่ารวมแล้วจะมีส.ส.มากขึ้นเพื่อแบ่งรัฐมนตรี ถ้านักการเมืองคิดอย่างนั้น อย่าทำการเมืองดีกว่า เพราะจะทำให้บ้านเมืองจะล้มอยู่แล้ว แต่จะเอาเงินไปซื้อม้าเข้าคอก คอกไหนมีมากกว่าก็ได้เป็นรัฐมนตรีมากกว่า ก็เห็นกันมาแล้วว่าเป็นกันอย่างไร

ด้านนายนิพิฏฐ์กล่าวตอนหนึ่งว่า หลังออกจากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มาที่พรรค สอท. นายสมคิดได้ชุบชีวิตตนขึ้นมาใหม่ ตนเปลี่ยนเจ้านายใหม่แล้ว ตนเองเป็นนักรบที่จะไม่แตกทัพ ถ้านายสมคิด นายอุตตม และนายสนธิรัตน์ สะบัดธงไปทางไหน ตนเองจะไปทางนั้น หากตนเองตายในสนามรบ นายสมคิดก็แค่นำศพตนกลับบ้านเท่านั้น 

 “มันมีที่ไหนที่ปลัดกระทรวง อธิบดีกรม และผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขไปยืนแจกต้นกัญชาให้ประชาชน เสร็จแล้วกลับมาที่โรงพยาบาล แล้วหมอตัวเล็กๆ กลับต้องมารักษาคนติดยาเสพติดที่ผู้บริหารประเทศนี้สร้างไว้ นี่มันใช้ไม่ได้ พรรค สอท.จะกำหนดนโยบายเพื่อลูกหลานของท่าน จึงประกาศนโยบาย 1 อำเภอ 1 ศูนย์บำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติดให้โทษ นี่คือสงครามครั้งสุดท้ายของผม จึงอยากให้พี่น้องใจแข็ง เพื่อเปลี่ยนภาคใต้ โดยมาร่วมกับเรา เพื่อสร้างอนาคตพัทลุงไปด้วยกัน” นายนิพิฏฐ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในเวลา 16.00 น. นายสมคิดกล่าวปราศรัยในเวทีเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดพัทลุง ว่า  เห็นนายนิพิฏฐ์บอกสงครามครั้งสุดท้าย แต่สงครามที่เกิด ท่านไม่เป็นศพแน่ แต่ท่านจะได้กลับมาและไม่ได้มาคนเดียวเท่านั้น แต่มาเป็นแผง แนะหากพรรคนี้เรียกชื่อยากให้เรียกเลย "พรรคสมคิด" ชื่อจีน ฮั่นกวง หมายถึงแสงสว่างอันสดใส ขณะ "สมคิด" แปลว่า เกิดมาคิดทั้งวัน แต่เป็นการคิดเพื่อบ้านเมืองและประเทศชาติส่วนรวม ทั้งนี้ แม้ต่างครอบครัว แต่รวมกันแล้วเป็นพลังสร้างประเทศไทย สุดท้ายนายสมคิดตั้งหวังให้ทุกคนก้าวข้ามความขัดแย้ง

วันเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก CARE แคร์ คิด เคลื่อน ไทย ได้ไลฟ์สดการพูดคุยกับ โทนี่ วู้ดซัม หรือนายทักษิณ ชินวัตร ในหัวข้อปราบยาบ้า-คุมอาวุธปืน คืนความสุขที่แท้จริงให้คนไทย โดยนายทักษิณกล่าวถึงกระแสข่าวการดีลกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ให้เข้ามาอยู่พรรคเพื่อไทยว่า ไม่มีดีลนี้แน่นอน ไม่เกี่ยว เพราะไม่มีหน้าที่อะไรต้องไปดีล ถามว่ารู้จักไหมรู้จัก เพราะเป็นคนเหนือ เคยอยู่พรรคเพื่อไทยมาก่อน เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นน้อง

 “ที่ผ่านมาเคยพูดไว้ว่า ศิษย์เก่าไทยรักไทยทั้งหลาย มีเยอะอยู่ในวงการเมือง ถ้าคนไหนออกไป ไม่เป็นปฏิปักษ์กับพรรค และเขาอยากกลับมาก็ไม่น่าเสียหายอะไร แต่คนที่ออกไปเป็นปฏิปักษ์กับพรรคก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง”

ที่ จ.นครราชสีมา ที่สำนักงานใหญ่พรรคชาติพัฒนากล้า ที่ จ.นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนากล้า จัดงานพิธีเปิดอนุสรณ์สถาน พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา พร้อมพิธีเปิดป้ายที่ทำการ โดยมีนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรค เป็นประธานในพิธี และคณะกรรมการบริหาร อาทิ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรค,  นายกรณ์ จาติกวณิช กรรมการบริหารพรรค, นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ที่ปรึกษาพรรค และสมาชิกพรรคเข้าร่วมงาน

นายสุวัจน์กล่าวช่วงหนึ่งว่า อีกไม่นานประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปก จะเป็นโอกาสสร้างความเชื่อมั่นในการค้าการลงทุน แล้วหลังจากนั้นก็จะเข้าสู่บรรยากาศการเลือกตั้ง เมื่อมีความชัดเจนเมื่อไหร่ ก็พร้อมสู่สนามเลือกตั้งทันที ส่วนจะเรียกว่าคัมแบ็กอย่างยิ่งใหญ่หรือไม่ ก็เป็นหน้าที่สมาชิกพรรคทำให้การคัมแบ็กเกิดขึ้นเป็นจริง เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน เพื่อประโยชน์ของชาวโคราช

รายงานข่าวจากผู้สื่อข่าวในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งได้รับการเปิดเผยจากแกนนำพรรคภูมิใจไทยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ปัตตานี, ยะลา,นราธิวาส) ว่านโยบายกัญชาเสรีกำลังเป็นอุปสรรคในการหาเสียงของผู้สมัครในพื้นที่ 3 จังหวัดดังกล่าว เพราะได้รับการต่อต้านจากผู้นำศาสนาและประชาชนชาวมุสลิมที่เคร่งครัดในบทบัญญัติของศาสนา สังเกตได้จากในทุกวันศุกร์ที่เป็นวันละหมาดใหญ่ ทุกมัสยิดผู้นำศาสนาต่างได้มีการคุตบะห์กับผู้เข้าร่วมละหมาด เพื่อแสดงการรับไม่ได้กับพรรคการเมืองที่เป็นเจ้าของนโยบายกัญชาเสรี รวมทั้งในเรื่องกฎหมายสมรสเท่าเทียม ที่ขัดกับหลักศาสนาอิสลาม ทั้งนี้ เป็นที่ทราบกันว่าก่อนหน้านี้กระแสของพรรคภูมิใจไทยดีมากในพื้นที่

ด้านนายอับดุลเลาะห์ ยาห์ยา ผู้นำภาคประชาสังคมในพื้นที่ จ.ปัตตานี กล่าวว่า นโยบายกัญชาเสรีเป็นนโยบายการส่งเสริมยาเสพติด ที่คนมุสลิมทั้งหมดรับไม่ได้ และยิ่งมีข่าวเรื่องอดีตตำรวจที่ติดยาฆ่าหมู่เด็กๆ ครูและชาวบ้านที่ จ.หนองบัวลำภู ยิ่งรับไม่ได้ เพราะไม่ว่ายาบ้าหรือกัญชา ต่างก็เป็นยาเสพติดที่มีผล ให้คนคลั่ง ขาดสติ และทำร้ายสังคมได้ วันนี้ เฉพาะเรื่องน้ำกระท่อมในพื้นที่กับ ยาบ้าก็กลายเป็นปัญหาใหญ่ของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างหนัก เมื่อ กัญชาเสรีมาอีก ยิ่งเป็นการซ้ำเติม สถานการณ์ในพื้นที่ นโยบายกัญชาเสรี จะทำให้พรรคภูมิใจไทยอาจจะไม่ได้ ส.ส.เลยก็ได้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง