เพื่อไทยฉาวอีก แฉชู้รองนายกฯ ชลน่านขู่ษิทรา!

เพื่อไทยฉาวอีก! “ทนายตั้ม” เปิดอักษร ย.โยงรองนายกฯ ยุคยิ่งลักษณ์คบชู้ “ยุทธพงศ์” ไล่รายชื่อ บอก “ยงยุทธ วิชัยดิษฐ” ไม่น่าใช่เพราะสังขารไม่ไหว โยงแรงอัดรัฐมนตรีบิ๊กตู่เป็น “ดอกทอง 2 เมีย” ให้จัดการด่วนก่อนเจออภิปราย “ชลน่าน” กัดฟันขอดูข้อกฎหมาย ขู่ษิทราหากทำพรรคเสียชื่ออาจถูกไล่พ้นสมาชิก!

เมื่อวันอาทิตย์ ยังคงมีความต่อเนื่องในกรณีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ จากกรณีโพสต์เล่าเรื่องราวที่มีผู้เสียหายขอคำปรึกษาทางกฎหมายในการฟ้องชู้ หลังพบภรรยาไปถ่ายภาพเปลือยคู่อดีตรองนายกรัฐมนตรี จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือด โดยล่าสุดเพจษิทรา เบี้ยบังเกิด ได้โพสต์ภาพแชตไลน์ซึ่งเป็นกรณีต่อเนื่องดังกล่าว พร้อมระบุข้อความว่า "คดีนี้มาปรึกษาตั้งแต่ปีที่แล้ว ก็ทำเรื่องฟ้องหย่าภรรยา ฟ้องชู้ที่เป็นอดีตรองนายกฯ ไปแล้ว แต่ปรากฏว่าได้มีการข่มขู่ คุกคามคุณ ก.มาตลอด คุณ ก.เลยอยากจะให้เรื่องนี้ออกสู่สาธารณะ เพื่อป้องกันตัวหากเป็นอะไร  และอยากให้ประชาชนได้รู้พฤติกรรมของนักการเมืองใหญ่คนนี้ จึงขอให้ช่วยดำเนินการให้"

“เรื่องนี้ค่อนข้างจะเสี่ยงกับผม จึงไม่อาจทำอะไรให้ถูกใจทุกคนได้ ผมเลยต้องทำทุกอย่างด้วยความระมัดระวัง  และพยายามให้กระทบกับพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องให้น้อยที่สุด แต่ทุกคนจะได้รู้แน่นอนครับ ถ้าเปิดไลน์คนที่เรารักแล้วเจอแชทแบบนี้เป็นคุณจะรู้สึกอย่างไรครับ?” นายษิทราโพสต์ทิ้งท้าย

ต่อมานายษิทราได้โพสต์ลงในไอจีเป็นตัวอักษร ย. ทำให้มีการเชื่อมโยงตัวอักษรย่อนี้ จะเกี่ยวข้องกับเรื่องราวที่เปิดเผยมาก่อนหรือไม่ เพราะเป็นการโพสต์หลังจากเปิดประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างอดีตรองนายกฯ กับหญิงสาว

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวเรื่องนี้่ว่า ได้โทรศัพท์ไปสอบถามนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตรองนายกฯ สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าใช่รูปท่านหรือไม่ ท่านปฏิเสธ ไม่ใช่พี่แน่นอน และเมื่อย้อนไปดูรายชื่ออดีตนายกฯ  ในยุคก่อนๆ หน้า นายทักษิณ ชินวัตร เคยเป็นรองนายกฯ  ตอนนี้อายุ 73 ปี อยู่ต่างประเทศก็ไม่น่าใช่ พล.อ.ชวลิต  ยงใจยุทธ มีภรรยาใหม่แล้ว คงไม่น่าใช่ ขณะที่รองนายกฯ  คนอื่นในรัฐบาลก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่ก็อายุมากกว่า 70 ปี  ดูท่าทางจะไม่ไหว

นายยงยุทธกล่าวต่อว่า มีนักข่าวกระซิบบอกว่า บุคคลดังกล่าวที่ถูกอ้างว่าเป็นรองนายกฯ ใส่เสื้อสีแดง อาจใกล้ชิดกับพรรคเพื่อไทย เรื่องนี้คงต้องรอทนายตั้มออกมาเปิดเผย ส่วนตัวติดต่อไปยังเจ๊ช่อที่ได้ติดต่อกับทนายตั้ม  บอกผ่านมาว่าเป็นรองนายกฯ สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เรื่องนี้คงต้องฝากสื่อไปช่วยดู มีใครบ้าง เมื่อไปดูรองนายกฯ  ยุคนั้นมี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง, นายปลอดประสพ  สุรัสวดี, นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา, นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ส่วนนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล เสียชีวิตไปแล้ว นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ปฏิเสธเสียงแข็งบอกพี่ไม่ไหวแล้ว อายุ 80 แล้ว ไม่ใช่พี่แน่นอน รองนายกฯ สมัยนั้น ยังมีโควตาจากพรรคการเมืองอื่น นายยุคล ลิ้มแหลมทอง  เคยเป็นรองนายกฯ ควบ รมว.เกษตรฯ นักข่าวก็ต้องไปตามดู หรือรอให้ทนายตั้มมาแถลงวันที่ 9 ม.ค. แต่เท่าที่ดูรูปเบื้องต้น บุคคลดังกล่าวยังไม่แก่เท่าไหร่ คงต้องเดาต่อไปว่าเป็นใคร เนื่องจากไม่มีคลิป ไม่มีรูป    

“คิดว่าสื่อน่าจะพอรู้ ถ้าผมพูดตรงๆ กลัวโดนฟ้องหมิ่นประมาท ตอนนี้ก็โดน 4 คดี เรื่องนี้เอาไว้ไม่ได้  นักการเมืองต้องมีจริยธรรม และเรื่องนี้ไม่ได้เข้าข้างพรรคเพื่อไทย ขอเรียกร้องไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้ารัฐบาล ต้องกล้าจัดการอย่านิ่งเฉย อย่าจัดการเฉพาะฝ่ายตรงข้าม มีรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์บางคน  ขอใช้คำว่าดอกทอง 2 เมีย นายกฯ ต้องจัดการ หากไม่จัดการจะจัดการเองผ่านการอภิปรายตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 แม้ก่อนหน้าจะมีคนอภิปรายเรื่องนี้ แต่ยังมือใหม่หัดขับ พูดไปก็สั่นไป เรื่องอย่างนี้ผมต้องอภิปรายเอง ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ไม่จัดการ จะไปฟ้องอาจารย์น้องให้จัดการ พล.อ.ประยุทธ์ และจะร้องให้ นพ.ชลน่านตรวจสอบจริยธรรมด้วย เพราะพรรคก็มีคณะกรรมการจริยธรรม  บุคคลดังกล่าวใส่เสื้อสีแดง อายุไม่น่าเยอะ ผู้หญิงผมทอง  อายุก็ไม่น่าเยอะ แต่ประเด็นสำคัญไปยุ่งกับเมียชาวบ้านทำไม” นายยุทธพงศ์กล่าว

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค พท. กล่าวว่า เพิ่งทราบเรื่อง เพราะเท่าที่ติดตามข่าวก็ยังไม่ได้ระบุว่าเป็นใคร สมัยไหน แต่หากเกี่ยวข้องกับพรรคคงต้องมาดูรายละเอียดว่าเกิดขึ้นสมัยนั้นจริงหรือไม่ เขาเป็นใคร  และพฤติกรรมเกี่ยวเนื่องมาถึงปัจจุบันหรือไม่อย่างไร เพราะเป็นภาพที่สังคมไม่ยอมรับ และพรรค พท.ก็ไม่สนับสนุนส่งเสริม ขอให้ว่ากันไปตามตัวบทกฎหมาย สังคมจะใช้มาตรการทางสังคมอย่างไรก็ต้องว่ากันไป

เมื่อถามว่า หากในวันที่ 9 ม.ค.นายษิทราเปิดเผยชื่อ แล้วมีการโยงมาเป็นคนของพรรค พท.จริง ในฐานะหัวหน้าพรรคจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ต้องดำเนินการว่าเกี่ยวข้องกับพรรคเราในมุมไหน อย่างไร หากเปิดออกมาแล้วไม่เกี่ยวข้องกับพรรคในปัจจุบัน เป็นเรื่องเมื่อ 10 ปีก่อน ก็ต้องไปดูข้อเท็จจริงว่าจะต้องสอบหรือไม่ ต้องว่าไปตามข้อบังคับที่เรามี เป็นเรื่องที่ต้องทำให้ชัดเจนเพื่อชี้แจงให้ประชาชนได้รับรู้ ส่วนที่นายษิทราแย้มตัวย่อมาเป็น ย. ในสมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์มีชื่อย่อนี้หรือไม่นั้น ยังไม่ได้ตรวจสอบ ขอดูรายละเอียดก่อน

ถามอีกว่า การเปิดเรื่องดังกล่าวในช่วงนี้มองว่าเป็นการดิสเครดิตของพรรคการเมือง ตัวบุคคลหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ก็คิดได้ เพราะข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามสื่อก็เห็นว่าเรื่องนี้เกิดมาเป็นปีแล้ว และเคยเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อให้บุคคลที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบแล้ว แต่อ้างว่ามีการข่มขู่คุกคามบุคคลที่เป็นสามี จึงนำเรื่องมาเปิดเผย  ซึ่งดูเหตุและผลแล้วก็คิดได้ว่าเกี่ยวข้องกับประเด็นทางการเมืองหรือไม่อย่างไร แต่ถามว่าจะเกี่ยวข้องกับพรรคหรือไม่  ก็อาจจะได้เช่นกันว่านายษิทราก็เป็นสมาชิกพรรค พท.  เขาอาจออกมาในมุมปกป้องพรรคก็ได้

ถามต่อว่า นายษิทราเป็นสมาชิกพรรค พท. ในฐานะหัวหน้าพรรคได้คุยหลังไมค์อะไรหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่มี เรื่องนี้ต้องทำให้เป็นที่ประจักษ์ชัดเจน เรามีรูปแบบคณะกรรมการ เขาเปิดมาขนาดนี้ ถ้าจะหลังไมค์ไปบอกว่าหากเป็นพรรค พท.อย่าเปิดนะ ทั้ง พท.และนายษิทราตายกันหมด ไม่เป็นที่ยอมรับของสังคมแน่นอน เราไม่ได้ห่วง หากเปิดเพื่อการปกป้องพรรค เราก็ต้องขอบคุณนายษิทราด้วย หากอดีตสมาชิกพรรคเราไปมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม หากเรามองในมุมบวกก็เป็นการเอาสิ่งที่ไม่ชอบออกไป แต่ถ้าทำแล้วเป็นการไปลบล้างสิ่งดีๆ ที่พรรคกำลังทำอยู่ ก็สามารถตีความได้ว่าเป็นการทำลาย ต้องสืบดูว่านายษิทราต้องการทำลายพรรคหรือไม่ หากมีเจตนาจะทำร้ายพรรคก็ต้องมีการตรวจสอบเช่นกัน โทษคือขับออกจากสมาชิกพรรค.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง