‘ชวน’พร้อมสู้หมิ่นแม้ว ใช้นโยบายฆ่าโหมไฟใต้

อัยการยื่นฟ้อง “ชวน” หมิ่นประมาทฯ "ทักษิณ" ทำนโยบายชายเเดนใต้ผิดพลาดก่อนคดีหมดอายุความ 3 วัน    เผยสำนวนเพิ่งถึงมือวันที่ 20 ตุลา. เปิดคำฟ้องวิพากษ์เดือดตั้งแต่ยุบ ศอ.บต. ยันโจรกระจอก จุดไฟใต้

ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถนนเจริญกรุง  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา พนักงานอัยการนำตัว นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา มายื่นฟ้องในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาฯ จากกรณีเมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2555 นายชวนได้ปราศรัยถึงนโยบายจังหวัดชายแดนภาคใต้ครั้งสมัยนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี มีความผิดพลาด

คดีนี้พนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร ส่งสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาฯ เเละไม่ฟ้องในความผิด พ.ร.บ.คอมฯ ให้พนักงานอัยการวันที่ 20  ต.ค.65 ซึ่งคดีจะหมดอายุความ 28 ต.ค. 65

นายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมกันให้ข้อมูลคดีนี้ว่า คดีนี้เมื่อวันที่ 20 ต.ค.2565 สำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ได้รับสำนวนการสอบสวนคดีอาญาที่ 2154/2555 ลงวันที่ 14 ส.ค.2565 ระหว่างนายทักษิณ ชินวัตร โดยนายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความผู้รับมอบอำนาจ กล่าวหานายชวนหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน จากพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลวัดพระยาไกร โดยเหตุดังกล่าวเกิดที่แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร

ซึ่งพนักงานสอบสวนมีความเห็นควรสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาบางข้อหา โดยมีความเห็นควรสั่งไม่ฟ้องในข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 15 (1) นั้น

โดยคดีดังกล่าวจะครบกำหนดอายุความในวันที่ 28 ต.ค.2565 นายชวรัตน์ วงศ์ธนะบูรณ์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ รักษาการในตำแหน่งอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ จึงได้มอบหมายให้สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 1 พิจารณาสำนวนการสอบสวนอย่างละเอียด รอบคอบ และเนื่องจากคดีนี้ผู้ต้องหาดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภา ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญ และเป็นคดีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลทางสื่อสารมวลชน จึงเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนทั่วไป

ตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ พ.ศ.2563 ข้อ 4, 30 และ 141 หลังจากพิจารณาสำนวนการสอบสวนและพยานหลักฐานต่างๆ แล้ว อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 1 จึงได้เสนอให้อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้พิจารณา ซึ่งได้มีความเห็นควรสั่งฟ้องนายชวน ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 11) พ.ศ.2535 มาตรา 3, 4

และมีคำสั่งไม่ฟ้องในความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14 (1)

วันที่ 25 ต.ค. นายชวนได้เดินทางมาพบนายประกิต กิตอำนวยพงษ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 1 เพื่อรายงานตัวรับทราบข้อกล่าวหา ที่สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 1 จากนั้นจึงได้นำตัวส่งฟ้องต่อศาลอาญากรุงเทพใต้

โดยภายหลังยื่นฟ้องศาลสอบคำให้การ จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างพิจารณาคดี เเละนัดตรวจพยานหลักฐานอีกครั้งวันที่ 16 ม.ค.66 เวลา 09.00 น.

นายโกศลวัฒน์ รองโฆษก อสส. กล่าวเพิ่มเติมว่า จะเห็นได้ว่าคดีนี้พนักงานอัยการได้รับสำนวนในวันที่ 20ต.ค.65 ก่อนหมดอายุความในวันที่ 28 ต.ค.65 เพียง 8 วัน อัยการได้มีการสอบสวนเพิ่มเติมด้วย ไม่รอช้า รีบเร่งพิจารณาสำนวนให้สมบูรณ์ครบถ้วน ก่อนมีคำสั่งเมื่อวันที่ 25 ต.ค.2565 ซึ่งมีวันหยุดราชการอีก 3 วัน เเละนำตัวยื่นฟ้องศาลได้ทันก่อนหมดอายุความ ซึ่งท่านชวนเองก็เดินทางมาฟังคำสั่งตามนัดของพนักงานอัยการ เดินเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และเดินทางไปศาลด้วยตนเองอย่างไม่มีการประวิงเวลาเพื่อรออายุความหมด ซึ่งก็ถือว่าเป็นการยึดหลักการเคารพกฎหมายชัดเจน โดยทุกคนจะต้องอยู่ภายใต้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคำฟ้องอัยการระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ.2555 เวลากลางวัน จำเลยได้หมิ่นประมาท พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้เสียหาย โดยจำเลยได้บรรยายในงานเปิดงานโรงเรียนการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ ที่โรงแรมรามาดาพลาซ่า แม่น้ำริเวอร์ไซด์ ถนนเจริญกรุง แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร โดยมีข้อความเป็นการใส่ความผู้เสียหายว่า

 “...รูปแบบการปกครองทุกอย่างต้องพัฒนาไปข้างหน้า แต่ต้องยอมรับว่ารูปแบบการปกครองของประเทศไทยให้โอกาสมาก บ้านเมืองจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นสิ่งที่เราต้องทำ คนไทยมีศักยภาพ แต่เรามีจุดอ่อนที่นักการเมืองโกง ซึ่งมาจากธุรกิจการเมืองและอุปสรรคของประชาธิปไตย คือ การยึดอำนาจระบอบประชาธิปไตย อำนาจประชาธิปไตยจะใช้ผ่านองค์กร สถาบันทั้งนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร และตุลาการ โดยมีการคานอำนาจซึ่งกันและกัน แต่เมื่อบ้านเมืองมีปัญหาจึงเกิดองค์กรอิสระขึ้นมา เช่น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) แต่เมื่อระบบทักษิณเกิดขึ้น ก็ใช้วิธีการนอกกฎหมาย   สำหรับปัญหาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ปัจจุบันเป็นเพราะนโยบายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ประกาศว่าจะแก้ไขปัญหาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้หมดภายในสามเดือนนั้น ทั้งที่ขณะนั้นไฟใต้มอดแล้วในสมัยที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี กลับใช้คำว่าโจรกระจอก และมียกเลิกศูนย์อำนวยการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) หันมาใช้นโยบาย “ฆ่าหมดก็จบ” ตรงนี้คือที่มาของการนองเลือดในปัจจุบันนี้...”

ขณะที่นายชวนให้สัมภาษณ์ว่า ได้ขอให้อัยการดำเนินการฟ้องร้องตนเองเพื่อไม่ให้อายุความขาด และเมื่อตนถูกกล่าวหาก็มีหน้าที่สู้คดีไปตามกระบวนการ ทำให้ขณะนี้อัยการมีการสั่งฟ้องเป็นที่เรียบร้อย และได้มีการพิมพ์ลายนิ้วมือในฐานะผู้ถูกกล่าวหาแล้ว ส่วนกรณีหมายเรียกรับทราบข้อกล่าวหาที่ยังไปไม่ถึงตนนั้น เพิ่งได้รับรายงานเมื่อสักครู่ที่ผ่านมาว่าหมายดังกล่าวเพิ่งไปถึงที่บ้านที่จังหวัดตรัง

นายชวนกล่าวด้วยว่า สิ่งสำคัญที่สุดในระบอบประชาธิปไตย ทุกคนต้องเคารพกฎหมาย และทุกคนต้องรับผิดชอบ ตนเป็นคนพูดอะไรพูดตรง ไม่พูดอะไรที่ไม่จริง และเมื่อพูดแล้วก็ต้องรับผิดชอบกับคำพูด เมื่อมีคดีเกิดขึ้นก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย

เมื่อถามว่า ยังยืนยันว่าที่เกิดขึ้นกรณีกรือเซะ-ตากใบ เป็นความผิดพลาดของรัฐบาลในขณะนั้นจริงใช่หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า เรื่องที่ฟ้องร้องเป็นเรื่องจากสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นนโยบายการแก้ไขปัญหาในสมัยนั้น มีการใช้คำพูดเรียกว่าโจรกระจอก ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนยืนยันหลายครั้ง ว่าเป็นความผิดพลาดที่นำไปสู่ความสูญเสียครั้งสำคัญจนมาถึงทุกวันนี้ แต่ทั้งหมดเนื่องจากเมื่อเป็นคดีความแล้วก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของคดี

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะเลขานุการประธานรัฐสภา ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า จากการที่เหลือเวลาเพียง 3 วันที่จะขาดอายุความ มีคนแนะนำว่าให้ดึงเวลาเพื่อให้ขาดอายุความคดีจะได้จบไป แต่ท่านชวน หลีกภัย ไม่เลือกเส้นทางดังกล่าว แต่ยังคงยึดมั่นในหลักการความถูกต้อง เป็นตัวอย่างในการเคารพกฎหมาย อยู่ภายใต้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน

นายราเมศยังระบุในตอนท้ายว่า ในส่วนของเนื้อหาคดีขออนุญาตไม่กล่าวถึง แต่งานนี้รับประกันว่าน่าติดตามชมไม่น้อยกว่าคดียุบพรรค และคดีทุจริตจำนำข้าว เพราะข้อเท็จจริงทั้งหมดในสมัยรัฐบาลทักษิณ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่กรือเซะ เหตุการณ์ที่ตากใบ เหตุการณ์ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เหตุการณ์จากการปราบปรามยาเสพติดจะถูกยกขึ้นมาชำแหละอีกรอบหนึ่งผ่านคดีนี้อย่างแน่นอน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'กูรูการเมือง' ชำแหละ! ปั่นเฟกนิวส์ 'วันนอร์' ไขก๊อกประธานสภา

นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า เบื่อกาลวินาศมาถึง อะไรต่อมิอะไรก็วิปริตแปรปรวนไป