แก๊ง3นิ้วอ่วมเจออีก2คดี ไบรท์รอดศาลให้ประกัน

“อานนท์-ไบรท์-ไมค์-รุ้ง” โดนกันอีกดอก พร้อมพ่วงแกนนำอีกหลายคน อัยการสั่งฟ้องมาตรา 112 และมาตรา 116 ทั้งกรณีไฮด์ปาร์กที่หน้าสำนักงานใหญ่ไทยพาณิชย์และห้าแยกลาดพร้าว “ไบรท์” พร้อมน้องใหม่ในคดีรอดคุก ศาลให้ประกันแบบมีเงื่อนไข ห้ามกระทำผิดซ้ำ

เมื่อวันที่ 19 พ.ย. พนักงานอัยการคดีอาญา 7 ได้ยื่นฟ้องนายอานนท์ นำภา, นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน, นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือไบรท์, นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์, น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง, น.ส.จิรฐิตา ธรรมรักษ์ และนายคริษฐ์ อร่ามพิบูลกิจ แกนนำม็อบคณะราษฎร เป็นจำเลยที่ 1-7 ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112, มาตรา 116 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องในการจัดการชุมนุมและปราศรัยเกี่ยวกับการโอนย้ายทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ที่หน้าสำนักงานใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ถ.พหลโยธิน เมื่อวันที่ 24-25 พ.ย.2563

โดยศาลได้ประทับฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.2887/2564 จากนั้นศาลได้อธิบายคำฟ้องและสอบคำให้การ ซึ่งจำเลยให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยศาลจะได้นัดตรวจพยานหลักฐานต่อไป

นอกจากนี้ พนักงานอัยการคดีอาญา 7 ยังได้ยื่นฟ้อง ประกอบด้วย นายอานนท์, นายชินวัตร, นายภาณุพงศ์, น.ส.วรรณวลี เอมจิตต์ หรือตี้ พะเยา, นายพงศธรณ์ ตันเจริญ, นายพรหมศร วีระธรรมจารี หรือฟ้า และนายณวรรษ เลี่ยงวัฒนา แกนนำม็อบคณะราษฎร เป็นจำเลยที่ 1-7 ในความผิดตามมาตรา 112 กรณีชุมนุมขึ้นปราศรัยหัวข้อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ และบ้านพักประยุทธ์ บริเวณห้าแยกลาดพร้าว เมื่อวันที่ 1-3 ธ.ค.2563 ด้วย

โดยนายพรหมศรกล่าวว่า อัยการได้ส่งฟ้องคดี 112 ที่บริเวณหน้า SCB และห้าแยกลาดพร้าว ทั้งหมดนี้ก็อยู่ที่ตามดุลพินิจของศาลว่าประเทศยังมีความยุติธรรม และจะอนุญาตให้ประกันตัวหรือไม่ การที่พวกเราออกมาชุมนุมเป็นไปตามหลักรัฐธรรมนูญ ซึ่งประชาชนทุกคนมีสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองไม่ว่ากรณีใดๆ ส่วนในกรณีปราศรัยเรื่องบ้านพัก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ นั้น การอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเป็นไปโดยชอบธรรมหรือไม่ การที่เราออกมาชุมนุมก็เพื่อสอบถามว่าสิ่งที่รัฐบาลทำไปถูกต้องหรือไม่ เราทำตามกฎรัฐธรรมนูญทุกอย่าง

น.ส.วรรณวลีกล่าวว่า วันนี้เรามาจับตาดูกันว่าสิ่งที่กระทรวงการต่างประเทศกล่าวอ้างในเวทีโลกเรื่องการประกันตัว จะเป็นความจริงไหม สิ่งที่พวกเราโดนกันในวันนี้ เป็นการกล่าวอ้างเกินความจริง จึงอยากให้กระบวนการยุติธรรมให้ความยุติธรรมกับทั้งคนเสื้อแดงในอดีต และคนที่โดนความผิดมาตรา 112 ในตอนนี้ด้วย

ศาลได้ประทับฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อ.2888/2564 และได้นัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 31 ม.ค.2565 เวลา 13.30 น.

ทั้งนี้ หลังศาลพิเคราะห์แล้วในคดีชุมนุมหน้าสำนักงานใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ คดีหมายเลขดำ อ.2887/2664 ศาลไม่อนุญาตให้ประกันนายอานนท์, นายพริษฐ์, นายภาณุพงศ์ และ น.ส.ปนัสยา เนื่องจากเป็นคดีร้ายแรง และจำเลยถูกดำเนินคดีหลายคดี หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว เชื่อว่าจะก่ออันตรายประการอื่น หรือหลบหนีคดี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ส่วนนายชินวัตร พิเคราะห์แล้ว อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างพิจารณาตีราคาประกัน 2 แสนบาท โดยมีเงื่อนไขห้ามกระทำการในลักษณะเช่นเดียวกับที่ถูกกล่าวหาซ้ำอีก หรือไปร่วมกิจกรรมที่อาจเสื่อมเสียต่อสถาบันฯ และห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล และให้มาศาลตามกำหนดนัดโดยเคร่งครัด และก่อนปล่อยตัวให้แจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทราบ

ขณะที่ น.ส.จิรฐิตาและนายคริษฐ์ ศาลพิเคราะห์แล้วอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างพิจารณา ตีราคาประกัน 1 แสนบาท โดยมีเงื่อนไขห้ามมิให้กระทำการในลักษณะเช่นเดียวกับที่ถูกกล่าวหาซ้ำอีก หรือไปร่วมกิจกรรมที่อาจเสื่อมเสียต่อสถาบันฯ ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล และให้มาศาลตามกำหนดนัดโดยเคร่งครัด และก่อนปล่อยตัวให้แจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทราบ

สำหรับคดีชุมนุมที่ห้าแยกลาดพร้าว คดีหมายเลขดำ อ.2888/2664 ศาลพิเคราะห์แล้วไม่อนุญาตให้ประกันนายอานนท์และนายภาณุพงศ์ เพราะถูกดำเนินคดีหลายคดี หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว เชื่อว่าจะก่ออันตรายประการอื่น หรือหลบหนีคดี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ส่วนนายชินวัตร จำเลยที่ 2 พิเคราะห์แล้ว อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ตีราคาประกัน 2 แสนบาท โดยมีเงื่อนไข เช่นเดียวกับ น.ส.วรรณวลี, นายพงศธรณ์, นายพรหมศร และนายณวรรษ โดยตีราคาประกัน 1 แสนบาท และมีเงื่อนไขกำหนดไว้

ขณะเดียวกัน ในช่วงเย็น ที่กลุ่มมวลชนอิสระได้นัดรวมพลทำกิจกรรมคาร์ม็อบ “ขับรถไล่ลุงให้ออก มึงไม่ออกพวกกูออกเอง” เวลา 17.00 น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยก่อนถึงเวลานัดได้มีมวลชนกลุ่มหนึ่งนำโดยป้าเป้า แต่งชุดท็อปครอป กล่าวโจมตีการทำงานของรัฐบาล เรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันฯ และปล่อยผู้ต้องหา 112 ที่ถูกควบคุมตัวที่เรือนจำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ประกาศแจ้งเตือนให้หยุดการกระทำ เนื่องจากพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นพื้นที่ประกาศห้ามชุมนุม ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมไม่พอใจต่างด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะที่ป้าเป้าได้ใช้ปืนฉีดน้ำฉีดใส่เจ้าหน้าที่จนต้องมีการเข้าห้ามปราบปรามและมีการยื้อยุดกัน แต่ไม่มีเหตุความรุนแรงบานปลาย และเมื่อถึงเวลา 17.00 น. ก็ไม่พบการรวมตัวของกลุ่มมวลชนอิสระ มีเพียงกลุ่มศิลปินเพลงราษฎรเล่นดนตรีให้กลุ่มป้าเป้าเต้นร้องรำทำเพลงเข้าจังหวะเท่านั้น ต่อมาเวลา 18.00 น. ได้มีมวลชนขี่จักรยานยนต์เข้ามารวมกลุ่มกันที่ฝั่งเกาะพญาไทไม่ถึง 10 คน ซึ่งอยู่ในการเฝ้าจับตาของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตรึงกำลังอยู่ในพื้นที่

ส่วน น.ส.ปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ระบุว่า วันนี้แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลทั่วโลกเปิดตัวแคมเปญ Write for Rights หรือเขียนเปลี่ยนโลก กลับมาอีกครั้งในปีที่ 20 ที่จะเชิญชวนผู้สนับสนุนจากทั่วโลกเขียนจดหมายหลายล้านฉบับให้ผู้ที่ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือครอบครัวโดยตรง เพื่อให้พวกเขารับรู้ว่าไม่ได้ต่อสู้เพียงลำพัง โดยปีนี้เคสของ น.ส.ปนัสยาจากประเทศไทยได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญนี้เป็นครั้งแรกด้วย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง