สภาล่มอีกยุยุบไปเลย

"ปธ.ชวน" แจ้งสภาเหลือ ส.ส. 431 คน สวดยับองค์ประชุมล่ม พวกหนีปัญหาไม่ทำหน้าที่ผู้แทนฯ ชี้ไม่พอใจแค่ลงมติไม่รับ ฝ่ายค้านอ้างติดเดดล็อก "พ.ร.บ.กัญชาฯ" ชงเลื่อน กม.ถัดไปพิจารณาแทน เด็ก ภท.ซัดผลาญงบมหาศาล บี้ยุบสภาไปเลย สภาล่มครั้งที่ 3 จนได้ หลังผ่านกฎหมาย 2 ฉบับ

ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 19 มกราคม เวลา 12.17 น. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร  ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม หลังพิจารณากระทู้ถามทั่วไปเสร็จสิ้น ประธานสภาฯ ได้แจ้งให้ที่ประชุมรับทราบ เรื่องการสิ้นสุดสมาชิกภาพของผู้แทนราษฎร ด้วยนายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้มีหนังสือขอลาออกจากการเป็น ส.ส. ตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค.2566 จึงเป็นผลให้สมาชิกภาพ ส.ส.ของนายธนกรสิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (3) ดังนั้น ขณะนี้ ส.ส.ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่และปฏิบัติหน้าที่ได้ มีจำนวน 431 คน องค์ประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง 216 คน

ทั้งนี้ นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) หารือเกี่ยวกับวาระการประชุมว่า ปกติเราจะพิจารณากฎหมายทุกวันพุธ แต่นับจากวันนี้ไปจนถึงวันสิ้นสมัยประชุม น่าจะเหลือวันพุธไม่ถึง 5 ครั้ง ยังไม่นับที่ประธานจะกำหนดให้วันพุธบางวันประชุมร่วมของรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ…. บางวันพุธจะใช้อภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ซึ่งจะทำให้สภาเหลือเพียงแค่ 3-4 วันพุธที่ใช้พิจารณากฎหมาย ทำให้ร่างกฎหมายที่่เข้าสู่วาระ 1 และร่าง พ.ร.บ.ที่ผ่านชั้นกรรมาธิการมาแล้ว จะเข้าสู่การพิจารณาวาระ 2-3 จะไม่มีอะไรเสร็จภายใต้เวลาที่เหลือ จึงอยากให้ประธานพิจารณาเวลาที่เหลือจะผ่านกฎหมายสักฉบับจริงๆ ไปได้อย่างไร และหากผ่านวาระ 1 ไม่สามารถผ่านวาระ 3 ได้ในระยะเวลาที่เหลือของสภา

ด้านนายชวนชี้แจงว่า วิธีแก้ปัญหาโดยการทำให้ไม่ครบองค์ประชุม ไม่ใช่วิธีการของพวกเรา แต่เป็นการหนีปัญหา แสดงออกถึงความกลัว ถ้าไม่เห็นด้วยหรือไม่พอใจกฎหมายใด แค่ลงมติไม่รับ มิเช่นนั้นจะเกิดความเสียหายกับพวกเรา บางครั้งมีสมาชิกอยู่ในห้องประชุมครบ แต่ไม่ยอมแสดงตน ขอให้สู้ อย่าหนีปัญหา เวลาที่เหลือ 5 สัปดาห์หลังจากนี้ขอให้สมาชิกมาประชุมอย่างพร้อมเพรียง แม้กฎหมายจะยาว แต่จบได้ถ้าร่วมมือกัน ขอให้ใช้เวลาที่เหลืออยู่ให้เกิดประโยชน์ให้มากที่สุด ส่วนร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ.... และร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ที่หลายคนไม่เห็นด้วย ขอให้มาลงมติ อย่าหนี หวังว่าจะได้รับความร่วมมือ และตั้งใจผ่านกฎหมายไปให้ได้

นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรค พปชร. ในฐานะเลขานุการวิปรัฐบาล ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของนายพิจารณ์ และยืนยันว่าควรจะพยายามทำตามสิ่งที่เราเลื่อนขึ้นมา  ตนไม่ค่อยสบายใจเวลาที่สภาเดินต่อไปลำบาก อย่างไรก็ตาม พรรค พปชร.และพรรคร่วมรัฐบาลจะพยายามช่วยพิจารณากฎหมายให้มากที่สุด ทำให้ประธานสภาฯ กล่าวว่า ไม่ได้ตำหนิใคร เพียงแต่ขอความร่วมมืออย่างเดียว แต่ถ้าเราอยู่กันยาว กฎหมายกัญชา และอื่นๆ จะสามารถทำได้ภายใน 5 สัปดาห์นี้ ทุกอย่างอยู่ที่เราทั้งหมด

ขณะที่นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า การอ้างถึงพรรคร่วมฝ่ายค้านเรื่ององค์ประชุมล่ม แม้พรรค พท.จะอยู่ประชุมสภา แต่บางเรื่องเราคิดว่าไม่เป็นประโยชน์กับประชาชน วันนี้มีคนที่ไม่หวังดีกับสภา หาว่าสภาล่มภายใน 22 นาที ซึ่งไม่เป็นผลดีกับประชาธิปไตย พรรครัฐบาลมีมากกว่า 221 คนอยู่แล้ว เป็นองค์ประชุมได้ ท่านอย่ามาโยนฝ่ายค้านว่าไม่ให้ความร่วมมือ ส่วนนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรค พท.กล่าวว่า กฎหมายบางฉบับสมาชิกมีความเห็นต่าง จึงติดเดดล็อก จึงเสนอว่า กฎหมายฉบับใดที่ทำท่าจะเดินไม่จบ ให้สภาชุดหน้าเป็นผู้ตัดสิน หรือโดยเราก็เลื่อนระเบียบวาระที่อยู่ลำดับถัดไปมาพิจารณา เพื่อให้สามารถออกกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อไปได้

นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า กำลังสงสัยว่าการเสนอการเลื่อนวาระ จะไม่เป็นไปตามข้อบังคับการประชุม และวิถีของฝ่ายนิติบัญญัติ เพราะเรามีร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ค้างการพิจารณา การจะเสร็จหรือไม่เสร็จอยู่ที่พวกเรา จึงต้องทำให้เสร็จในเวลาที่เหลือ ตนเห็นด้วยกับนายชวน ที่บอกว่ากฎหมายที่เหลืออยู่สามารถพิจารณาได้ทัน ถ้าทุกคนให้ความร่วมมือกัน สมควรจะเป็นเช่นนั้น วันนี้ประชาชนเรียกร้องให้กฎหมายแล้วเสร็จ และมีผู้เกี่ยวข้องมากมายที่รอกฎหมายอยู่ ถ้าจะปล่อยให้ล้มไปจะเป็นปัญหาระหว่างประเทศ จึงควรจะเป็นไปตามลำดับ ไม่ควรเลื่อนกฎหมายอื่นขึ้นมาแทน

จากนั้นช่วงบ่ายได้มีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ฉบับต่างๆ ในวาระแรก ซึ่งที่ประชุมมีมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ (ฉบับที่..) พ.ศ.... และร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ พ.ศ.... ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ อย่างไรก็ตาม การพิจารณาร่างกฎหมายฉบับที่ 3 คือ ร่าง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอาการ (ฉบับที่..) พ.ศ.... ปรากฏว่าที่ประชุมไม่สามารถลงมติได้ เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ โดยนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่สอง ทำหน้าที่ประธานการประชุม แจ้งว่าขาดอีก 70 คน ต่อมาได้กล่าวต่อที่ประชุมอีกว่า วันนี้คงได้กลับบ้านเร็วอีก 1 วัน และขอปิดการประชุมในเวลา 17.05 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาล่มครั้งนี้ถือเป็นรอบที่ 3 ของปี 2566

ขณะที่เวลา 13.00 น. มีการประชุมระหว่างประธานรัฐสภากับผู้แทนคณะรัฐมนตรีและผู้แทนวิปสองฝ่าย (ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล) โดยมีนายชวน ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม ซึ่งมีผลประชุมเบื้องต้นดังนี้ ที่ประชุมรับทราบการขอความร่วมมือในการแสดงตนเป็นองค์ประชุมและการร่วมลงมติ ในกรณีที่ไม่เห็นด้วยขอให้แสดงออกโดยการลงมติไม่เห็นด้วย, ที่ประชุมรับทราบข้อเสนอของผู้แทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน ในการขอให้พิจารณากำหนดวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภาเป็นพิเศษ ในวันพุธที่ 25 ม.ค. โดยมีวาระการให้ความเห็นชอบหนังสือสัญญาและวาระร่างรัฐธรรมนูญ, ในกรณีที่วาระสำคัญของวันพฤหัสบดีไม่ค้างพิจารณาแล้ว อาจมีหารือนำวาระร่างพ.ร.บ.ในวันพุธมาพิจารณาในวันพฤหัสบดี

ในช่วงเช้าวันเดียวกัน นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีการประชุมสภาล่มบ่อยครั้ง ซึ่งล่าสุดเป็นการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ว่า เป็นการสูญเสียงบประมาณโดยใช่เหตุ เพราะการประชุมสภาแต่ละสัปดาห์ สภาต้องจ่ายเงินให้กับสมาชิกที่เดินทางมาประชุมเป็นเงินจำนวนมาก ทั้งค่าใช้จ่ายเรื่องอาหารและค่าใช้จ่ายของสภาด้วย ซึ่งถ้าเป็นลักษณะนี้ไม่คุ้มค่าและไม่สามารถทำงานได้ บรรยากาศแบบนี้เกิดขึ้นในช่วงปลายสมัยการประชุมสภา  น่าจะมีสมาชิกจำนวนหนึ่งลงพื้นที่และไม่อยากเกี่ยวข้องกับงานสภาแล้ว หากเป็นเช่นนี้ควรยุบสภาและเดินหน้าสู่การเลือกตั้งใหม่ให้ประชาชนตัดสินใจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเหตุการประชุมสภาล่มวันที่ 18 ม.ค. ที่ผ่านมา  ระหว่างลงมติมาตรา 11 ของร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ในวาระสอง จากการตรวจสอบเอกสารนั้น พรรคการเมืองที่มี ส.ส.ตั้งแต่ 10 คน ผลปรากฏดังนี้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย 121 คน ไม่อยู่ร่วมโหวต 86 คน หรือคิดเป็น 71.07%, พลังประชารัฐ 79 คน ไม่อยู่ร่วมโหวต 35 คน คิดเป็น 44.3%,  ภูมิใจไทย 62 คน ไม่อยู่ร่วมโหวต 9 คน คิดเป็น 14.51%, ประชาธิปัตย์ 50 คน ไม่อยู่ร่วมโหวต 32 คน คิดเป็น 64%, ก้าวไกล 45 คน ไม่อยู่ร่วมโหวต 22 คน คิดเป็น 48.88%, ชาติไทยพัฒนา 12 คน ไม่อยู่ร่วมโหวต 6 คน คิดเป็น 50%,  เศรษฐกิจไทย 11 คน ไม่อยู่ร่วมโหวต 7 คน คิดเป็น 63.63% และเสรีรวมไทย 10 คน ไม่อยู่ร่วมโหวต 5 คน คิดเป็น 50%.