“บิ๊กตู่” เอาจริง! สั่งลงดาบเข้มข้าราชการทำผิดวินัยร้ายแรง ก.พ.รับลูกออกจดหมายเวียนแล้ว ตีเส้น 3 แนวทางดุ ย้ายจากที่ตั้ง-ให้ออก-พักราชการ แห่สมัคร ก.อ.ผู้ทรงคุณวุฒิ ผงะ! เนตรก็มา โชว์วิสัยทัศน์ “อยู่กันอย่างพี่น้อง มีสุขเราแบ่งปัน มีทุกข์เราไม่ทอดทิ้งกัน”
เมื่อวันที่ 12 ก.พ.2566 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีข้อสั่งการให้ความสำคัญกับเรื่องวินัยและจริยธรรมของข้าราชการ หากพบข้าราชการกระทำผิดวินัยและจริยธรรมร้ายแรง ให้ใช้มาตรการทางการบริหารแก่ข้าราชการที่มีพฤติการณ์เข้าข่ายกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง พร้อมกำชับสร้างความเป็นธรรมในการสอบสวนและให้ดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุดนั้น ล่าสุดนายปิยวัฒน์ ศิวรักษ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ได้ลงนามหนังสือเวียนที่ นร 1011/ ว 4 เรื่อง การกำชับแนวทางการใช้มาตรการทางการบริหารแก่ข้าราชการ ที่มีพฤติการณ์เข้าข่ายกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ลงวันที่ 10 ก.พ.2566 ถึงกระทรวง กรม จังหวัดทั่วประเทศ พร้อมทั้งแนบแนวทางการใช้มาตรการทางการบริหารแก่ข้าราชการที่มีพฤติการณ์เข้าข่ายกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง
นายอนุชากล่าวว่า หนังสือสำนักงาน ก.พ.ที่ นร 1011/ว 4 ลงวันที่ 10 ก.พ.2566 นั้น มีสาระสำคัญกำชับให้ผู้บังคับบัญชากำกับดูแลให้ข้าราชการประพฤติปฏิบัติตนให้อยู่ในกรอบของคุณธรรม จริยธรรม และวินัย และให้ผู้บังคับบัญชานำมาตรการทางการบริหารมาใช้เป็นเครื่องมือในการดำเนินการแก่ข้าราชการที่มีพฤติการณ์ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง เช่น การเรียกรับเงินในการแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่ง การอาศัยตำแหน่งหน้าที่ของตนเรียกรับผลประโยชน์ที่มิควรได้อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการดำเนินการในเรื่องที่อยู่ในความสนใจของทางสาธารณชน หรือเรื่องที่มีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของทางราชการ ทั้งนี้ สามารถใช้มาตรการทางการบริหารมาดำเนินการแก่ข้าราชการที่มีพฤติการณ์เข้าข่ายกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ดังนี้
1.กรณีที่ข้าราชการผู้นั้นถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงจนถูกตั้งกรรมการสอบสวนหรือถูกฟ้องคดีอาญา หรือต้องหาว่ากระทำความผิดอาญา เว้นแต่เป็นความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษให้รีบดำเนินการ ดังนี้ (1) กรณีมีเหตุอย่างหนึ่งอย่างใดตามข้อ 78 ของกฎ ก.พ.ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ.2556 ให้ผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอำนาจสั่งบรรจุตามมาตรา 57 พิจารณาสั่งให้ผู้นั้นพักราชการโดยเร็ว, กรณีที่มีเหตุที่อาจถูกสั่งพักราชการตาม (1) และผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอำนาจสั่งบรรจุตามมาตรา 57 พิจารณาเห็นว่าการสอบสวนหรือพิจารณาหรือการดำเนินคดีนั้นจะไม่แล้วเสร็จโดยเร็ว ให้พิจารณาสั่งให้ผู้นั้นออกจากราชการไว้ก่อนตามข้อ 83 ของกฎ ก.พ. ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ.2556 โดยเร็ว
2.กรณีที่มีเหตุผลความจำเป็นตามข้อ 2 ของกฎ ก.พ. ว่าด้วยการสั่งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ประจำส่วนราชการเป็นการชั่วคราว พ.ศ.2554 ให้ผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอำนาจสั่งบรรจุตามมาตรา 57 พิจารณาสั่งให้ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้นั้นประจำกระทรวง ประจำกรม หรือประจำจังหวัด แล้วแต่กรณีเป็นการชั่วคราว โดยให้พ้นจากตำแหน่งหน้าที่เดิมโดยเร็ว
3.กรณีที่ไม่มีเหตุที่จะสั่งพักราชการหรือสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนตามกฎ ก.พ. ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ. 2556 หรือสั่งให้ประจำส่วนราชการตามกฎ ก.พ. ว่าด้วยการสั่งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ประจำส่วนราชการเป็นการชั่วคราว พ.ศ.2554 ให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดินโดยเร็ว เช่น การสับเปลี่ยนหมุนเวียนงาน การย้ายไปปฏิบัติหน้าที่อื่น
“นายกฯ ให้ความสำคัญกับเรื่องวินัยและจริยธรรมของข้าราชการ กำชับให้ใช้มาตรการทางการบริหารแก่ข้าราชการที่มีพฤติการณ์เข้าข่ายกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ให้ดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด หากพบข้าราชการกระทำผิดวินัยและจริยธรรมร้ายแรง ตลอดจนเพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นในการดำเนินการของส่วนราชการ” นายอนุชากล่าว
ขณะเดียวกัน สํานักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ได้เผยเเพร่เอกสารข้อมูลในการแนะนำตัว ประวัติการทำงาน ผลงาน และวิสัยทัศน์ เกี่ยวกับการปฏิบัติงานในหน้าที่เพื่อรับการเลือกตั้งเป็นคณะกรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิ (ก.อ.) ปี 2566 เพื่อมาแทนตำแหน่ง ก.อ.ที่จะครบวาระในวันที่ 15 มี.ค.2566 โดย ก.อ.ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการงบประมาณ ด้านการพัฒนาองค์กร หรือด้านการบริหารจัดการ มีผู้สมัครคือ นายณัฐเมศร์ เรืองพิชัยพร อนุกรรมาธิการติดตามการปฏิรูปด้านสังคมกิจการ ผู้สูงอายุและสังคมสูงวัย วุฒิสภา, นายนันทวัชร์ สุพัฒนานนท์ คณะกรรมการอุทธรณ์และร้องทุกข์ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร, ผู้ช่วย ศ.ดร.ปารีณา ศรีวนิชย์ คณบดีคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, นายภูมิ มูลศิลป์ คณบดีคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, นายยุทธนา สาโยธนกร รองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ และ รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน)
ก.อ.ผู้ทรงคุณวุฒิ ประเภทผู้รับบำเหน็จหรือบำนาญ มีผู้สมัครคือ นายเนตร นาคสุข, นายพงษ์ศักดิ์ แก้วกมล, นายวินัย ดำรงมงคลกุล, นายวิภาส สระรักษ์ และนายสัมพันธ์ สาระชนะ ส่วน ก.อ.ผู้ทรงคุณวุฒิ ประเภทข้าราชการอัยการชั้น 5 ขึ้นไป มีผู้สมัครคือ นายกรุณา พันธุ์เพ็ชร, นายจิระประวัติ แบบประเสริฐ, นายชวรัตน์ วงศ์ธนะบูรณ์, นายชัยนันท์ งามขจรกุลกิจ, นายธรัมพ์ ชาลีจันทร์, นายประยุทธ เพชรคุณ, นายพงศ์พิเชษฐ์ จันทรพรกิจ, นางพัชรางสุ์ ชัยวรมุขกุล, นายพีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์, นายวิรุฬห์ ฉันท์ธนนันท์, รท.สายันต์ สุโขพืช และนายอดิศร ไชยคุปต์
สำหรับการเสนอตัวเข้ารับเลือกเป็น ก.อ.ผู้ทรงคุณวุฒิครั้งนี้ ที่น่าสนใจคือ ก.อ.ผู้ทรงคุณวุฒิ ประเภทข้าราชการอัยการชั้น 5 ขึ้นไป ซึ่งมีผู้สมัครมากถึง 12 คน โดยอัยการที่เสนอตัวลงรับเลือกตั้งที่โดดเด่นน่าจับตาคือ นายประยุทธ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งซ่อม ก.อ.ครั้งที่เเล้วที่ได้คะแนนสูงสุด, นายวิรุฬห์ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยนั่งตำเเหน่งที่คุมคดีสำคัญทั้งจากสำนักงานคดีเศรษฐกิจเเละคดีพิเศษ เคยได้คะแนนจากการเลือกตั้งซ่อม ก.อ.ครั้งที่เเล้วเป็นอันดับ 2, นายพีระพัฒน์ อัยการผู้เชี่ยวชาญประจำสำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งมีฐานคะเเนนจากเพื่อนร่วมรุ่นในฐานะประธานอัยการจังหวัดรุ่น 39, นายธรัมพ์ โฆษก อสส.หลายสมัย และเคยนั่งอธิบดีอัยการสำนักงาน ก.อ. และนายกรุณา ที่ได้แสดงวิสัยทัศน์คือสนับสนุนอัยการให้มีบทบาททัดเทียมอัยการสากล ทั้งผลักดันสวัสดิการให้ทัดเทียมกับศาลยุติธรรมเเละเป็นที่พึ่งของประชาชน
ในส่วนประเภทผู้รับบำเหน็จหรือบำนาญ มีชื่อนายเนตร ที่มีคำสั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ในคดีขับรถชนตำรวจเสียชีวิตเมื่อปี 2555 นั้น ได้เเสดงวิสัยทัศน์สั้นๆ ว่า “ไม่ว่ารับราชการมากกว่า 40 ปี ยึดมั่นอุดมการณ์ตามแนวบรรพอัยการ ที่ว่าอัยการเราอยู่กันอย่างพี่น้อง มีสุขเราแบ่งปัน มีทุกข์เราไม่ทอดทิ้งกัน”
สำหรับขั้นตอนการเลือกตั้ง ก.อ.ปี 2566 จะมีการส่งบัตรลงคะเเนนไปยังอัยการทั่วประเทศ ในวันที่ 17 ก.พ. เเละจะปิดหีบรับบัตรคะเเนนในวันที่ 9 มี.ค.เเละจัดให้มีการนับคะแนนในวันที่ 10 มี.ค. ก็จะได้ทราบผลการเลือกตั้งว่าที่ ก.อ.ทั้ง 8 คน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ลุยมาเฟียปราจีนฯ ไร้เงาคนสนิทโกทร
นายกฯ อิ๊งค์พร้อมนั่งหัวโต๊ะทีมเฉพาะกิจปราบมาเฟียตามบัญชาพ่อ
พท.ฝัน‘หน่อย’ ชิงอบจ.โคราช ในนามเพื่อไทย
“อนุทิน” ตอกย้ำ “ภูมิใจไทย” ไม่ลงเล่นสนามท้องถิ่น เด็กเพื่อไทยยังหวัง
ตีปี๊บโลกยกย่องนายกฯ ‘แพทองธาร’ไปมาเลย์
“รมต.น้ำ” แห่ตีปี๊บ “ฟอร์บส์” จัดอันดับ “แพทองธาร” ติดอันดับ 29
เชื่อ2วัน‘น้ำท่วมใต้’ลดลง
นายกฯ กำชับ ศปช.เร่งบรรเทาน้ำท่วมใต้ 4 จังหวัดยังหนัก คาด 2 วันคลี่คลาย
อิ๊งค์แก้ต่างแทนพ่อ อ้างพูดให้พรรคร่วมช่วยกัน/อนุทินชี้ดรามาจบแล้ว
“อิ๊งค์” แจง "พ่อนายกฯ" พูดถึงพรรคร่วมในภาพกว้าง ต้องช่วยกัน
‘หนู’ ลั่นฟังแค่ ‘อิ๊งค์’ ยันร่วมรัฐบาลเป็นไฟต์บังคับ ‘ทักษิณ’ พูดไม่นำพา
"อนุทิน" ลั่น! รับสัญญาณจากนายกฯ อิ๊งค์เท่านั้น ยันที่ "ทักษิณ" พูดไม่ได้หมายถึงรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย "ท่านทักษิณพูดถึงพรรคที่ไม่เข้าร่วมประชุม ผมก็ไม่นำพาไปฟังอะไรมาก"