กัญชาระอุ!หัวหน้าพรรคโดดร่วม

"จุรินทร์" ย้อน "อนุทิน" รับงานใคร สอนมารยาทพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ระรานคนที่เห็นต่าง ไม่ใช้อารมณ์  ขณะที่ "เสี่ยหนู" เปิดประเด็นอีก โพสต์รูปคู่ไอศกรีมรสนมฮอกไกโดผสมกัญชา  พร้อมร่ายสุภาษิต "คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม" สธ.แจงยิบผลงานกัญชาปี 65 เห็นผล 4 ด้าน

 เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2565 ที่ลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวย้ำจุดยืนพรรคว่า สนับสนุนกัญชาทางการแพทย์ แต่ไม่สนับสนุนกัญชาเสรี เพราะเป็นห่วงอนาคตประเทศระยะยาว ว่าจะได้ไม่คุ้มเสีย กัญชาเสรี ซึ่งเป็นความคิดชัดเจนของพรรค ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ส่วนข้อกล่าวหาที่พรรคภูมิใจไทยกล่าวหาว่าประชาธิปัตย์ไปรับงานใครมาและการให้ความเห็นว่าไม่มีมารยาทนั้น ต้องไปย้อนถามตัวเองมากกว่าในคำถามที่ถามมา

 “ที่สำคัญประชาธิปไตยต้องเคารพความเห็นต่าง และไม่ระรานคนที่มีความเห็นต่าง โดยประชาธิปัตย์มีจุดของพรรค ไม่ได้เป็นลูกจ้างส่วนตัวของใครที่จะมาใช้อำนาจ เรามีจุดยืนของตัวเองในฐานะพรรคการเมือง ผมคิดว่าหัวใจสำคัญของระบบประชาธิปไตยคือไม่ใช้อารมณ์ และต้องใช้หลักเหตุผล”

เมื่อถามว่า การตอบโต้กันระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับประชาธิปัตย์ จะกระทบความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายจุรินทร์ตอบว่า การทำงานร่วมกันในรัฐบาลผสม ต้องเคารพความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ตนไม่คิดว่าจะไปกระทบกับพรรคการเมืองที่ยึดวิถีประชาธิปไตย เพราะถ้าเคารพวิถีประชาธิปไตย ต้องเคารพความเห็นต่าง ไม่ระรานคนที่เห็นไม่ตรงกับเรา และไม่ใช้อารมณ์ ถ้าเรายึดถือหลักนี้ได้ การทำงานในฐานะรัฐบาลก็ไม่มีปัญหา การทำงานในฐานะพรรคร่วมก็ไม่มีปัญหาแน่นอน จะให้เห็นเหมือนกันทั้งหมดไม่ได้ แม้แต่บริษัทเดียวกันใช้อำนาจบังคับให้เห็นไปครั้งหนึ่งยังยาก ยิ่งทางการเมืองต้องเคารพเสียงประชาชน ฟังเสียงประชาชน เรื่องนี้พรรคประชาธิปัตย์ต้องฟังเสียงประชาชนเช่นเดียวกัน ถามว่าประชาธิปัตย์รับงานใคร ก็รับงานประชาชน

วันเดียวกันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โพสต์ภาพคู่ “ซอฟเสริฟกัญชา ไอศกรีมรสนมฮอกไกโด ผสมกัญชา” พร้อมสุภาษิตผ่านเฟซบุ๊ก Anutin Charnvirakul ระบุว่า “สองคนยลตามช่อง คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม อีกคนตาแหลมคม เห็นดวงดาวอยู่พราวแพรว”      

ปัจจุบันพรรคภูมิใจไทยกำลังผลักดันร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชงฯ ที่คณะกรรมาธิการฯ พิจารณาเสร็จแล้ว แต่พรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคประชาธิปัตย์ นำโดยนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง ได้แถลงข่าวระบุว่า กรรมาธิการไม่สนใจรับฟังข้อเสนอหรือหยิบยกข้อกังวลที่สังคมเป็นห่วงขึ้นมาพิจารณา จำเป็นที่พรรคประชาธิปัตย์จะพิทักษ์รักษาผลประโยชน์ของประชาชน โดยการลงมติไม่รับกฎหมายดังกล่าว

นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสงขลา รองโฆษกพรรคภูมิใจไทย ตอบโต้นายจุรินทร์ว่า  การที่ท่านไม่เห็นด้วยกับ พ.ร.บ.กัญชาฯ  มันเป็นสิทธิ์ที่ท่านทำได้ แต่การที่ท่านบอกว่าไม่เอาเลย เพราะกลัวกัญชาเสรีเกินไป ตรงนี้มันย้อนแย้ง เนื่องจาก พ.ร.บ.ที่ท่านปฏิเสธเสียงแข็งนี่เองคือตัวที่จะเข้ามาคุมอย่างครบวงจร

ท่านเล่นนอกเกมตรงไหน คำตอบคือ ที่ผ่านมาเมื่อ กมธ.พิจารณากฎหมายเสร็จ สภาก็ต้องพิจารณาไปตามข้อบังคับคือพิจารณารายมาตราไป ไม่เห็นด้วยกับมาตราไหนก็อภิปราย ไม่เห็นด้วยก็ลงมติไม่เห็นชอบ ตามเอกสิทธิ์ของสมาชิกสภา แบบนี้จะทำให้การทำงานไปได้ และเป็นเรื่องที่ทำกันมาตลอด

เขากล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้เป็นร่างพระราชบัญญัติของคณะกรรมาธิการที่สภาแต่งตั้ง ไม่ใช่ร่างพระราชบัญญัติของพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์กำลังทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องการเมืองระหว่างพรรค การเสนอให้กลับไปทบทวนไม่เคยปรากฏในประวัติศาสตร์ของรัฐสภาไทย พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งอ้างประชาชน อ้างว่าเป็นพรรคการเมืองที่ยึดมั่นในระบบรัฐสภา ต้องตอบคำถามให้ได้ว่าเจตนาแท้จริงที่ทำเช่นนี้เพื่ออะไร ตรงนี้คือสิ่งที่เราสงสัย

"พ.ร.บ.กัญชาฯ มีทุกฝ่ายเข้าร่วม มีภาคประชาชนด้วย อันที่จริงการทำเรื่องกัญชามันก็มาจากแรงหนุนของประชาชนนั่นเอง ให้ไปดูยอดลงทะเบียนปลูกที่แอปปลูกกัญ เขาขอกันเป็นล้านๆ คน มีคนเข้าแอป 50-60 ล้านครั้ง กัญชาคือความหวังของประชาชน แล้ววันนี้ท่านมาล้ม พ.ร.บ. ท่านมาเรียกร้องให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติด แบบนี้ผมเรียกว่าการระรานประชาชน มันถูกต้องหรือไม่" นายณัฏฐ์ชนนกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุม คณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์ ครั้งที่ 5/2565 เมื่อวันที่พฤศจิกายน 2565 โดยมี นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในการประชุมนั้น ได้มีกรมและกองต่างๆ ภายในกระทรวงสาธารณสุขมาสรุปผลการดำเนินงานปีงบประมาณ 2565 และแนวทางการขับเคลื่อนกัญชาทางการแพทย์ในปี 2566 โดยภาพรวมของการขับเคลื่อนที่ผ่านมา เน้นใน 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ การเข้าถึงยาที่มีคุณภาพของผู้ป่วย การพัฒนาวิจัยและนวัตกรรม การคุ้มครองผู้บริโภค และการปกป้องกลุ่มเปราะบาง 

ส่วนแนวทางการขับเคลื่อนในปี 2566 ก็ยังคงเน้นการขับเคลื่อนใน 4 ประเด็นเดิม โดยบูรณาการทำงานทุกกรมกองให้เชื่อมร้อยกัน สร้างสมดุลระหว่างการส่งเสริมการใช้และผลักดันให้กัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจและการคุ้มครองความปลอดภัยของสาธารณชน และเพิ่มเติมอีก 2 ประเด็นในการขับเคลื่อนคือ การสร้างความรอบรู้ด้านกัญชา และการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพ

นพ.ประพนธ์ย้ำว่า การวิจัยและพัฒนานวัตกรรมกัญชาทางการแพทย์  เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ส่งเสริมให้เกิดการใช้ในผู้ป่วยที่ปลอดภัย และยังเป็นชุดข้อมูลในการเสนอเข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร โดยปัจจุบันเรามียากัญชาทั้งในรูปแบบสารสกัดและยาตำรับแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านจำนวน 10 รายการ และอยู่ระหว่างการพิจารณาอีก 1 รายการ ซึ่งยาเหล่านี้ประชาชนสามารถเข้าถึงโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย นอกจากนั้นแล้วยังให้ความสำคัญกับการยกระดับองค์ความรู้ทางการแพทย์แผนไทยให้มีความทันสมัย เพิ่มการยอมรับของผู้ป่วย โดยกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกได้นำยาตามองค์ความรู้ดั้งเดิมมาพัฒนาให้อยู่ในรูปแบบที่สะดวกต่อการใช้ ในขณะเดียวกันก็ยังคงไว้ซึ่งประสิทธิผลในการรักษา

 “ในปี 2566 เราจะเน้นเรื่องการสร้างความสมดุลของการใช้และความปลอดภัย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์และบริการในท้องตลาด ที่จะนำข้อกฎหมายมาบังคับใช้ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ในขณะเดียวกัน การสร้างความรอบรู้ให้ผู้บริโภคและผู้ป่วยก็จะดำเนินการควบคู่กัน โดยจะเตรียมการสื่อสารทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ เพื่อเตรียมพร้อมกับการเปิดประเทศที่จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเพิ่มขึ้น” นพ.ประพนธ์กล่าวทิ้งท้าย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง