ครม.ไฟเขียวต่อมาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซลลิตรละ 5 บาทอีก 4 เดือน ถึง 20 พ.ค.66 พร้อมเห็นชอบสินค้าควบคุม 5 รายการ นายกฯ สั่ง "คลัง-สภาพัฒน์" จับผลกระทบหลังขึ้นค่าแท็กซี่
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 17 มกราคม เวลา 13.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการขยายระยะเวลาลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 5 บาทต่อลิตรออกไปอีก 4 เดือนว่า ดำรงรักษาไว้ให้ได้ 35 บาท จริงๆ ราคาควรจะขึ้นไป 40 กว่าบาทไปตั้งนานแล้ว เราดูแลอย่างนี้ รู้หรือไม่ว่าต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ 10,000 ล้านบาทต่อเดือน เพียงเพราะลดภาษีสรรพสามิตตัวเดียว ซึ่งตอนนี้เห็นว่ายังเดือดร้อนอยู่ ต้องทำต่อไปอีก ถ้าต่ออีก 4 เดือน เท่ากับ 40,000 ล้านบาท เมื่อเราลดภาษีเหล่านี้รายได้ก็ไม่กลับมา ต้องดึงเงินตรงอื่นมา ซึ่งอาจจะมีภาษีสูงขึ้นเก็บรายได้มากขึ้น แทนที่จะเอาไปใช้อย่างอื่นแต่ต้องนำมาดูแลตรงนี้ แต่เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องตัดสินใจ เพราะประชาชนเดือดร้อน ซึ่งเรียกว่าการแก้ปัญหาแบบพุ่งเป้าเข้าใจหรือไม่ ไม่มีอะไรที่ได้เปล่าๆ จากนี้เราก็ต้องติดตามสถานการณ์ภายนอก ราคาค่าน้ำมันเป็นอย่างไรสถานการณ์สู้รบยังมีอีกหรือไม่ พลังงานมาจากไหน เหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญ รัฐบาลต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน
ทางด้านนายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ครม.อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่..) พ.ศ.....โดยเป็นการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลและน้ำมันอื่นๆ ที่คล้ายกันในบัญชีพิกัดภาษีสรรพสามิต ประเภทที่ 01.05 รายการน้ำมันดีเซลที่มีกำมะถันและรายการน้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันผสมอยู่ โดยปรับอัตราภาษีลดลงประมาณ 5 บาท/ลิตร ตามชนิดของน้ำมันดีเซล ตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค.2566 ถึง 20 พ.ค.2566 โดยเป็นมาตรการต่อเนื่องตั้งแต่ ก.พ.2565 เป็นต้นมา และจะสิ้นสุดในวันที่ 20 ม.ค. 2566 นี้
สำหรับร่างกฎกระทรวงดังกล่าว คาดว่าจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อรายได้ของรัฐ โดยกรมสรรพสามิตจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิตสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันลดลงประมาณ 10,000 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งมาตรการภาษีครั้งนี้ จะดำเนินการเป็นเวลาประมาณ 4 เดือน จึงคาดว่าจะสูญเสียรายได้ประมาณ 40,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เนื่องจากน้ำมันดีเซลเป็นต้นทุนในภาคส่วนต่างๆ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ซึ่งการลดอัตราภาษีสรรพสามิตสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันในครั้งนี้ จะช่วยรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศไม่ให้สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนและภาคธุรกิจในระดับที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ
นายอนุชากล่าวว่า ครม.ยังเห็นชอบกำหนดสินค้าควบคุมปี 2566 จำนวน 5 รายการ ได้แก่ หน้ากากอนามัย ใยสังเคราะห์ เพื่อใช้ในการผลิตหน้ากากอนามัย ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบเพื่อสุขอนามัยสำหรับมือ เศษกระดาษและกระดาษที่กลับนำมาใช้ได้อีก และไก่ เนื้อไก่ ซึ่งเป็นตามมติคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ครั้งที่ 1/2566 เมื่อวันพุธที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา
เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง จึงกำหนดให้หน้ากากอนามัยใยสังเคราะห์ (Polypropylene Spunbond) เพื่อใช้ในการผลิตหน้ากากอนามัย และผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบเพื่อสุขอนามัยสำหรับมือ เป็นสินค้าควบคุม เพื่อกำกับดูแล ติดตามผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงพอ และราคาอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม รวมทั้งเพื่อกำกับ ดูแลปริมาณและราคารับซื้อเศษกระดาษและกระดาษที่กลับนำมาใช้ได้อีกให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมและเป็นธรรม ขณะที่ไก่ เนื้อไก่ ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนที่สำคัญต่อการบริโภคของประชาชน ให้เป็นสินค้าควบคุม เพื่อกำกับ ดูแล ติดตามปริมาณไก่และเนื้อไก่มีอย่างเพียงพอ และราคาอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมและเป็นธรรมต่อประชาชนผู้บริโภคด้วย
ทั้งนี้ ประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 5 พ.ศ.2565 เรื่องกำหนดสินค้าควบคุมเพิ่มเติม จะสิ้นสุดการบังคับใช้ในวันที่ 24 ม.ค.2566 นี้ จึงมีความจำเป็นต้องออกประกาศใหม่และนำประกาศราชกิจจานุเบกษาก่อนวันสิ้นสุดผลการบังคับใช้ เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า นายกฯ กล่าวในที่ประชุม ครม. ถึงกรณีการขึ้นค่าโดยสารแท็กซี่ว่า ผู้ประกอบการขับรถแท็กซี่เป็นกลุ่มหนึ่งที่มีส่วนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งไม่ได้มีการปรับอัตราค่าโดยสารมา 8 ปีแล้ว ขณะที่อัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น และมีวิกฤตความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน จึงยังคงทำให้ราคาพลังงานและราคาเชื้อเพลิงผันผวน และมีราคาสูงขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการอาชีพรถแท็กซี่ได้รับความเดือดร้อนที่ราคาค่าโดยสารคงตัวมาเป็นเวลานาน รัฐบาลจึงให้ความสำคัญที่จะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น จึงปรับราคาค่าโดยสารรถแท็กซี่ ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 13 ม.ค.2566
อย่างไรก็ตาม ขอให้กระทรวงคมนาคม โดยกรมขนส่งทางบก ควบคุมคุณภาพการบริการให้สอดคล้องกับราคาที่ปรับขึ้น โดยเฉพาะปัญหาแท็กซี่ไม่จอดรับผู้โดยสาร การไม่กดมิเตอร์ รวมถึงการขับขี่ที่ปลอดภัย และการรักษาวินัยการจราจร นอกจากนี้ ยังให้กระทรวงการคลัง และสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ติดตามผลกระทบการปรับขึ้นค่าโดยสารอย่างใกล้ชิด หากมีความจำเป็นจะต้องมีมาตรการช่วยเหลือประชาชนในช่วงเปลี่ยนผ่าน ให้เร่งดำเนินการและเสนอเพื่อพิจารณาโดยเร็ว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พ่อนายกฯเคลียร์MOUสยบม็อบ
อิ๊งค์พร้อม! จัดชุดใหญ่แถลงผลงานรัฐบาล ลั่นรอจังหวะไปตอบกระทู้
พปชร.ขับก๊วนธรรมนัส ตัดจบที่ดิน‘หวานใจลุง’
"บิ๊กป้อม" ไฟเขียว พปชร.มีมติขับ 20 สส.ก๊วนธรรมนัสพ้นพรรค "ไพบูลย์" เผยเหตุอุดมการณ์ไม่ตรงกัน
รบ.อิ๊งค์ไม่มีปฏิวัติ! ทักษิณชิ่งสั่งยึดกองทัพ เหน็บอนุทินชิงหล่อเกิน
"ทักษิณ" โบ้ยไม่รู้ "หัวเขียง" ชงแก้ร่าง กม.จัดระเบียบกลาโหม
คิกออฟแพ็กเกจแก้หนี้ ลุ้นบอร์ดขึ้นค่าแรง400
นายกฯ เผยข่าวดี ครม.คลอดชุดใหญ่แก้หนี้ครัวเรือน "คลัง-แบงก์ชาติ"
ศาลรับคำร้อง ให้สว.สมชาย หยุดทำหน้าที่
ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง “สมชาย เล่งหลัก” หยุดปฏิบัติหน้าที่ สว.
ครม. อนุมัติงบ 1.9 พันล้าน ช่วยบรรเทาค่าไฟกลุ่มเปราะบาง เดือน ก.ย.-ธ.ค.67
นายคารม พรพลกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า สืบเนื่องจากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 23 ก.ค.67 เคยอนุมัติหลักการช่วยบรรเทาค่าไฟฟ้ากลุ่มเปราะบาง วันนี้ (11 ธ.ค.) ครม.มีมติอนุมัติงบประมาณ 1,900 ล้านบาท