ส่อแลนด์สไลด์จริง! ซูเปอร์โพลประเมินโอกาสสูง/นิด้าชี้คนเหนือหนุนอุ๊งอิ๊งค์

ซูเปอร์โพลชี้ "เพื่อไทย แลนด์สไลด์" มีโอกาสสูง ภาคอีสานได้ส.ส.ร้อยละ 45.6 ภาคเหนือ 32.9 กทม. 29.6 เชื่ออาจเกิดขึ้นจริงเหมือนชัยชนะของ "ชัชชาติ" ส่วน "นิด้าโพล" เผยคนเหนือหนุน "อุ๊งอิ๊งค์" เป็นนายกฯ พร้อมเลือก พท.อันดับหนึ่ง ประธานวิปรัฐบาลจ่อหารือวิปฝ่ายค้านเหตุสภาล่ม แต่ "สุทิน" โบ้ย รบ.ต้องรับผิดชอบองค์ประชุมไม่หวั่นไหว "ภท.-ปชป.-สอท." เจาะพื้นที่อีสานเย้ยชาวบ้านไม่เอา ขณะที่ "ปชป." เปิดตัว 9 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.โคราช ไม่สนใจจะยุบสภาวันไหน

เมื่อวันอาทิตย์ นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง เพื่อไทย แลนด์สไลด์ กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 1,643 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 1-5 พฤศจิกายน พ.ศ.2565 ที่ผ่านมา พบว่า ถ้าวันนี้เป็นวันเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งด้วยจำนวนที่นั่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ หรือจำนวนผู้แทนราษฎรจากพรรคการเมืองมากที่สุด คือ 25 ที่นั่ง และอาจสูงขึ้นถึง 30 ที่นั่ง ในการตัดสินใจของประชาชนทั้งประเทศ รองลงมาคือพรรคภูมิใจไทย ประมาณการว่าจะได้ 21 ที่นั่ง และอาจจะสูงถึง 26 ที่นั่ง ตามมาด้วยพรรคพลังประชารัฐ คาดว่าจะได้ 16 ที่นั่ง หรืออาจจะสูงถึง 21 ที่นั่ง โดยยังไม่มีปัจจัยย้ายพรรคของ ส.ส. จากพรรคพลังประชารัฐและความขัดแย้งจนแพแตกแยกทางกันเดินระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เกิดขึ้นเพิ่มเติม

อันดับที่สี่และอันดับที่ห้าสูสีกันคือ พรรคประชาธิปัตย์กับพรรคก้าวไกล โดยพรรคประชาธิปัตย์คาดว่าจะได้ 11 ที่นั่ง และพรรคก้าวไกลคาดว่าจะได้ 9 ที่นั่ง เป็น ส.ส. ผู้แทนราษฎรส่วนของพรรคการเมือง ตามด้วยส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนา 3 ที่นั่ง และพรรคการเมืองอื่นๆ จำนวน 10 ที่นั่ง และมีอีกจำนวนที่นั่งที่อาจจะเทไปให้พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งอีกจำนวน 5 ที่นั่ง

เมื่อจำแนกตามภูมิภาค พบว่า พรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ในภาคอีสาน ร้อยละ 45.6 รองลงมาคือภาคเหนือ ร้อยละ 32.9, ในกรุงเทพมหานคร ร้อยละ 29.6,  ในภาคกลางร้อยละ 8.0 และในภาคใต้ร้อยละ 6.3 ตามลำดับ ในขณะที่พรรคภูมิใจไทย ได้ในภาคกลางมากที่สุดคือร้อยละ 26.2, ภาคใต้ได้ร้อยละ 24.0, ภาคอีสานได้ร้อยละ 21.2, กรุงเทพมหานครได้ร้อยละ 19.3 และภาคเหนือได้ร้อยละ 7.8 ตามลำดับ

สำหรับพรรคพลังประชารัฐ ในเงื่อนไขว่า ยังไม่มีการย้ายพรรคของ ส.ส. และยังไม่เกิดความขัดแย้งจนแพแตกแยกทางกันเดินระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พบว่า ภาคใต้ได้ร้อยละ 26.0, ภาคกลางได้ร้อยละ 25.8, กรุงเทพมหานครได้ร้อยละ 13.3, ภาคเหนือได้ร้อยละ 7.8 และภาคอีสานได้ร้อยละ 5.8 ตามลำดับ ในขณะที่ พรรคประชาธิปัตย์ ภาคใต้ได้ร้อยละ 24.3,  ภาคกลางได้ร้อยละ 11.5, ภาคเหนือได้ร้อยละ 11.2, กรุงเทพมหานครได้ร้อยละ 7.4 และภาคอีสานได้ร้อยละ 3.7 ตามลำดับ ส่วนพรรคก้าวไกล กระจายไปได้ภาคเหนือมากสุดร้อยละ 14.0, กรุงเทพมหานครได้ร้อยละ 9.6, ภาคอีสานได้ร้อยละ 8.7, ภาคกลางได้ร้อยละ 8.2 และภาคใต้ได้ร้อยละ 4.9 ตามลำดับ

ผอ.ซูเปอร์โพลกล่าวว่า เพื่อไทยแลนด์สไลด์จะเป็นภาพที่ไม่เกินความเป็นจริง โดยเฉพาะในภาคอีสาน มีสัญญาณจากข้อมูลที่เป็นวิทยาศาสตร์ส่วนหนึ่งชี้ให้เห็นว่ามีความน่าจะเป็น ชัชชาติ เอฟเฟกต์ ที่ทำให้คู่แข่งขันทางการเมืองแตกกระจายเป็นส่วนย่อยๆ ไร้พลังสู้ เกิดขึ้นในการสู้รบทางการเมืองระดับชาติได้ คือ พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล เข้มแข็ง ในขณะที่พรรคคู่แข่ง เช่น พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาธิปัตย์ จะถูกปั่นกระแสทำลายให้อ่อนแอ ทั้งจากภายในฝ่ายรัฐบาลเอง ฝ่ายค้านและฝ่ายอื่นๆ จึงอาจจะเห็นภาพเพื่อไทยแลนด์สไลด์เกิดขึ้นแท้จริงก็เป็นไปได้เหมือนชัยชนะที่ชัชชาติทำได้มาแล้ว

คนเหนือชู 'อุ๊งอิ๊งค์' นายกฯ

ทางด้านศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง “คนที่ใช่ พรรคที่ชอบ ของคนเหนือ” ระหว่างวันที่ 28 ตุลาคม-2 พฤศจิกายน 2565 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และมีสิทธิเลือกตั้งในภาคเหนือ 2,000 หน่วยตัวอย่าง เมื่อถามถึงบุคคลที่คนเหนือจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 31.70 ระบุว่าเป็น น.ส.แพทองธาร (อุ๊งอิ๊งค์) ชินวัตร (พรรคเพื่อไทย) เพราะเป็นคนรุ่นใหม่ ชื่นชอบพรรคเพื่อไทย นโยบายของพรรคทำได้จริง ขณะที่บางส่วนระบุว่า ชื่นชอบผลงานของตระกูลชินวัตร อันดับ 2 ร้อยละ 15.00 ระบุว่าเป็นนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล) เพราะเป็นคนรุ่นใหม่ เป็นคนมีวิสัยทัศน์ ขณะที่บางส่วนระบุว่าชื่นชอบนโยบายและอุดมการณ์ทางการเมืองของพรรคก้าวไกล อันดับ 3 ร้อยละ 12.65 ระบุว่ายังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้

อันดับ 4 ร้อยละ 12.50 ระบุว่าเป็น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะเป็นคนซื่อสัตย์สุจริต ทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบ และต้องการให้บริหารประเทศอย่างต่อเนื่อง, อันดับ 5 ร้อยละ 6.55 ระบุว่าเป็นคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคไทยสร้างไทย) เพราะเป็นคนมีประสบการณ์ด้านการบริหาร ชื่นชอบนโยบายของพรรค ขณะที่บางส่วนระบุว่า ต้องการเปิดโอกาสให้ผู้หญิงเข้ามาบริหารประเทศ, อันดับ 6 ร้อยละ 6.20 ระบุว่าเป็น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส (พรรคเสรีรวมไทย) เพราะเป็นคนตรงไปตรงมา มีความซื่อสัตย์สุจริต และชื่นชอบวิธีการทำงาน, อันดับ 7 ร้อยละ 3.85 ระบุว่าเป็น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว (พรรคเพื่อไทย) เพราะ เป็นคนที่พูดจริงทำจริง มีประสบการณ์ด้านการบริหาร และชื่นชอบพรรคเพื่อไทย

อันดับ 8 ร้อยละ 2.50 ระบุว่าเป็นนายกรณ์ จาติกวณิช (พรรคชาติพัฒนากล้า),   อันดับ 9 ร้อยละ 2.00 ระบุว่าเป็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล (พรรคภูมิใจไทย),  อันดับ 10 ร้อยละ 1.85 ระบุว่าไม่ตอบ/ไม่สนใจ, อันดับ 11 ร้อยละ 1.10 ระบุว่าเป็น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ (พรรคประชาธิปัตย์), อันดับ 12 ร้อยละ 1.05 ระบุว่าเป็น ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ (พรรคสร้างอนาคตไทย) และร้อยละ 3.05 ระบุอื่นๆ

สำหรับพรรคการเมืองที่คนเหนือมีแนวโน้มจะเลือกให้เป็น ส.ส.แบบแบ่งเขต ในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 48.70 ระบุว่าเป็นพรรคเพื่อไทย, อันดับ 2 ร้อยละ 16.40 ระบุว่าเป็นพรรคก้าวไกล, อันดับ 3 ร้อยละ 10.40 ระบุว่ายังไม่ตัดสินใจ,  อันดับ 4 ร้อยละ 8.05 ระบุว่าเป็นพรรคพลังประชารัฐ, อันดับ 5 ร้อยละ 5.45 ระบุว่าเป็นพรรคประชาธิปัตย์, อันดับ 6 ร้อยละ 2.50 ระบุว่าเป็นพรรคเสรีรวมไทย, อันดับ 7 ร้อยละ 2.20 ระบุว่าเป็น พรรคภูมิใจไทย, อันดับ 8 ร้อยละ 2.05 ระบุว่าเป็นพรรคไทยสร้างไทย และร้อยละ 4.25 ระบุอื่นๆ                

ด้านพรรคการเมืองที่คนเหนือมีแนวโน้มจะเลือกให้เป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 48.75 ระบุว่าเป็น    พรรคเพื่อไทย, อันดับ 2 ร้อยละ 16.15 ระบุว่าเป็นพรรคก้าวไกล, อันดับ 3 ร้อยละ 11.55 ระบุว่ายังไม่ตัดสินใจ, อันดับ 4 ร้อยละ 7.20 ระบุว่าเป็นพรรคพลังประชารัฐ, อันดับ 5 ร้อยละ 4.75 ระบุว่าเป็น พรรคประชาธิปัตย์, อันดับ 6 ร้อยละ 2.85 ระบุว่าเป็นพรรคเสรีรวมไทย, อันดับ 7 ร้อยละ 2.25 ระบุว่าเป็นพรรคไทยสร้างไทย, อันดับ 8 ร้อยละ 1.90 ระบุว่าเป็น พรรคภูมิใจไทย และร้อยละ 4.60 ระบุอื่น ๆ

วิปรัฐบาลจ่อหารือฝ่ายค้าน

 นายนพดล ปัทมะ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ขอบคุณผลการสำรวจความเห็นพี่น้องภาคเหนือของนิด้าโพล ที่คะแนนของพรรค พท.และตัวบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกฯ จาก พท.ได้คะแนนมาที่ 1 ทั้งคู่ เป็นเรื่องที่น่ายินดี ต้องกราบขอบคุณพี่น้องประชาชน และพท.จะเปลี่ยนการสนับสนุนเป็นความมุ่งมั่นทำงานหนักเพื่อประชาชนทุกจังหวัดต่อไป ปัจจัยชี้ขาดการเลือกตั้งครั้งหน้าคงจะเป็นเรื่องตัวแคนดิเดตนายกฯ และความเชื่อมั่นในตัวพรรคว่าจะทำสำเร็จตามนโยบายหาเสียงหรือไม่ ซึ่งประชาชนรับรู้ถึงผลงานที่ชัดเจนของพรรคว่าเคยทำตามที่พูดและทำให้ชีวิตประชาชนดีขึ้น

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล ให้สัมภาษณ์กรณีที่การประชุมสภาล่มเมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า วันที่ 7 พ.ย. จะมีการประชุมวิปรัฐบาลที่ทำเนียบรัฐบาล คิดว่าก็คงจะมีการหยิบยกเรื่องการประชุมล่มครั้งแรกของสมัยประชุมสุดท้ายมาพิจารณาหารือกันในพรรคร่วมรัฐบาลก่อน แล้วหลังจากนั้นก็จะต้องมีการหารือกันในวิปฝ่ายค้านด้วย เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของฝ่ายนิติบัญญัติ ที่จะต้องมีความรับผิดชอบร่วมกันทั้งสองฝ่าย เพราะการประชุมวาระพิเศษเป็นการประชุมวันศุกร์ เพื่อพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ที่พิจารณาเสร็จแล้ว ซึ่งยังค้างอยู่มาก หากได้ผ่านความเห็นชอบของสภาไปแล้ว ก็จะเกิดประโยชน์และส่งเป็นข้อสังเกตให้รัฐบาลเพื่อจะได้ดำเนินการต่อไป แต่ถ้าค้างอยู่ในสภาก็ไม่มีประโยชน์อะไร จึงอยากจะเร่งรัดในส่วนนี้ และทุกฝ่ายในช่วงแรกก็เห็นด้วยกับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่าควรจะมีการประชุมพิเศษในวันศุกร์เพื่อพิจารณาเรื่องนี้โดยเฉพาะ

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่เมื่อวานนี้นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ว่านายกรัฐมนตรีจะใช้เทคนิคในการยุบสภาช่วงประมาณวันที่ 10 มีนาคม 2566 เพื่อที่ ส.ส.จะได้ย้ายพรรคไม่ทัน นายชินวรณ์ กล่าวว่า คุณวีระกรก็พูดแบบนี้หลายครั้งแล้ว แต่ว่าคุณวีระกรก็ไม่สามารถรับผิดชอบการพูดต่อท่านนายกฯ หรือการพูดต่อพรรคของคุณวีระกรได้ ขอให้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของคุณวีระกร

 นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงการประชุมสภาล่มจะมีการพูดคุยในที่ประชุมวิปพรรคร่วมฝ่ายค้านหรือไม่ว่า ฝ่ายค้านไม่จำเป็นต้องคุย รัฐบาลต้องคุยกันมากกว่า ต้องขอความร่วมมือและให้รัฐบาลรับผิดชอบองค์ประชุม ถ้ารัฐบาลทำหน้าที่รับผิดชอบองค์ประชุม สภาล่ม คงไม่เกิดขึ้น

เมื่อถามถึงการยุบสภาตามที่นายวีระกร คำประกอบ ให้สัมภาษณ์ นายสุทิน กล่าวว่า ก็มีเหตุผล รัฐบาลคงลากไปยาวที่สุด ถ้าเขาจะยุบหรือไม่ยุบสภาก็มีเหตุผลสำคัญอยู่คือ เขาได้เปรียบหรือไม่ช่วงที่เขาจะยุบสภา ถ้าไม่ได้เปรียบก็คงไม่ยุบ วันนี้กระแสความนิยมอยู่ในช่วงขาลงคงไม่รีบยุบหรอก คงลากยาว และก็กำลังใช้งบประมาณในช่วงข้าวใหม่ปลามัน คงจะไม่ยุบสภาง่ายๆ แต่ความแตกแยกในรัฐบาลก็เริ่มหนักหน่วงขึ้นทุกวัน อาจจะเป็นปัจจัยเชิงลบที่ทำให้ยุบสภาง่ายขึ้น แต่ก็คิดว่าที่นายวีระกรพูดก็ใกล้เคียงมีเหตุผลอยู่ ส่วนพรรคเพื่อไทยเตรียมมาตลอดอยู่แล้ว เตรียมการเลือกตั้ง ยุบสภาพรุ่งนี้ก็พร้อม คิดว่าเราพร้อมกว่าทุกพรรคด้วย

เมื่อถามว่า พรรคหวั่นไหวหรือไม่ ที่พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคสร้างอนาคตไทย จะเจาะพื้นที่ภาคอีสาน นายสุทินกล่าวว่า ไม่หวั่นไหว เพราะประชาธิปัตย์เจาะพื้นที่อีสานไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าภูมิใจไทยเจาะพื้นที่ภาคอีสานก็ต้องตอบคำถามว่าเขาอยู่แบบเดิมๆ กับคนเดิมๆ คงไม่สน และเชื่อว่าคนอีสานคงไม่เอา สำหรับพรรคสร้างอนาคตไทย คิดว่ายังคงต้องทำให้คนอีสานรู้จักเขาอีกเยอะ ใช้เวลานาน และเรายังมั่นใจว่าจะยังสามารถรักษาพื้นที่ภาคอีสานไว้ได้

ปชป.เปิดตัวผู้สมัครโคราช

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงการหาเสียงที่ จ.หนองคาย ว่าเป็นการนำเสนอผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ซึ่งเราเลือกคนดี มีความสามารถ ทำงานจริง และรับประกันได้ว่าเมื่อได้มีโอกาส จะไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะพรรคเราเกิดมาได้ เพราะผลงาน ซึ่งถูกใจประชาชน

ที่อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมืองฯ จ.นครราชสีมา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ลงพื้นที่เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. นครราชสีมา 9 เขต ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี และเปิดศูนย์ประสานงานพรรคประชาธิปัตย์  จ.นครราชสีมา ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ไฟว์สตาร์ มาร์โค ถ.จอมพล ต.ในเมือง โดยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 9 เขต ที่นำร่องเปิดตัวในวันนี้ ถือเป็นผู้ที่มีศักยภาพ มีความหลากหลาย ทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่ นักกีฬาทีมชาติ อดีต ส.ส. และนักการเมืองท้องถิ่น

นายจุรินทร์ กล่าวว่า  ถือว่าประชาธิปัตย์พร้อมที่สุดยุคหนึ่งสำหรับการเตรียมผู้สมัครในภาคอีสาน ซึ่งจะได้ทยอยเปิดตัวไปเรื่อยๆ ในอีกหลายจังหวัด รวมทั้งที่จังหวัดนครราชสีมา จะมีชุดอื่นๆ ถัดไปจนกระทั่งครบ 16 เขต ซึ่งมีคนรุ่นใหม่หลายคน ที่มั่นใจว่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดอีกทางหนึ่งสำหรับชาวโคราช

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส. และรองหัวหน้าพรรคปชป. กล่าวผู้มีอำนาจยุบสภามีคนเดียวคือ นายกรัฐมนตรี ยังไม่เคยเอ่ยวาจาหรือส่งสัญญาณใดๆ ถึงวันยุบสภาแต่อย่างใด ในส่วนของปชป.จึงไม่สนใจว่าจะยุบสภาวันไหน แต่เรามุ่งมั่นตั้งใจที่จะใช้เวลาที่เหลืออยู่ทำงานตามอำนาจหน้าที่ และนโยบายที่เคยประกาศไว้อย่างเต็มกำลังความสามารถทุกเวลานาที พรรคได้มีการเตรียมการเลือกตั้งผ่านกลไกการขับเคลื่อน 3 องค์ประกอบสำคัญของการเลือกตั้งคือ 1. นโยบายสาธารณะ 2. ผู้สมัครรับเลือกตั้ง 400 เขตทั่วประเทศ ผู้สมัครบัญชีรายชื่อ 100 คน 3. ยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง เพื่อนำไปสู่ชัยชนะในการเลือกตั้ง  

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทศพล โชติคุตร์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เดินทางไปยัง จ.ชุมพร เพื่อเปิดตัวนายลิขิต ศรีชาติ ทนายความชื่อดัง อดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 ครอบคลุมพื้นที่ อ.ท่าแซะ และ อ.ปะทิว

ที่โรงแรมดิเอ็มเพรสเชียงใหม่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ พรรครวมแผ่นดินประชุมเลือกสมาชิกพรรคเพื่อจัดตั้งสาขาพรรครวมแผ่นดินภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่1/256 เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่จะมาถึง โดยมี น.ส.กชพร เวโรจน์ ที่ปรึกษาพรรคพร้อมด้วย นายจำลอง ครุฑขุนทด เลขาธิการพรรคและกรรมการบริหารพรรคมาร่วมประชุม พร้อมกับสมาชิกพรรคในภาคเหนือกว่า 500คน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชงไทยบี้เมียนมา งดขายน้ำมันให้ เจรจาสันติภาพ

"โรม" เสนอให้ไทยงดขายน้ำมันให้ "เมียนมา" ปูดใช้ไทยฟอกเงินเครือข่ายซื้ออาวุธที่ใช้ปฏิบัติการ เตือนถูกดึงไปเอี่ยวร่วมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์