จับตาแม้ว-ปูโผล่สิงคโปร์

"บิ๊กตู่" เตรียมลงสุราษฎร์ธานี 13 ก.พ. ตรวจเยี่ยมพื้นที่บริหารจัดการน้ำ "2 อดีตแกนนำ นปช." พลิกขั้วเข้า รทสช. "ประวิตร" อารมณ์ดี "ธรรมนัส" คืนรังเก่า ลั่นลืมอดีตหมด หวังปั่น "ลุงป้อม" นายกฯ "อนุทิน" พาแกนนำ ภท.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เมืองกาญจน์ ลั่นแลนด์สไลด์ยกจังหวัดเอาไปหนึ่งรัฐมนตรี   "ปชป." โชว์ตัวผู้สมัครภาคใต้ 58 เขต 11-12 ก.พ.นี้ "ท็อป" ขอลบครหาสิ้น "บรรหาร" ชทพ.สูญพันธุ์ จับตา "ทักษิณ" โผล่สิงคโปร์

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 10 ก.พ.  นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงภารกิจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ว่าในวันที่ 13 ก.พ. มีกำหนดปฏิบัติราชการในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ำ การแก้ไขปัญหาอุทกภัยพื้นที่อำเภอไชยา และปัญหาที่ดินทำกิน รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวของ จ.สุราษฎร์ธานี รวมถึงศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น

"เราจะใช้ประเพณีการเล่นว่าวของจังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นสื่อกลางในการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวและของดีจังหวัดสุราษฎร์ธานีให้เป็นที่รู้จัก หวังให้เป็น Soft power สร้างแรงดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้เข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น และเพื่อส่งเสริมกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับชุมชน ท้องถิ่น และจังหวัด” นายอนุชากล่าว

ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายสมหวัง อัสราษี และนายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก อดีตแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. เดินทางมายื่นใบสมัครเป็นสมาชิกพรรค โดยมีนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค เป็นตัวแทนต้อนรับพร้อมสวมเสื้อพรรคให้กับทั้งสองคน

นายยศวริศ หรือ “เจ๋ง ดอกจิก” กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนมีแนวความคิดที่อยู่อีกฟากฝั่งหนึ่งตลอดกว่า 10 ปี จนมาถึงวันนี้เห็นแล้วว่าบ้านเมืองไม่ควรมีความแตกแยกอีกต่อไป ทุกคนต้องหันหน้าเข้ามาสามัคคีกัน ไม่มีแดง ไม่มีเหลือง ไม่มีนกหวีด หรือพันธมิตรฯ แต่ต้องหันหน้ามาพัฒนาประเทศด้วยกัน ไม่เช่นนั้นจะเสียเวลา ทำให้บ้านเมืองพัฒนาไปไม่ได้

 “ผมคิดว่าสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ การที่จะต้องหาจุดยืนที่มั่นคงให้กับตัวเอง การเดินหน้าต่อสู้แบบสู้เพื่อเขา เราติดคุก ที่เคยทำมาแบบเดินเข้า-ออกคุกหลายรอบ เป็นบทเรียนแล้วว่าไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์อะไรกับผมและครอบครัวเลย สู้เพื่อเขา แต่เวลาอับเฉาเราไร้คนดูแล สำหรับผมเพียงพอแล้ว เมื่อเขาเห็นค่า เขาเห็นมูลค่าผม และชวนมาร่วมงาน ผมก็ยินดีเป็นอย่างยิ่ง” เจ๋ง ดอกจิก ระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งสองคนถือว่าเป็นบุคคลสำคัญของ นปช. หรือคนเสื้อแดง มีความใกล้ชิดกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตประธาน นปช. เคลื่อนไหวเคียงบ่าเคียงไหล่กับนายจตุพรมาโดยตลอด ถึงขั้นต้องเข้าคุกมาแล้ว สำหรับนายสมหวัง หรือเฮียหวัง ถือเป็นนายทุนคนสำคัญของคนเสื้อแดง อดีตเคยดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการ รมช.พาณิชย์ (นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ)

ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรค พปชร. เดินทางมาร่วมประชุมคณะกรรมการจัดทำนโยบายของพรรค พปชร. ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.เป็นประธาน

ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า วันนี้เข้ามาพรรค พปชร.ครั้งแรกหลังจากถูกขับออกไป และไม่ได้เข้ามาในรอบ 1 ปี ยอมรับว่าคิดถึงบ้านเก่าและผูกพัน เมื่อกลับมาครั้งนี้ยังอบอุ่นเหมือนเดิม โดยตลอดเวลาที่ผ่านมาถือว่าเป็นคนของพรรค พปชร. ที่ผ่านมาไม่ใช่คนหาเรื่องคน และนโยบายของพล.อ.ประวิตรคือก้าวข้ามความขัดแย้ง ดังนั้นอะไรที่ผ่านมาแล้วก็ให้ผ่านไปกับปีเก่า เริ่มต้นใหม่ทุกเรื่องทุกประเด็น โดยตนเป็น ส.ส.เขตที่คุ้นเคยภาคเหนือ จะช่วยดูแลในภาคเหนือ

ถามว่า ไม่กลัวกระแสแลนด์สไลด์ในพื้นที่ภาคเหนือของบางพรรคหรือ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ไม่ห่วง มั่นใจในการทำพื้นที่ แม้กระแสการเมืองครั้งนี้ต่างกับปี 2562 อย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การแก้ปัญหาน้ำและที่ดิน ที่เป็นผลงานโดดเด่นของพรรค ซึ่งตอนเป็นรัฐมนตรี ตนทำเรื่องนี้มาตลอด เพราะเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะการผลักดัน สปก.4-01 ก็จะต้องทำต่อ

ซักว่ามั่นใจจะผลักดันให้ พล.อ.ประวิตรเป็นนายกฯ คนที่ 30 ได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า จะพยายามผลักดันให้มาเป็นผู้นำของประเทศ ในสถานการณ์บ้านเมืองอย่างนี้ พล.อ.ประวิตรเหมาะสมที่สุด

พอถามว่า หลังเลือกตั้งถ้าพรรคการเมืองขั้วรัฐบาลเดิมชู พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นนายกรัฐมนตรี จะไม่ยกมือสนับสนุนใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ไม่สามารถไปกำหนดหรือให้คำตอบได้ว่าจะสนับสนุนหรือไม่ ต้องฟังคณะกรรมการและนโยบายของหัวหน้าพรรคก่อน

ส่วน พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค พปชร. ยืนยันสถานการณ์ภายในพรรคไม่มีปัญหา ทุกอย่างไม่มีอะไร พล.อ.ประวิตรให้มาทำงานก็ทำงานปกติ ไม่เป็นศัตรูกับใคร กับร.อ.ธรรมนัสก็คุยมาตั้งนานแล้ว จบแล้ว ไม่มีอะไรแล้ว ไม่ต้องเคลียร์

ป้อมคึก-ภท.ลุยกาญจน์

ขณะที่ พล.อ.ประวิตรได้เดินออกมาจากห้องประชุมอย่างอารมณ์ดี สีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมหยอกล้อกับนักข่าว โดยเมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงบรรยากาศการประชุมหลังจาก ร.อ.ธรรมนัสกลับเข้าพรรควันแรก ดูพรรคอบอุ่นเหมือนเดิมหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า อบอุ่นอยู่แล้ว เมื่อถามว่าจะมอบหมายให้ ร.อ.ธรรมนัสดูแลส่วนไหน พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ให้ดูแลพื้นที่ภาคเหนือ

ถามว่า เมื่อ ร.อ.ธรรมนัสกลับมาแล้วมั่นใจว่าพื้นที่ภาคเหนือจะได้ ส.ส.เพิ่มขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "ผมก็ไม่ทราบ สื่อล่ะรู้หรือไม่" เมื่อผู้สื่อข่าวกระเซ้าว่าวันนี้ดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ก็อารมณ์ดีทุกวัน มีวันไหนที่อารมณ์ไม่ดี พอซักว่าแสดงว่าฟิตพร้อมลงพื้นที่ตลอดใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรทำท่ามันเขี้ยวผู้สื่อข่าวพร้อมกล่าวว่า "โธ่เอ๊ย"

ที่ จ.กาญจนบุรี เวลา 16.30 น.นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) พร้อมแกนนำพรรค ลงพื้นที่พบปะชาวบ้าน ตลอดจนจัดเวทีปราศรัยใหญ่เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี ทั้ง 5 เขต ประกอบด้วย เขต 1 พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์, เขต 2 นายสมเกียรติ วอนเพียร, เขต 3 นายยศวัฒน์ มาไพศาลสิน, เขต 4 นายธรรมวิชญ์ โพธิพิพิธ และเขต 5 นายอัฏฐพล โพธิพิพิธ ซึ่งนายยศวัฒน์เป็น ส.ส.ของพรรค ภท.อยู่แล้ว ขณะที่ผู้สมัครคนอื่นๆ เคยเป็น ส.ส.พรรค พปชร.ก่อนที่จะย้ายมาพรรค ภท.

ทั้งนี้ นายอนุทินได้ขึ้นรถแห่พร้อมผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรีทั้ง 5 เขต และผู้บริหารพรรค เดินทางไปสักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมือง และบวงสรวงพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3

นายอนุทินกล่าวว่า พรรคมีผู้สมัครครบทุกเขต ซึ่งเป็น ส.ส.อยู่แล้ว เรามั่นใจว่าจะสานต่องานและทำประโยชน์ให้ชาวกาญจนบุรีได้ เราไม่กล้าบอกว่าจะแลนด์สไลด์หรือจะได้ทุกคน เพราะเป็นสิทธิ เป็นความเมตตาของประชาชนที่จะเลือก หากเข้าไปยกจังหวัดได้ก็สามารถที่จะทำให้เจริญได้อีกมากมาย และพรรคเองหากพื้นที่ไหนได้ยกจังหวัดเมื่อไหร่ก็รัฐมนตรีแน่นอน

ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค ปชป. กล่าวว่า พรรคจัดสัมมนาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคใต้ ระหว่างวันที่ 11-12 ก.พ. ที่ จ.นครศรีธรรมราช ภายใต้หัวข้อ "ประชาธิปัตย์ยุคใหม่ โอกาสใต้บ้านเรา" พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคใต้ทั้ง 58 เขต ซึ่งพื้นที่ในภาคใต้ขณะนี้มีความพร้อมแล้ว 100% มั่นใจประชาชนจะไว้วางใจ

ที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง จ.สุพรรณบุรี เวลา 16.00 น. พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) จัดเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งแรก “ชักธงรบ พร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง” มีประชาชนร่วมฟังกว่าหมื่นคน โดยนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรค ชทพ. พร้อมแกนนำพรรค เข้าสักการะศาลหลักเมือง และอนุสาวรีย์นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี

จากนั้น นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งระบุว่า  ชทพ.ต้องแลนด์สไลด์ในสุพรรณบุรี ทำไมตนใช้คำว่าแลนด์สไลด์ เป็นคำพูดทางการเมือง เมื่อแปลเป็นภาษาแปลว่าชัยชนะแบบถล่มทลาย เราต้องทำให้ ชทพ.ชนะทุกเขตเลือกตั้งในสุพรรณบุรี เราจะต้องทำให้เกิดนายกฯ คนที่ 2 ใน จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเราจะต้องได้ 24-25 ที่นั่ง พรรคเราต้องโตในสมัยหน้า

ต่อมานายวราวุธขึ้นเวทีปราศรัย ตอนหนึ่งระบุว่า เราไม่เน้นความขัดแย้ง ไม่เน้นสาดโคลนใส่คนอื่น สิ่งหนึ่งที่ตนภูมิใจคือ ไม่มีพรรคไหนในประเทศไทยที่สืบทอดได้ตั้งแต่รุ่นพ่อมารุ่นลูก ครั้งก่อนบอกว่าเราจะสูญพันธุ์ แต่เราฝ่าฟันมาได้ 12 ที่นั่ง และมีคนบอกว่านายบรรหารไม่อยู่สุพรรณบุรีก็แตก ชทพ.ก็แตก ดังนั้นเลือกตั้งครั้งหน้าเลือก ชทพ.ทั้งคน ทั้งพรรค เพราะถ้าไม่เลือกพรรค วราวุธสอบตกนะครับ

"มีหลายพรรครวมกับพรรคนั้นพรรคนี้ ผมขอรับประกันกับประชาชนชาวสุพรรณบุรีว่า จะให้ ชทพ.ไปรวมกับใคร รอให้ดินกลบหน้าวราวุธก่อนเถอะ  แต่ถ้าใครจะมารวมกับพรรคเรายินดีต้อนรับ มายิ่งเยอะยิ่งดี มาเลย" นายวราวุธกล่าว

มีรายงานว่า นายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้บินมาพักผ่อนส่วนตัวที่ประเทศสิงคโปร์ตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 ก.พ. โดยนายทักษิณจะได้ใช้เวลาเพื่อตรวจสุขภาพ รวมทั้งเช็กร่างกายหลังเคยเข้ารับการผ่าตัดถุงน้ำดีและไส้เลื่อนเมื่อวันที่ 10 ก.ค.65 อย่างไรก็ตาม มีการจับตาว่าจะมีบุคคลใกล้ชิด รวมทั้ง ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ทยอยเดินทางไปพบปะและเยี่ยมคารวะสองอดีตนายกฯ เป็นจำนวนมาก เนื่องจากใช้เวลาเดินทางไม่นาน ทั้งนี้ นายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์จะใช้เวลาอยู่ในประเทศสิงคโปร์จนถึงวันที่ 16 ก.พ. ก่อนเดินทางกลับนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ต่อไป.