ไม่กลายพันธุ์‘สธ.’เอาอยู่

ลดลงต่อเนื่อง ยอดติดเชื้อใหม่ 5,947 ราย เสียชีวิต 62 ราย "บิ๊กตู่" พอใจเปิดประเทศแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ นักท่องเที่ยวแห่จองห้องพัก ย้ำเปิดสถานที่ต้องฟังหมอ ห่วงยังมีสถานบันเทิงมั่วสุมไม่มีมาตรการป้องกันโควิด ระบุปี 65 จัดซื้อวัคซีนไว้แล้ว 60 ล้านโดส "ครม." อนุมัติเงินกู้ 20,000 ล้านให้ สปสช. "สธ." มั่นใจหากโควิดไม่กลายพันธุ์รับมือได้ "เชียงใหม่-สงขลา" เตรียมอำเภอนำร่องท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 16 พ.ย. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์ในประเทศไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5,947 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 5,883 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 5,662 ราย ค้นหาเชิงรุก 221 ราย เรือนจำ 53 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ 11 ราย มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 2,030,700 ราย​ หายป่วยเพิ่มขึ้น 7,943 ราย​ มียอดหายป่วยสะสม 1,918,452 ราย​ อยู่ระหว่างรักษา 92,105 ราย อาการหนัก 1,775 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 411 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 62 ราย เป็นชาย 34 ราย หญิง 28 ราย เป็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 47 ราย มีโรคเรื้อรัง 12 ราย พบผู้เสียชีวิตมากสุดที่นครศรีธรรมราช 6 ราย ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 20,143 ราย

ส่วนยอดผู้ได้รับวัคซีนของประเทศไทยเมื่อวันที่ 15 พ.ย. มีการฉีดวัคซีนเพิ่มเติม 399,221 โดส รวมยอดฉีดวัคซีนสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.ทั้งสิ้น 85,412,126 โดส

สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ กทม. 854 ราย, สงขลา 458 ราย, เชียงใหม่ 349 ราย, ปัตตานี 323 ราย, นครศรีธรรมราช 260 ราย, นราธิวาส 205 ราย, สุราษฎร์ธานี 189 ราย, สมุทรปราการ 165 ราย, ชลบุรี 162 ราย, ตรัง 162 ราย

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แถลงตอนหนึ่งหลังประชุม ครม.สัญจร จ.กระบี่ ว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ได้รับทราบความคืบหน้าในเรื่องการเปิดประเทศและมีแนวโน้มไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ การสั่งจองห้อง การท่องเที่ยวก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งได้สั่งให้มีการปรับวิธีการตรวจสอบต่างๆ ที่สนามบิน โดยให้ลดเวลาลงให้มากที่สุด โดยเฉพาะในระบบอิเล็กทรอนิกส์ของเรา เพื่อประหยัดเวลาและได้รับทราบว่าชาวต่างประเทศมีความพึงพอใจ ซึ่งตนได้ติดตามเรื่องเหล่านี้เป็นระยะๆ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สำหรับการจัดงานลอยกระทง ได้สั่งการให้ระมัดระวังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้ได้มากที่สุด เรื่องการเปิดสถานที่ต่างๆ ตนต้องรับฟังความคิดเห็นทางด้านสาธารณสุขจากหมอ วันนี้ขอเตือนไว้ก่อนสำหรับคนที่ฝ่าฝืนอยู่ ทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้ยาก ทำให้ไม่เป็นไปตามกรอบเวลา ต้องช่วยกัน วันนี้มีการจับกุมดำเนินคดีอยู่หลายที่ สถานประกอบการกลางคืน ท่องเที่ยว ไม่มีมาตรการอะไรเลย มั่วสุม วันหน้าเกิดอะไรขึ้นมาอีกรัฐบาลก็มีปัญหาอีก

"จากที่ฟังเสียงประชาชน ทุกคนก็พอใจและยินดีที่จะปฏิบัติตามมาตรการของรัฐ ถ้าทุกคนพร้อมยินดีร่วมมือกันก็จบ เมื่อวันที่ 15 พ.ย.ได้ไปพบกับผู้ประกอบการระดับล่าง เขาก็พอใจ ผู้ประกอบการเรือท่องเที่ยวเขาก็พอใจ ซึ่งผมก็ต้องมาดูแลสนับสนุนเขาตรงนี้อีก ทั้งเรื่องการขนส่ง บริการ ทุกคนต้องปรับตัวเองจะได้ฟื้นสักที หลายปีมาแล้วที่เราลำบากกัน" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ถามถึงการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพิ่มเติม นายกฯ กล่าวว่า ปีหน้าจัดซื้อมีการลงนามสัญญาไปแล้วกว่า 60 ล้านโดสก่อน และคิดว่าปีหน้าที่เราจำเป็นต้องรอสถานการณ์นิดหนึ่ง เพราะมีการผลิตวัคซีนชนิดใหม่ขึ้นมาอีกแล้วการวิจัยและพัฒนาขึ้นมาใหม่ จะเห็นว่าหลายประเทศมีแบบพ่นจมูกก็มี ก็ต้องติดตามกัน มีโอกาสตรงไหนเราก็ทำตรงนั้น ที่ผ่านมาเราก็ดำเนินการมาจนถึงทุกวันนี้ก็ถือว่าเราทำได้ดีถ้าเปรียบเทียบกับงบประมาณในเรื่องของการเยียวยาประชาชน

"ขอย้ำอีกครั้งหนึ่ง ประเทศไทยเป็นอันดับ 2 ในเอเปกที่ดูแลประชาชนได้ดีที่สุดรองจากชิลี ทั้งหมด 21 ประเทศ ซึ่งรวมทั้งประเทศมหาอำนาจด้วย เราใช้งบประมาณไปถึง 25% ของจีดีพีในการดูแลเยียวยาตรงนี้ เพราะเราเป็นห่วงประชาชนจริงๆ" นายกฯ กล่าว

โควิดไม่กลายพันธุ์เอาอยู่

วันเดียวกัน น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม.สัญจรว่า ครม.อนุมัติวงเงิน 20,000 ล้านบาท จากวงเงินกู้เพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และชดเชย ให้แก่ประชาชนทุกสาขาอาชีพ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในโครงการค่าบริการสาธารณสุขภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (โครงการฯ) ปี 2564 รอบที่ 5 เพื่อเป็นค่าชดเชยค่าใช้จ่ายให้กับสถานพยาบาลรัฐและเอกชน รวมถึงผู้ให้บริการสาธารณสุขทั่วประเทศที่เกิดขึ้นจากการให้บริการสาธารณสุข อาทิ ค่าบริการตรวจคัดกรอง ค่าบริการรักษาพยาบาล ค่าบริการฉีดวัคซีน และค่าตรวจวินิจฉัยและรักษาภาวะลิ่มเลือดอุดตันจากการรับวัคซีนโควิด-19 (Vaccine-induced Immune Thrombotic Thrombocytopenia : VITT)

“กรอบวงเงินที่อนุมัติให้ สปสช.เพื่อนำไปใช้จ่ายในโครงการสาธารณสุขภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จะช่วยแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม” น.ส.รัชดากล่าว

ถามถึงการเยียวยาสถานประกอบการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ หลังเลื่อนเปิดกิจการไปถึงวันที่ 16 ม.ค.65 รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเคยให้หลักการไว้ว่าจะให้ผับ บาร์ คาราโอเกะ และสถานบันเทิงเปิดกิจการวันที่ 1 ธ.ค.64 ส่วนนั้นไม่ใช่การรับปาก แต่เป็นเพียงข้อพิจารณาว่าหากสถานการณ์ทุกอย่างเหมาะสม วันที่ 1 ธ.ค. ก็มีโอกาสให้เปิดกิจการได้ แต่เมื่อ ศบค.ประชุมแล้วคิดว่าการให้เปิดวันที่ 16 ม.ค.จะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อภาพรวม

"นายกฯ ยืนยันจะดูแลภาคส่วนต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบ หากทุกอย่างพร้อมก็คงมีคำตอบมาให้ได้มากกว่านี้ แต่สถานการณ์ขณะนี้ก็ยืนยันไปตามนี้ก่อน ส่วนภาคส่วนอื่นที่ได้รับความเดือดร้อนทางรัฐบาลจะรีบเข้าไปดำเนินการคลี่คลายสถานการณ์" รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าว

ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงความคืบหน้าการบริหารจัดการเตียงโควิด-19 ว่าขณะนี้สถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น อัตราการตายลดลง โดยส่วนใหญ่ของการพบผู้ติดเชื้ออยู่ในพื้นที่ภาคเหนือและใต้ ส่วน กทม.และปริมณฑลลดลง ทำให้ฮอสพิเทลของโรงพยาบาลรัฐทยอยปิดตัวลง เหลือแต่ของโรงพยาบาลเอกชนไว้ ในส่วนของโรงพยาบาลสนามเลิดสินที่เพิ่งเปิดตัว ตั้งใจไว้รองรับผู้ป่วยสีเหลือง แต่ขณะนี้ก็มีรับผู้ป่วยเข้ามาเหมือนกัน ส่วนใหญ่เป็นต่างด้าว ซึ่งการดำเนินงานใน กทม.และปริมณฑลไม่น่าห่วง เพราะมีการจับคู่กันระหว่างโรงพยาบาลเอกชนกับโรงเรียนแพทย์ ส่วนในต่างจังหวัดก็มีการนำทรัพยากรหรือบุคลากรทางการแพทย์เข้าไปช่วยเติมในส่วนที่ขาด

"หากไม่มีการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิด เชื่อว่าการอยู่กับโควิดจากนี้น่าจะรับมือได้ เพียงแต่ขอให้ 1.ทุกคนรับวัคซีน 2.คนทำงานต้องมีการตรวจด้วย ATK และคงมาตรการครอบจักรวาลในการป้องกันตนเองเอาไว้อย่างสม่ำเสมอและเคร่งครัด ก็จะทำให้ปลอดภัย" นพ.สมศักดิ์กล่าว

ถามถึงความคืบหน้ายาโมลนูพิราเวียร์ อธิบดีกรมการแพทย์กล่าวว่า ขณะนี้สัญญาการจัดซื้อดังกล่าวถูกส่งให้กรมบัญชีกลางพิจารณามา 3-4 วัน หากกรมบัญชีกลางพิจารณาเสร็จสิ้นก็สามารถดำเนินการสั่งซื้อได้ทันที และยาคงมาถึงในปีหน้า ส่วนยาแพกซ์โลวิดขณะนี้ร่างสัญญาจะซื้อจะขายทั้งราคาและจำนวนเสร็จสิ้นแล้ว

จ.เชียงใหม่ นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการเพื่อเปิดเมืองเชียงใหม่รับนักท่องเที่ยว ตามโครงการ CHARMING Chiang Mai ซึ่งวางแนวทางไว้ 2 ประเภท คือ Test and Go และ Sandbox กรณีเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยและนักท่องเที่ยวจาก 63 ประเทศกลุ่มเสี่ยงต่ำ จะใช้วิธี Test and Go ซึ่งเมื่อมาถึงเชียงใหม่ ต้องเดินทางตรงไปโรงแรมที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน SHA+ และมีโรงพยาบาลคู่ปฏิบัติการตามที่ได้ลงทะเบียนไว้ในระบบ Thailand Pass เพื่อทำการตรวจหาเชื้อและพักรอผลตรวจการตรวจ หากไม่พบเชื้อจึงจะสามารถออกไปเที่ยวได้ทุกแห่ง

สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากประเทศอื่นๆ นอกเหนือจาก 63 ประเทศ จะต้องทำการตรวจหาเชื้อในวันแรกที่มาถึง และภายใน 7 วันแรก จะสามารถท่องเที่ยวได้เฉพาะสถานที่ที่กำหนดไว้ใน 4 อำเภอนำร่อง ประกอบด้วย อำเภอแม่แตง อำเภอแม่ริม อำเภอเมืองเชียงใหม่ และอำเภอดอยเต่าเท่านั้น

นอกจากนี้ จังหวัดเชียงใหม่ยังได้เตรียมแผนเผชิญเหตุเพื่อรับมือกรณีมีการระบาดของโรคในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่อาจจะเกิดขึ้น ทั้งเรื่องสถานพยาบาล การกักกันโรค และการรักษาส่งต่อกรณีฉุกเฉินไว้แล้ว ทั้งนี้ จะได้นำไปเสนอขอความเห็นชอบต่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ และเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เพื่อพิจารณาต่อไป

จ.สงขลา นายเจษฏา จิตรัตน์ ผู้ว่าฯสงขลา กล่าวว่า จังหวัดได้เตรียมความพร้อมการเปิดประเทศของ จ.สงขลาและพื้นที่ท่องเที่ยวระยะ 2 ตามมาตรการ Covid Free Setting นำร่อง 3 อำเภอ มี อ.เมืองหาดใหญ่ และ อ.สะเดา ขณะนี้ได้ดำเนินการเตรียมความพร้อม 6 ประเด็น โดยเฉพาะต้องฉีดวัคซีนให้ได้มากกว่าร้อยละ 75 ของทุกกลุ่มประชากร.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จ่อผุด13อรหันต์นิรโทษ

กรมคุกร่อนแถลงการณ์ ยันทัณฑสถานราชทัณฑ์ช่วยชีวิต ‘บุ้ง ทะลุวัง‘ ตามมาตรฐานวิชาชีพอย่างเต็มกำลัง