เมินโพลไม่ให้ไปต่อ ‘บิ๊กตู่’ข้องใจใครถาม-ใครตอบ/12สส.กทม.ทิ้งพปชร.

“ประยุทธ์” เมินผลนิด้าโพล บอกใครถามใครตอบไม่รู้ “นพดล” สบช่องรีบบอกมาจากอานิสงส์ “แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์เรื่องค่าแรง 600 บาท/วัน พลังประชารัฐอ่วม 12 ส.ส.เมืองกรุงย้ายหนีหมด “ประวิตร” มอบ  “นฤมล” กุมบังเหียน กทม. ยังต้องลุ้นเปิดตัว “นิพิฏฐ์-อันวาร์” เพื่อไทยกัดฟันยัน ส.ส.แห่ย้ายซบภูมิใจไทยไม่กระทบแลนด์สไลด์ แต่สาปแช่งบอกพวกงูเห่าประชาชนจะลงโทษ เชื่อกลับมาได้ไม่ถึง 1 ใน 3 แน่ "พี่ศรี" จ่อร้อง กกต.สอบ "ทักษิณ" ครอบงำ พท.ขึ้นค่าแรง

เมื่อวันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม ที่ท่าอากาศยานทหาร 2  กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม และภริยา พร้อมคณะออกเดินทางไปยังกรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม  เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหภาพยุโรป สมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-สหภาพยุโรป ระหว่างวันที่ 12-15 ธันวาคม 2565

โดยก่อนเดินทาง พล.อ.ประยุทธ์ได้ทักทายสื่อมวลชนว่า "อยู่กันดีๆ นะ" จากนั้นให้สัมภาษณ์หลังถูกถามว่า มีความเป็นห่วงบ้านเมืองอะไรหรือไม่ระหว่างเดินทางไปเบลเยียม โดย พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ไม่เป็นห่วงอะไรทั้งนั้น มีคนทำงานอยู่แล้ว เป็นการทำงานไปตามระบบ นายกฯ ไม่อยู่ก็มีรักษาการแทน ส่วนงานเขาก็ทำกันอยู่ทุกวัน เพราะระดับนโยบายนายกฯ ได้สั่งการไปหมดแล้ว  กรรมการแต่ละระดับเขาก็ทำงานไป ผลสำเร็จก็ตามมา

"ก็เป็นห่วงอย่างเดียวคือ เรื่องปัญหาความขัดแย้ง ลดๆ กันเสียบ้าง เสนอข่าวอะไรก็เบาๆ หน่อย สิทธิที่เขาจะพูดอะไรก็พูดได้ ไม่อย่างนั้นจะมีผลกับการทำงาน ในเวลานี้หลายอย่างต้องดำเนินการต่อ ผ่านระยะที่ 1 ก็ต้องมีระยะที่ 2 ระยะที่ 3 ไปทำต่อ ถ้าพูดกันแล้วขัดแย้งกันไปทุกเรื่องจะไปได้อย่างไร วันเวลาที่เหลืออยู่ก็มีเวลาไม่มากนักหรอกของรัฐบาลตามรัฐธรรมนูญ ทุกอย่างว่าไปตามนั้นหมด" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีผลสำรวจนิด้าโพลที่คะแนนนิยมพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และนายกฯ จะไม่ได้เป็นรัฐบาลต่อ นายกฯ กล่าวว่าไม่รู้ โพลใครทำก็ไม่รู้ ใครทำใครตอบก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่มีผลอะไร พร้อมทำท่าผายมือทั้งสองข้าง ถามย้ำว่า ผลโพลจะส่งผลต่อการตัดสินใจหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่าไม่มี

เมื่อถามว่า กลับมาจะแสดงท่าทีทางการเมืองที่ชัดเจนได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า กลับมาค่อยว่ากัน

ขณะที่นายนพดล ปัทมะ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงประเด็นนิด้าโพลระบุว่า พท.มีโอกาสได้เป็นรัฐบาลค่อนข้างมาก 40.38%  ว่า ผลสำรวจดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ น.ส.แพทองธาร  ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ประกาศวิสัยทัศน์การประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี 2565 เมื่อวันที่ 6  ธ.ค.65  ซึ่งเป็นไปได้ว่าประชาชนมีความเชื่อมั่นในนโยบายของพรรคเพื่อไทย 10 ด้าน ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการและแก้ไขปัญหาความทุกข์ยากให้พี่น้องประชาชนได้ ซึ่งก่อนพรรคประกาศนโยบายใดออกมา ก็ได้ศึกษาว่าสามารถทำได้จริง ไม่ขายฝัน และเป็นความมุ่งมั่นตั้งใจที่อยากให้พี่น้องประชาชนหลุดพ้นจากความทุกข์ยาก โดยเฉพาะปัญหาปากท้องและหนี้สิน

ส่วนนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวประเด็นนี้ว่า เป็นการประเมินวิเคราะห์ แต่ในความเป็นจริงการเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้านขึ้นอยู่กับกระบวนการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง ยังมีอีกหลายปัจจัยที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญต่อภูมิทัศน์ทางการเมืองก่อนการเลือกตั้ง เราสร้างพรรคให้เป็นสถาบันการเมืองที่มุ่งเน้นการแก้ปัญหาให้ประชาชนและพัฒนาประเทศ ดังนั้นจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล เราต้องการมี ส.ส.เพื่อรับฟังและบรรเทาปัญหาให้ประชาชน และที่สำคัญเข้าไปในสภาเพื่อผลักดันการแก้ไข ปรับปรุง รวมถึงการออกกฎหมายสำคัญๆ ที่จะแก้ปัญหาใหญ่ๆ ให้ประชาชน สร้างโอกาส ส่งเสริมการพัฒนาประเทศ และสร้างสังคมที่เป็นธรรม

“พรรครวมไทยสร้างชาติยังเป็นพรรคใหม่ที่กำลังก้าวเข้าสู่จังหวะการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน ทั้งเรื่องการคัดสรรจัดวางตัวผู้นำ ผู้สมัคร การนำเสนอจุดยืน แนวคิดและแนวนโยบาย มั่นใจว่าจะเป็นพรรคหนึ่งที่มีศักยภาพแข่งขันในสนามเลือกตั้ง และหลังเลือกตั้งมีจำนวน ส.ส.มากเพียงพอที่จะร่วมจัดตั้งรัฐบาลแน่นอน” นายเอกนัฏกล่าว

12 ส.ส.พลังประชารัฐย้ายเกลี้ยง

วันเดียวกัน ยังคงมีความเคลื่อนไหวทางการเมืองในหลายๆ พรรค โดยเฉพาะการโยกย้ายสังกัด ซึ่งที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีรายงานว่า ในวันอังคารที่ 13  ธ.ค.ได้เตรียมแถลงข่าวเปิดตัวนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ  รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) พร้อมคณะ กับนายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์  (ปชป.) และคณะ ณ ที่ทำการพรรค โดยมีนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลังและเลขาธิการพรรค และนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคมาต้อนรับ ทั้งนี้ยังคงต้องรอติดตามความเคลื่อนไหวของนายนิพิฏฐ์ก่อน ในการประชุมยุทธศาสตร์พรรค สอท.ในวันที่ 13 ธ.ค. เวลา 09.30 น. เพราะนายนิพิฏฐ์ยังไม่ได้ยื่นใบลาออกจาก สอท. เช่นเดียวกับนายอันวาร์ที่ยังไม่ได้ยื่นใบลาออกจาก  ปชป.

รายงานข่าวจาก พปชร.ยังแจ้งด้วยว่า นอกจาก ส.ส.ย้ายเข้าแล้ว ยังมี ส.ส.เตรียมย้ายออก โดยเฉพาะ ส.ส.กทม.ทั้ง 12 คน มีแนวโน้มว่าไม่มีใครอยู่กับ พปชร.ในการเลือกตั้งครั้งหน้า โดยแยกย้ายไปหลายพรรค ทั้งพรรค รทสช.ที่ตาม พล.อ.ประยุทธ์ไป พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ที่ได้รับการทาบทามจากนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีต รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พรรคประชาธิปัตย์  (ปชป.) ที่ตามไปอยู่กับ น.ส.วทันยา บุนนาค อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ รวมไปถึงพรรคเพื่อไทย (พท.)

 “เบื้องต้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรค พปชร.ได้วางตัวนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์  อดีต รมช.แรงงาน ในฐานะเหรัญญิกพรรค เป็นผู้คุมสนามเลือกตั้ง ส.ส.กทม. ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างร่างนโยบายยุทธศาสตร์ของพรรคสำหรับชาว กทม. รวมถึงคัดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเด็กในสายของ บิ๊ก ป.  อดีตนายตำรวจผู้อยู่เบื้องหลัง พล.อ.ประวิตร”

ส่วน ส.ส.ของพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) ภายใต้การนำของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ที่เตรียมแถลงข่าวกลับมา พปชร.ในเร็วๆ นี้ พบว่ายังไม่นิ่ง เนื่องจากต้องรอดูความชัดเจนของ พล.อ.ประยุทธ์ว่าจะลงเอยที่พรรคการเมืองใด โดยในเดือน ม.ค.66 จะมีการตัดสินใจขั้นสุดท้าย รวมถึงกลุ่มสามมิตร แต่ก็มี ส.ส.จำนวนหนึ่งในกลุ่มสามมิตรได้ติดต่อไปยังพรรคเพื่อไทย (พท.) แล้ว 

ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค ในฐานะผู้อำนวยการเตรียมการเลือกตั้งพรรค พร้อมคณะ ได้ประชุมรับฟังความคิดเห็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ของพรรคจากทั่วประเทศ เพื่อจัดทำนโยบายพรรคที่ครอบคลุมกลุ่มคนทุกรุ่นทุกวัย โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยนายนิพนธ์กล่าวว่า หลังจากที่พรรคได้รับฟังข้อมูลจากทุกฝ่ายทั้งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ฯลฯ มาใกล้จะเสร็จสมบูรณ์ในเรื่องนโยบายแล้ว วันนี้จึงเป็นเวทีเพื่อรับฟังข้อเสนอแนะจากคนรุ่นใหม่ของพรรคที่ได้ลงพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง และมีความต้องการเห็นการพัฒนาประเทศไปในทิศทางไหน ซึ่งนโยบายส่วนหนึ่งจะนำมาเสนอในช่วงเลือกตั้ง และอีกส่วนหนึ่งจะนำเสนอเป็นแผนรวมทั้งหมดไปที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในวันข้างหน้าถ้าเรามีโอกาสที่จะได้นำไปปฏิบัติ เราก็จะได้ดำเนินการได้ครอบคลุมทุกมิติ และประเด็นไหนที่น่าสนใจที่จะกระทบต่อคนส่วนใหญ่ เราก็จะหยิบยกขึ้นมาทำป้ายหาเสียงเสนอต่อพี่น้องประชาชนในช่วงการเลือกตั้ง

 “ขอย้ำว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคของคนทุกกลุ่ม  และพรรคให้ความสำคัญกับคนรุ่นใหม่ที่จะมีส่วนสำคัญในการนำพาพรรคและประเทศชาติไปสู่แนวทางที่ถูกต้อง พร้อมทำการเมืองแบบสุจริต ที่พี่น้องประชาชนและส่วนรวมได้ประโยชน์” นายนิพนธ์กล่าว

ต่อมานายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ปชป.ได้เปิดใจคุยกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ของพรรค โดยให้ความเชื่อมั่นว่าบุคคลที่จะเป็นตัวแทนลงสมัครรับเลือกตั้งนั้น พรรคได้เลือกสรรมาเป็นอย่างดี และมีสัดส่วนของคนรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาเป็นกำลังหลักของพรรค ขณะเดียวกันพรรคก็มีความพร้อมในเรื่องนโยบายอย่างมาก เพราะได้รับฟังจากทุกฝ่ายจนตกผลึก เตรียมประกาศนโยบาย ซึ่งนโยบายพรรคจะครอบคลุมในทุกๆ เรื่อง ทั้งเรื่องประชาธิปไตย เศรษฐกิจปากท้อง ที่ต่อไปประชาชนทุกกลุ่มจะได้ประโยชน์ และต้องสร้างคนให้เป็นคนดีมีคุณภาพ โดยเชื่อมั่นว่าเป็นนโยบายที่ดีที่สุดในข้อจำกัดที่ผ่านการหล่อหลอมจากอดีต แก้ปัญหาปัจจุบัน เชื่อมโยงสู่อนาคต

พท.เดือดสาปแช่งงูเห่า

ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค  พท. กล่าวถึงกรณีพรรค ภท.เตรียมเปิดตัว 43 ส.ส.จาก 9  พรรคที่จะย้ายไปอยู่ จะกระทบกับการแลนด์สไลด์ของพรรคหรือไม่ว่า ไม่กระทบแน่นอน ส.ส.ของพรรคที่ย้ายไปได้เตรียมผู้สมัครรองรับไว้ครบทุกเขตแล้ว รวมทั้ง ส.ส.ทั้งหมดเข้าสู่การพิจารณาคณะกรรมการวินัยของพรรคไปแล้ว  ลักษณะของการย้ายพรรคของ ส.ส.ยุคนี้ภาพไม่เป็นบวกกับประชาชนแน่นอน เพราะประชาชนจะมองว่าเป็นพวก ส.ส.งูเห่า ชอบเอาประชาชนมาอ้างว่าย้ายไปแล้วจะได้งบประมาณมาลงพื้นที่ ถือเป็นการเอาประชาชนมาเป็นตัวประกัน

"เชื่อว่า ส.ส.เหล่านี้มีแค่หนึ่งในสามเท่านั้นที่มีโอกาสได้กลับมา พรรคก็จะระดมสรรพกำลังทั้งหมดที่มีเพื่อช่วงชิงโอกาสลงพื้นที่อย่างเข้มข้น เข้าถึงประชาชนโดยเฉพาะเขตที่ ส.ส.ย้ายพรรคให้กลับมาเป็นของเราให้ได้ทั้งหมด  เชื่อว่าประชาชนยังเป็นพวกกับพรรคเพื่อไทยอยู่ จากผลโพลที่ออกมาหลายสำนักชี้ชัดว่า พรรคการเมืองเหล่านี้ได้โอกาสจัดตั้งรัฐบาลน้อยมาก เพราะจากผลงานและแผนงานการจัดงบประมาณที่ผ่านมา เป็นการฉกฉวยโอกาสให้กับพวกพ้องตัวเองมากกว่าทำเพื่อประชาชน ส.ส.ที่ย้ายพรรคโดยอ้างว่าเพื่อให้งบประมาณมาลงพื้นที่นั้น ผมมองว่าไม่ใช่คำตอบ ประชาชนเขารู้ดี” นพ.ชลน่านกล่าว

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรค พท. กล่าวเช่นกันว่า ไม่มีผลกระทบในพื้นที่อย่างแน่นอน ฐานคะแนนเสียงของพรรค พท.กับ  ภท.เป็นคนละกลุ่มกัน การเปิดตัวคนที่ย้ายไปประชาชนมักมองว่าคนเหล่านั้นไม่มีอุดมการณ์ทางด้านการเมือง การย้ายออกจากพรรคเพื่อไทย ทั้งที่พรรคกำลังได้รับความนิยมถือว่าเป็นเรื่องแปลก รู้ๆ กันอยู่ว่าสาเหตุที่ย้ายไปเพราะอะไร 

เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าคนที่เลือกเข้ามาเป็นผู้สมัครแทนคนที่ย้ายไปจะสู้ได้ นายประเสริฐกล่าวว่า มั่นใจ ประชาชนมองว่านักการเมืองเหล่านั้นที่ย้ายไป คิดว่าประชาชนจะลงโทษให้สอบตก ถือว่าทรยศต่อพี่น้องประชาชน มั่นใจว่าจะยังสามารถแลนด์สไลด์ได้เหมือนเดิม  ประชาชนให้ความมั่นใจพรรคเพื่อไทยในเรื่องการทำงาน และอยากให้พรรคเข้ามาแก้ไขปัญหาของประเทศในการเลือกตั้งครั้งหน้า โดยเฉพาะปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ ประชาชนจึงศรัทธาและเชื่อว่าผู้ใดก็ตามที่ลงสมัครในนามพรรค จะได้รับการสนับสนุนจากพี่น้องประชาชน เพราะพรรคได้คัดเลือกผู้สมัครที่คุณสมบัติเหมาะสมเป็นตัวแทนของพรรค

ถามว่า มองว่าการย้ายพรรคของ ส.ส.ช่วงนี้เป็นการส่งสัญญาณอะไรหรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า เป็นการส่งสัญญาณว่าใกล้เลือกตั้งแล้ว และสภาอาจไม่อยู่ครบวาระ อาจจะมีการยุบสภาก่อนกำหนด 

นายก่อแก้ว พิกุลทอง สมาชิกพรรค พท.และแกนนำคนเสื้อแดง กล่าวถึงการลงพื้นที่ทำกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทย ที่ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ว่า ได้รับการต้อนรับและกระแสตอบรับจากพ่อแม่พี่น้องชาวใต้เป็นอย่างดีและอบอุ่น พรรคเพื่อไทยมีโอกาสพูดคุย แลกเปลี่ยน รับฟังปัญหา ซึ่งหากพรรคได้เป็นรัฐบาลจะเร่งแก้ปัญหาให้พี่น้องชาวใต้ ที่ผ่านมารัฐบาลก็เคยทำได้จนเป็นประวัติศาสตร์มาแล้ว ราคายางพาราขายได้ถึง 170 บาทต่อกิโลกรัม นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องปัญหาค่าครองชีพ เรามีนโยบายรายได้ขั้นต่ำ 600 บาท/วัน และค่าตอบแทนปริญญาตรีขั้นต่ำ 25,000 บาท ภายในปี 2570 สามารถทำได้จริง ส่วนปัญหาอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นยาเสพติด ราคาพลังงาน ปัญหาเหล่านี้หากได้เป็นรัฐบาลจะเข้ามาแก้ไขได้อย่างแน่นอน ซึ่งก็เคยพิสูจน์มาแล้ว

 “ในฐานะคนใต้คนหนึ่ง จึงอยากขอโอกาสให้พี่น้องชาวใต้ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแลนด์สไลด์ เลือกพรรคเพื่อไทยให้ถล่มทลาย เพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหาให้พี่น้องชาวใต้และประชาชนทั้งประเทศ” นายก่อแก้วกล่าว

10 ส.ส.เพื่อไทยย้ายแน่

ส่วนนายจักรพรรดิ ไชยสาส์น ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวยืนยันว่า จะลาออกจากสมาชิกพรรค พท.ในวันที่ 15 ธ.ค.เพื่อไปเปิดตัวเป็นสมาชิกพรรค ภท.ในวันที่ 16 ธ.ค.พร้อม 9 ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ ประกอบด้วย นายจาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ, นายธีระ ไตรสรณกุล ส.ส.ศรีสะเกษ, นางผ่องศรี แซ่จึง ส.ส.ศรีสะเกษ, นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ  ส.ส.กทม., นายรังสรรค์ วันไชยธนวงศ์ ส.ส.เชียงราย,  นายนิยม ช่างพินิจ ส.ส.พิษณุโลก, นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร ส.ส.นครนายก, นายสุชาติ ภิญโญ ส.ส.นครราชสีมา และนายนพ ชีวานันท์ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา

 “ที่เลือกไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทย เพราะพรรคเพื่อไทยหวาดระแวงว่าผมจะย้ายไปพร้อมกับน้องชาย คือนายต่อพงษ์ ไชยสาส์น ที่ย้ายไปอยู่กับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทยก่อนหน้านี้ ทางพรรคจึงจะไม่ส่งลง ส.ส.ครั้งหน้า ประกอบกับไม่เคยเรียกผมไปชี้แจงข้อเท็จจริงว่าจะย้ายไปกับคุณหญิงสุดารัตน์หรือไม่ จึงทำให้ต้องตัดสินใจไปพรรคภูมิใจไทย รวมไปถึงผมก็มีความสัมพันธ์ที่ดีตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ คือนายประจวบ ไชยสาส์น อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง กับผู้บริหารพรรคภูมิใจไทย ซึ่งผูกพันกันเรื่อยมาอยู่แล้ว รวมทั้งการบริหารงานในพรรคก็มีการดูแลแบบพี่แบบน้อง และมีแนวคิดทางการเมืองเหมือนกัน จึงทำให้ตัดสินใจไปร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย” นายจักรพรรดิระบุ

นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยุทธศาสตร์แรงงานตลอดระยะเวลา 8  ปี ภายใต้การบริหารประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถือว่าพี่น้องแรงงานไทยเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จึงวางเป้าหมายสร้างการเติบโตรายได้ของพี่น้องแรงงานอย่างยั่งยืน ด้วยการยกระดับและเน้นการพัฒนาทักษะใหม่ๆ ให้แรงงานทุกกลุ่มทุกช่วงวัย  กำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ออกมาตรการ Upskill Reskill และ New Skill เพื่อพัฒนาแรงงานให้มีทักษะตรงตามความต้องการของนายจ้าง นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพและคุณภาพให้สอดคล้องกับแนวนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจ  BCG และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative economy) และอุตสาหกรรมใหม่ที่เน้นการเพิ่มมูลค่าเพิ่ม ที่ผ่านมารัฐบาลยังสนับสนุนให้มีโครงการฝึกอบรมความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีชั้นสูง เพื่อพัฒนาแรงงานหรือพัฒนาผู้ประกอบการให้มีความรู้และทักษะฝีมือสอดคล้องกับอุตสาหกรรม 6 กลุ่มเป้าหมาย มีผู้ได้รับการฝึกอบรม  28,304 คน

 “การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำนั้น ต้องคำนึงถึงภาพรวมที่จะทำให้พี่น้องแรงงานมีรายได้เพียงพอต่อการดำรงชีพ แต่ต้องให้ความเป็นธรรมแก่นายจ้างด้วย ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้นการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่ผ่านมา จึงเป็นฉันทามติร่วมกันของคณะกรรมการไตรภาคี คือ นายจ้าง ลูกจ้าง และรัฐบาล เพื่อให้พี่น้องแรงงานเติบโตเคียงข้างไปกับเศรษฐกิจของประเทศได้ ไม่ใช่ประกาศว่าจะให้ค่าแรงขั้นต่ำเท่านั้นเท่านี้แบบไม่ปรึกษาหารือกับใคร แล้วค่อยไปหาวิธีเอาในอีก 4-5 ปีข้างหน้า ซึ่งมีแต่จะทำให้สังคมสับสนเปล่าๆ” นายธนกรกล่าว

ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า วันอังคารที่ 13  ธ.ค.นี้ เวลา 10.00 น.จะเดินทางไปยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ณ ศูนย์ราชการฯ ถ.แจ้งวัฒนะ อาคาร B กรณีนายโทนี่ (ทักษิณ  ชินวัตร) ออกมาไลฟ์พูดคุยในกลุ่ม CARE ชี้แจงนโยบายขึ้นค่าแรง  600 บาทของพรรคเพื่อไทย

"กรณีเช่นนี้อาจเข้าข่ายเป็นการชี้นำ/ครอบงำกิจกรรมหรือนโยบายของพรรคการเมือง ตามมาตรา 28-29  แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 หรือไม่ พรรคการเมืองที่ปล่อยให้บุคคลอื่นที่มิใช่สมาชิกครอบงำ/ชี้นำ อาจมีความผิดตามมาตรา 92  (3) ถึงขั้น กกต.เสนอศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคนั้นๆ  ได้" นายศรีสุวรรณระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง