ปลื้มฉีดวัคซีนไขว้ ลดการเจ็บ-ตาย! โมเดอร์นาถึงไทย

"บิ๊กตู่" ปลื้มสูตรฉีดวัคซีนไขว้เห็นผล ลดการสูญเสีย เจ็บตายน้อยที่สุดในรอบ 5 เดือน ขณะที่ ศบค.ไม่วางใจเชียงใหม่ส่ออันตราย เชื้อพุ่งต่อเนื่อง ด้านสถานทูตอเมริกาตีฆ้อง "โมเดอร์นา" 1 ล้านโดสถึงไทยแล้ว

เมื่อวันจันทร์ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พอใจภาพรวมแผนการบริหารจัดการและการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของไทย โดยเฉพาะวัคซีนแบบผสมผสานหรือสูตรไขว้ ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดฉีดให้ประชาชนเห็นผลอย่างมีประสิทธิภาพ

นายธนกรระบุว่า โดยสูตรไขว้ SV+AZ และ SV+SV+AZ สามารถสร้างภูมิต้านทานป้องกันโควิด-19 ที่มีอาการได้ถึง 80-90% ถือว่ามากกว่าการฉีด AZ สองเข็มที่ป้องกันโควิด-19 ที่มีอาการได้ 70-80% เห็นผลลัพธ์ในการลดอาการติดเชื้อรุนแรงหรือป่วยหนักได้เป็นอย่างดี ทำให้อัตราการเสียชีวิตลดลงอย่างเห็นผล

“รัฐบาลเดินหน้าฉีดวัคซีน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อลดลงต่อเนื่อง และเห็นผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะจำนวนผู้เสียชีวิตที่ต่ำกว่า 100 รายติดต่อกันนานมากว่าเดือนแล้ว โดยเมื่อวานนี้ (21 พ.ย.) มีผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 7,006 ราย หายป่วยกลับบ้าน 7,591 ราย และเสียชีวิต 29 ราย ซึ่งถือว่าต่ำสุดในรอบ 5 เดือนที่ผ่านมา ยอดผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ 1 เม.ย.64 จำนวน 2 ล้านราย และยอดหายป่วยสะสม 1.9 ล้านราย สะท้อนความสำเร็จในการบริหารสถานการณ์โควิด -19 ของรัฐบาล และความร่วมมือร่วมใจของบุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนทุกภาคส่วนได้เป็นอย่างดี” นายธนกรระบุ

ที่โรงแรมเฮอริเทจ จ.เชียงราย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ยืนยันไม่ขาดวัคซีน เรามีวัคซีนมากเพียงพอที่สำรองเอาไว้ สำหรับเข็ม 3 และสำหรับบุคคลที่ไม่ได้ถือสัญชาติไทย และเรายังมีมิตรประเทศมากมายที่แสดงเจตจำนงที่จะบริจาควัคซีนให้ไทย ทั้งฝรั่งเศส, จีน, ญี่ปุ่น, อังกฤษ และมิตรประเทศอีกหลายประเทศ เรามีวัคซีนมากพอที่จะดูแลชีวิตทุกชีวิตในราชอาณาจักรไทย ในขณะเดียวกันเราก็พร้อมที่จะพิจารณาบริจาควัคซีนให้ประเทศเพื่อนบ้าน หรือประเทศที่ยังเข้าไม่ถึงวัคซีนอย่างเต็มที่ หรือประเทศที่ยังมีผลกระทบล่าช้าของวัคซีนที่สั่งซื้อจาก COVAX ซึ่งประเทศไทยเราก็จะเร่งพิจารณา

นายอนุทินระบุด้วยว่า ส่วนเรื่องการเปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ที่ผู้ประกอบการร้องขอให้เปิดเร็วขึ้นนั้น เราขอค่อยๆ ปรับสีไปทีละนิด ดูสถานการณ์เป็นโซน เป็นเวลา เป็นจังหวัด ยังคงยืนยันว่าที่อันตรายที่สุดในการติดเชื้อก็คือ การเปิดผับ บาร์ คาราโอเกะ เพราะว่าจะมีในเรื่องของการใกล้ชิดกัน การรวมกลุ่ม ร่วมกันใช้ภาชนะ อาหาร น้ำแข็งต่างๆ ยืนยันว่ากรมควบคุมโรคจะพยายามหามาตรการ ถ้าเราฉีดวัคซีนกันทั่วถึงแล้ว

เมื่อเวลา 15.48 น. วันที่ 22 พ.ย. เพจเฟซบุ๊กสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยได้โพสต์ภาพกล่องบรรจุวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของยี่ห้อโมเดอร์นา (Moderna) พร้อมระบุข้อความว่า "วัคซีนโมเดอร์นา 1 ล้านโดสที่สหรัฐฯ มอบให้ไทยเดินทางมาถึงแล้ว #FriendsPartnersAllies"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับวัคซีนดังกล่าวรัฐบาลสหรัฐฯ บริจาคให้รัฐบาลไทยเพิ่มเติมตามที่เคยประกาศไว้ หลังจากก่อนหน้านี้ได้บริจาควัคซีนของบริษัทไฟเซอร์ให้ไทยมาแล้ว 1,503,450 โดส ทำให้จำนวนวัคซีนที่สหรัฐฯ บริจาคให้ไทยขณะนี้มียอดรวมราว 2.5 ล้านโดส

ด้าน นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ขณะนี้มีแนวโน้มผู้ติดเชื้อยืนยันคงที่ ขณะที่ผู้ป่วยอาการหนักลดลง ผู้เสียชีวิตยังอยู่ในหลักสิบราย โดยจังหวัดที่มีแนวโน้มต้องจับตามองเป็นพิเศษมี 13 จังหวัด แบ่งเป็น 1.ติดเชื้อเฉลี่ยเกิน 100 รายต่อวัน และผลตรวจ ATK มากกว่า 5% มี 5 จังหวัด ได้แก่ สงขลา, ตรัง, สุราษฎร์ธานี, กระบี่ และนครศรีธรรมราช 2.ติดเชื้อรายวันเฉลี่ยเกิน 100 รายต่อวัน และผลตรวจ ATK พบน้อยกว่า 5% มี 3 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น, สระแก้ว และนครราชสีมา และ 3.ติดเชื้อเฉลี่ย 50-100 รายต่อวัน มี 5 จังหวัด ได้แก่ สระบุรี, อุบลราชธานี, อุดรธานี, กาญจนบุรี และประจวบคีรีขันธ์

“ทั้งนี้ปัจจัยการติดเชื้อในช่วงนี้ส่วนใหญ่มาจากในชุมชน ครอบครัว กิจกรรมเสี่ยง ได้แก่ งานศพ, งานบุญ, งานเลี้ยงสังสรรค์ และสถานที่เสี่ยง ได้แก่ ตลาด, แคมป์คนงาน, โรงงาน, เรือนจำ, โรงเรียน ซึ่งหลายจังหวัดพบเป็นคลัสเตอร์ในสถานที่ที่มีแรงงานต่างด้าว ดังนั้นจึงต้องเฝ้าระวังปัจจัยเสี่ยงดังกล่าว และจับตาดูแนวโน้มผู้ติดเชื้อหลังงานลอยกระทงจนถึงเดือนธันวาคม เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซันที่จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศจำนวนมากขึ้น โดยเฉพาะจากยุโรปซึ่งพบการติดเชื้อสูงขึ้น” นพ.เกียรติภูมิระบุ

พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6,428 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 5,868 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 5,732 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 133 ราย มาจากเรือนจำ 553 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 10 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 2,071,009 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 49 ราย เป็นชาย 29 ราย หญิง 20 ราย

“ทั้งนี้ต้องจับตาจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อเกินร้อยและมีทิศทางสูงขึ้น คือเชียงใหม่ รวมถึงจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อไม่ถึงร้อย แต่มีทิศทางการติดเชื้อสูงขึ้น ได้แก่ เชียงราย, ลำพูน, พิษณุโลก และสิงห์บุรี" พญ.อภิสมัยระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เศรษฐา' เตรียมจ้อ 'นายกฯพบประชาชน' เดือนละครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เตรียมจัดรายการ “นายกฯพบประชาชน” ซึ่งจะจัดเดือนละ 1 ครั้งในวันเสาร์ เพื่อสื่อสารการทำงานของรัฐบาล และพูดคุยกับประชาชน