มท.เพิ่งตื่นตั้งกก.สอบ‘ปลัดเก่ง’

"วิษณุ" แจง ครม. มท.ตั้ง กก.จริยธรรมสอบปลัด มท.แล้ว ส่วนโทษขึ้นอยู่กับ กก.จะกำหนด "ปลัดจอมแฉ"   ชงนายกฯ เอาผิดเหตุละเมิด รธน. ดูหมิ่นเหยียดหยามศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ รองนายกฯ แจงเด้งอธิบดีกรมอุทยานฯ เข้ากรุเพื่อกันตัวออกจากพยานหลักฐาน พยานที่นำเงิน 98,000 บาทส่งให้อธิบดีกรมอุทยานฯ เข้าพบ พงส.เพื่อให้ปากคำอีก 1 คน ขณะที่ ตร.ออกหมายเรียกผู้ที่มีรายชื่อหน้าซองเงินทั้งหมด 14 คนเข้าให้ปากคำ 11, 12 ม.ค.นี้

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 10 มกราคม   นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีหลายฝ่ายเรียกร้องให้ตรวจสอบจริยธรรมของนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย  (มท.) ในการที่ใช้ถ้อยคำกับผู้ใต้บังคับบัญชาไม่เหมาะสมว่า ได้แจ้งเรื่องของปลัดกระทรวงมหาดไทยให้ที่ประชุม ครม.ทราบในวันเดียวกันนี้แล้วว่า  ทางกระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการ ตามประมวลจริยธรรม ที่ได้กำหนดว่า หากเกิดกรณีลักษณะดังกล่าวต้องให้ คณะกรรมการจริยธรรมของกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งคณะกรรมการจริยธรรมของกระทรวงมหาดไทย ที่มีนายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน   กำลังดำเนินการตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว หากผลสรุปออกมาว่าเข้าขั้นเป็นความผิดทางวินัย ก็ให้นำเรื่องเข้าสู่คณะกรรมการสอบสวนทางวินัย แค่ถ้าเข้าขั้นเป็นความผิดทางอาญา เช่น หมิ่นประมาท ก็ให้ส่งเรื่องเข้าสู่กระบวนการทางอาญาต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า คณะกรรมการสอบสวนจริยธรรมของกระทรวงมหาดไทยจะใช้เวลานานเท่าใด นายวิษณุกล่าวว่า ไม่มีกำหนด ส่วนโทษจะมีอย่างไร ขึ้นอยู่กับผลการสอบของคณะกรรมการฯ ว่าจะระบุให้ดำเนินการลงโทษอย่างไร เพราะอาจเป็นเพียงการตำหนิก็ได้

เมื่อถามว่า ถือเป็นการตั้งคณะกรรมการสอบจริยธรรมขึ้นมาเพื่อแก้เกี้ยวหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ใช่การแก้เกี้ยว เพราะกรรมการจริยธรรมของกระทรวง มท.มีมานานแล้ว

ที่ไปรษณีย์ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย (ส.ปอ.ท.) ได้จัดส่งหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยการจัดส่งผ่านทางไปรษณีย์ เพื่อเสนอแนะขอให้พิจารณาสั่งการดำเนินการตรวจสอบและดำเนินการลงโทษตามกฎหมาย หากพบว่ามีความผิดจริง กรณีนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย 2 กรณี เป็นการกระทำขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ และฝ่าฝืนกฎหมายและระเบียบของทางราชการหรือไม่ โดยหากพบว่ามีความผิดก็ขอให้สั่งการลงโทษตามกฎหมาย เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานและแบบอย่างที่ดี

นายบุญญฤทธิ์กล่าวว่า ในกรณีการพูดจาดูถูกเหยียดหยามด้วยถ้อยคำหยาบคายของข้าราชการระดับสูง ถือว่าไม่ได้เป็นแบบอย่างที่ดี และสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับหน่วยงานราชการอย่างมาก จนถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักและทวงถามหาความรับผิดชอบ ซึ่งเบื้องต้นทางกรรมการสิทธิมนุษยชนฯ ได้มีการพิจารณาและระบุแล้วว่า การกระทำดังกล่าวละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และเกียรติยศชื่อเสียงของผู้อื่น ด้วยการใช้ถ้อยคำในลักษณะดูหมิ่น เหยียดหยามและลดทอนคุณค่า ตลอดจนสร้างผลกระทบกระเทือนต่อจิตใจหรือเกียรติยศของผู้อื่น อันไม่สอดคล้องตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 4

กรณีสั่งการให้จังหวัดภูเก็ตถอนตัวจากการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน Specialised Expo 2028 ก็ถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการที่ขัดแย้งกับมติคณะรัฐมนตรี และยังไม่เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งข้าราชการพลเรือนต้องปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบของทางราชการ และปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนของทางราช ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการ พ.ศ.2551 ว่าด้วยวินัยและการรักษาวินัย โดยการกระทำนี้ยังอาจก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงตามมาด้วย ดังนั้นจึงอยากเสนอแนะและร้องขอให้นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาลในการบริหารราชการแผ่นดิน ได้พิจารณาสั่งการตรวจสอบทั้ง 2 กรณี และลงโทษอย่างเด็ดขาดหากพบความผิด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างและรักษาความถูกต้อง

วันเดียวกัน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการสอบสวนนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ที่นายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งให้เข้ามาช่วยราชการในทำเนียบรัฐบาลว่า นายรัชฎาได้มารายงานตัวต่อปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และได้ขอลา การที่มีคำสั่งให้นายรัชฏามาปฏิบัติหน้าที่ในทำเนียบรัฐบาลนั้น ไม่ได้เป็นการปกป้องแต่อย่างใด ไม่ใช่การคุ้มครองหรือทำให้นายรัชฎา พ้นจากอำนาจของกระทรวงทรัพยากรฯ  เพราะเขายังดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมอุทยานฯ อยู่ในอำนาจของกระทรวง ทส. ทุกประการ

"การย้ายให้มาอยู่ทำเนียบฯ ก็เพื่อไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับหลักฐานหรือพยานบุคคลจนทำให้พยานเกิดความหวาดกลัว ขณะเดียวกัน กระทรวง ทส.ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และเมื่อพบว่ามีมูล ก็ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง โดยมีรองปลัดกระทรวง ทส.เป็นประธาน หากมีผลสรุปออกมาว่ามีความผิดอย่างไร ก็ต้องเป็นไปตามระเบียบ เช่น ไล่ออก ปลดออก แต่ในเรื่องการดำเนินคดีอาญากรณีทุจริตนั้น ทางป.ป.ช. , ป.ป.ท. สามารถใช้อำนาจตามกฎหมายของหน่วยงานนั้นดำเนินการได้ตามปกติ เช่นเดียวกับกรณีทุจริตอื่นทั่วไป" นายวิษณุกล่าว

มีความคืบหน้าการสอบปากคำพยานที่นำเงินจำนวน 98,000 บาท ส่งให้นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อนำไปให้นายรัชฎา อธิบดีกรมอุทยานฯ วันนี้มีพยานอีก 1 คน จาก 13 คน เข้าให้ปากคำกับตำรวจ นานกว่า 1 ชั่วโมง โดยหลังให้ปากคำเดินทางกลับต่างจังหวัดทันที ไม่ให้ข้อมูลใดต่อสื่อมวลชน นอกจากนี้ มีพยานอีก 1 คนที่เป็นผู้ได้รับผลกระทบและได้รับความเดือดร้อนจากการเรียกรับเงินของนายรัชฎา เข้ามาให้ข้อมูลกับตำรวจวันนี้เช่นกัน

รวมล่าสุดพยานที่ได้รับผลกระทบจำนวน 6 คน เข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ปปป.ครบหมดแล้ว ส่วนพยานที่นำเงินจำนวน 98,000 บาทมาให้ ตอนนี้ยังเหลืออีก 1 คน ซึ่งประสานพนักงานสอบสวนขอเลื่อนให้ข้อมูล เนื่องจากติดภารกิจ และจะเข้ามาให้ข้อมูลในวันที่ 12 มกราคมนี้แทน

ส่วนรายชื่อที่ปรากฏในซองภายในห้องทำงานนายรัชฎา ตำรวจกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ออกหมายเรียกให้มาให้ข้อมูลแล้ว 14 คน เป็นระดับหัวหน้าหน่วยงาน โดยแบ่งให้มาสอบปากคำ 2 วัน วันแรกในวันที่ 11 มกราคม เรียกมาสอบ 6 คน และวันที่ 12 มกราคม เรียกสอบอีก 8 คน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง