รบ.พร้อมเวทีพ่นน้ำลาย

“บิ๊กตู่” ลั่นพร้อมตอบคำถามในศึกอภิปรายถอดหน้ากากคนดี ชี้ไม่ขัดข้องหากเจตนาบริสุทธิ์ นายกฯ  กำชับรัฐมนตรีต้องช่วยกันชี้แจง อย่าให้สภาโหรงเหรง  “วิษณุ” เผยอย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้ ย้ำไม่ใช่ศึกไม่ไว้วางใจ

เมื่อวันอังคารที่ 3 มกราคม 2566 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงความพร้อมในการตอบญัตติการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามมาตรา 152 ภายใต้ยุทธการถอดหน้ากากคนดีว่า จะบอกว่าไม่พร้อมได้อย่างไรล่ะ ก็ในเมื่อเขามีมติมา เราก็พร้อมตลอด สำคัญอยู่ที่ว่าจะฟังกันหรือเปล่านั่นแหละ

เมื่อถามว่า ได้มีการกำหนดวันจากฝ่ายรัฐบาลไปแล้วหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ยังไม่ทราบ เป็นเรื่องของสภาผู้แทนราษฎร วันนี้เขายังไม่มีการเสนอมาว่าจะเป็นเมื่อไหร่อย่างไร ก็ต้องฟังทางสภาก่อน ซึ่งต้องถามกลับมายังรัฐบาล ที่มีคณะทำงานของรัฐบาลโดยคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) ก็ต้องชี้แจงกันไปว่าตรงไหนจะเหมาะสม ทั้งนี้ก็ต้องดูว่าหลายเรื่องมีความเหมาะสมกับตอนนี้หรือเปล่ากับสถานการณ์ตอนนี้ หวังผลเพื่ออะไร ก็ต้องดู

“ถ้าเจตนารมณ์อันบริสุทธิ์ ผมไม่ขัดข้องอะไรอยู่แล้วนะจ๊ะ บ้านเมืองมันมีปัญหาเยอะอยู่แล้ว เราก็พยายามทำให้เต็มที่” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

มีรายงานแจ้งว่า ในการประชุม ครม.ช่วงหนึ่ง นายจุติ  ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้แสดงความคิดเห็นต่อที่ประชุมถึงกรณีฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ โดยระบุว่า การอภิปรายครั้งนี้เป็นโอกาสให้ ครม.ได้ชี้แจงเรื่องการทำงานที่ผ่านมาอย่างเต็มที่ ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การอภิปรายของฝ่ายค้านเห็นโจทย์กันอยู่ว่ามี 5 ข้อตามที่เขาพูดกัน ทราบว่าการอภิปรายครั้งนี้ไม่มีการลงมติ แต่อาจสร้างความสับสนเข้าใจผิดแก่ประชาชน อาจเป็นการด้อยค่ากัน โดยขอให้ทุกฝ่ายรับมือการอภิปราย ให้ทำการบ้าน รัฐมนตรีแต่ละกระทรวง  กระทรวงใครกระทรวงมัน ให้เตรียมตอบคำถามเรื่องที่เกี่ยวกับนโยบายและเรื่องที่ฝ่ายค้านจะยกมาพูด ที่อาจมีการกล่าวหาเรื่องการทุจริตให้ได้ และอยากให้กำชับไปยังลูกพรรคให้เข้าร่วมประชุมสภาอย่าให้บรรยากาศโหรงเหรง

ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า หากสภาส่งเรื่องมาถึง ครม.วันนี้ก็จะมีการปรึกษาหารือทันที ว่าพร้อมไปชี้แจงต่อสภาเมื่อใด โดยตอนนี้ยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเป็นช่วงใด เนื่องจากต้องถามความพร้อม ครม.ทั้งคณะ ซึ่งการอภิปรายครั้งนี้ต่างจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ระบุเป็นตัวบุคคล แต่ครั้งนี้เป็นการอภิปรายทั่วไป ซึ่ง ครม.ทั้งคณะต้องไปตอบข้อซักถาม ทั้งนี้ หากสภายังไม่ส่งยังไม่สามารถตีตนไปก่อนไข้ได้ น่าจะไม่เหมาะสม

ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลหรือไม่กับการอภิปรายทั่วไปครั้งนี้ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่กังวล เนื่องจากเป็นเรื่องที่ทำกันมาทุกครั้ง ซึ่งตามกฎหมายระบุไว้ชัดว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสามารถสอบถามข้อเท็จจริงหรือให้ข้อเสนอแนะ ไม่ใช่การว่าหรือโจมตีเหมือนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

“เป็นการถามให้ตอบเพื่อเสนอแนะให้นำไปปฏิบัติ และจะจบลงโดยไม่มีการลงมติใดๆ ยิ่งเป็นปลายสมัยรัฐบาลยิ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนอยากจะพูด” นายวิษณุกล่าว

เมื่อถามถึงกรณีที่ฝ่ายค้านหวังว่า การอภิปรายครั้งนี้จะลดความศรัทธาของประชาชนต่อรัฐบาลก่อนถึงสนามเลือกตั้ง  นายวิษณุกล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าฝ่ายค้านคิดเช่นนั้นหรือไม่ ไม่ทราบ เนื่องจากการอ่านญัตติตามที่ปรากฏที่ยังไม่ได้รับอย่างเป็นทางการ ซึ่งนับได้ 20 ประเด็น ครอบคลุมเกือบทุกกระทรวง และรู้สึกเหมือนว่าไม่ได้พูดถึงกระทรวงวัฒนธรรม

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ต้องเตรียมความพร้อม ต้องดูว่าผู้อภิปรายนั้นอภิปรายเรื่องอะไร หากอภิปรายเรื่องงานที่ทำมา ทุกอย่างก็พร้อมที่จะตอบ คิดว่าพวกเราทำงานเต็มที่ ในส่วนที่รับผิดชอบไม่มีประเด็นอะไรที่ก่อให้เกิดความเสียหายกับพี่น้องประชาชน ฉะนั้นหากเป็นการอภิปรายกล่าวหาก็ชี้แจงด้วยข้อเท็จจริง หากอภิปรายด้วยคำแนะนำก็ควรรับฟัง ถ้าเป็นประโยชน์ก็เอาไปช่วยปฏิบัติ

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง กล่าวว่า ไม่กังวลว่าจะทำให้รัฐบาลเสียคะแนน เมื่อฝ่ายค้านถามมาเราก็ตอบด้วยเหตุผลด้วยผลงาน เราตั้งใจทำเพื่อประชาชน เพื่อเศรษฐกิจ  เพื่อรักษาคุณภาพชีวิตของประชาชนมาโดยตลอด เห็นได้จากโควิด-19 ที่ผ่านมาความสูญเสียของเราน้อยมากเมื่อเทียบกับหลายประเทศ เศรษฐกิจของเราก็แข็งแรงดีเมื่อเทียบกับหลายประเทศ และเชื่อว่าผลงานของรัฐมนตรีแต่ละท่านจะสามารถชี้แจงได้ เมื่อได้โจทย์มาเราก็คงตอบได้หมดไม่หนักใจ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง